เชียร์ SCB อัพเป้าราคาเป็น 148 บาท เพิ่มกำไรปี 68-70 ปันผลสูงยาว-ลดสำรอง

HoonSmart.com>>บล. CGSI  แนะนำซื้อหุ้น “เอสซีบี เอ็กซ์” (SCB) ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 148 บาท เพิ่มกำไรต่อหุ้น (EPS) ปี 68-70 ขึ้น 1.8-7.6% คาดอัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูงมากกว่า 8% ยาวถึงปี 70 ไม่จำเป็นต้องเตรียมเงินขยายสินเชื่อ คาดรายได้มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ลดค่าใช้จ่ายได้เยอะ ระวังความเสี่ยง NPLs เพิ่ม  ด้านราคาหุ้นวันนี้ลดลง 2 บาท เท่ากับขึ้น XD สิทธิรับเงินปันผลกลางปีนี้ 

ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า บริษัท เอสซีบี เอกซ์ (SCB) แยกธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคออกเป็นบริษัทย่อย 5 แห่งในปี 2565 เพราะจะขยายพอร์ตสินเชื่อกลุ่มนี้ในเชิงรุก อย่างไรก็ตาม สภาพแวดล้อมมหภาคการเปลี่ยนแปลงกฎหมายและหลักเกณฑ์ต่างๆไม่เป็นผลดีต่อการขยายพอร์ตสินเชื่อ จึงเพิ่มความเข้มงวดมาตรฐานการให้สินเชื่อของธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคในปี 2567 ส่งผลให้พอร์ตสินเชื่อของบริษัทย่อยหดตัวลง ทั้ง CardX ที่ประกอบธุรกิจสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล และ AutoX ที่ประกอบธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ทำให้สินเชื่อรถยนต์ภายใต้ธุรกิจธนาคารชะลอตัวมาตั้งแต่ต้นปี 2567

ในการประชุมนักวิเคราะห์ไตรมาส 2/2568 ผู้บริหาร SCB กล่าวว่าให้ความสำคัญกับคุณภาพสินเชื่อมากกว่าการเติบโตของสินเชื่อ จึงทำให้งบดุลมีส่วนเกินทุน (อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (CAR) 19% ณ สิ้น ไตรมาส 2/2568 เทียบกับเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ 12%) การบริหารเงินทุนที่โดดเด่นพร้อมทั้งมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง

SCB ยังตั้งเป้าเพิ่มอัตราผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น (ROE) ด้วยการกำหนดนโยบายจ่ายเงินปันผลที่เหมาะสม โดยจ่ายเงินปันผลในอัตรา 80% ของกำไรสุทธิในปี 2566-2567 และฝ่ายวิเคราะห์ CGSI คาดว่าอัตราการจ่ายเงินปันผลในปี 2568-2570 จะไม่เปลี่ยนแปลง yoy เนื่องจาก มี CAR อยู่ที่ 19% และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ที่ 17.9% ในไตรมาส 2/2568 นอกจากนี้การที่ยอดสินเชื่อมีแนวโน้มเติบโตชะลอตัวในปี 2568-2570 น่าจะทำให้ SCB ไม่จำเป็นต้องสะสมกำไรไว้เพื่อขยายพอร์ต

ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI ปรับประมาณการกำไรต่อหุ้น (EPS) ในปี 2568-2570 ขึ้น 1.8-7.6%หลังปรับสมมติฐานอัตราการเติบโตของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย จาก 2.4-9.0% เป็น 3.1-3.8%สะท้อนรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยที่แท้จริงในครึ่งปีแรก 2568 นอกจากนี้ยังปรับลดสมมติฐานอัตราการสำรองหนี้สูญจาก 162-177bp เป็น 167-172bp ในปี 2568-2570 เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางที่ SCB ให้ไว้สำหรับปี 2568 รวมทั้งปรับลดอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จาก 42.2-42.7% เป็น 41.6-42.1% ในปี 68-70 เพราะคาดว่ารายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจะเพิ่มสูงขึ้น

ฝ่ายวิเคราะห์ฯ ปรับราคาเป้าหมายของ SCB ขึ้นเป็น 148 บาท ซึ่งจะเท่ากับ P/BV 1 เท่าในปี 2568 จากเดิม 0.88 เท่า ทั้งนี้เป้า P/BV เพิ่มสูงขึ้น หลังปรับเพิ่มประมาณการกำไรและปรับลดสมมติฐาน cost of equity เพราะคาดว่าค่า beta จะลดลง ขณะที่ยังแนะนำ “ซื้อ” เพราะมองว่าอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล ที่ 8.2-8.9% ต่อปีในปี 2568-2570 ยังน่าสนใจและ ROE น่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 9.0-9.5%

อย่างไรก็ ตาม SCB จะมี downside risk หาก NPLs พุ่งสูงขึ้นจากสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย,สินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อ ส่วนบุคคลแบบไม่มีหลักประกัน รวมถึงการมีรายได้ค่าธรรมเนียมต่ำกว่าคาด

ส่วนปัจจัยบวกที่จะช่วยหนุนคือความสำเร็จของมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้และมาตรการลดค่าใช้จ่ายของ  SCB

สำหรับการซื้อขายหุ้น SCB ครึ่งวันที่ 2 ก.ย. 2568 ราคาปิดที่  127  บาท ลดลง 2 บาทหรือ -1.56% ด้วยมูลค่าการซื้อขายรวม  583.06 ล้านบาท หลังจากขึ้นเครื่องหมาย XD จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 2 บาท