HoonSmart.com>>ดัชนีกลุ่มปิโตรเคมีพุ่ง 3.87% หุ้น PTTGC-IRPC-IVL-SCC ขึ้นนำกลุ่ม รับแรงเก็งกำไรหลังราคายัง Laggard และได้ Sentiment บวกจากจีน-เกาหลีใต้-ญี่ปุ่น ลดกำลังการผลิต คาดหวังสเปรดปิโตรฯ จะดีขึ้น
หุ้นกลุ่มปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ ปรับตัวขึ้นเด่น ดัชนีกลุ่มปิดที่ 559.96 จุด +15.08 จุด หรือ 2.77% มูลค่าซื้อขายทั้งกลุ่ม 1,905.83 ล้านบาท
หุ้นที่ปรับตัวขึ้นโดดเด่น ประกอบด้วย
หุ้น PTTGC ปิดที่ 27.75 บาท +1.50 บาท หรือ 5.71% มูลค่าซื้อขาย 1,239.96 ล้านบ.
หุ้น IRPC ปิด 1.12 บาท +0.05 บาท หรือ 4.67% มูลค่าซื้อขาย 273.78 ล้านบ.
หุ้น IVL ปิด 21.90 บาท +0.10 บาท หรือ 0.46% มูลค่าซื้อขาย 664.94 ล้านบ.
หุ้น SCC
หุ้น IVL บวก 3.21% มาที่ 22.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท มูลค่าซื้อขาย 272.49 ล้านบาท
หุ้น SCC บวก 1.40% มาที่ 218 บาท เพิ่มขึ้น 3 บาท มูลค่าซื้อขาย 481.77 ล้านบาท
“ล่าสุด 3 บริษัทปิโตรเคมีรายใหญ่ในญี่ปุ่น ได้แก่ Asahi Kasei, Mitsui Chemicals และ Mitsubishi Chemical ประกาศเตรียมลดกำลังการผลิตโรงแยก Ethylene (C2) ภายในปี 2573 เพื่อปรับปรุงกระบวนการผลิต ทำให้เป็นปัจจัยที่หนุนต่อซัพพลายลดลง และเป็นแรงหนุนต่อภาพรวมของอุตสาหกรรมปิโตรเคมี หลังจากทางฝั่งเกาหลีลดการผลิตปิโตรเคมีลงไปก่อนหน้านี้” บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ระบุ
นายเบญจพล สุทธิ์วนิช รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้นในกลุ่มปิโตรเคมียังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุนเข้ามาเล่นเก็งกำไร เนื่องจากราคาหุ้นยัง Laggard อยู่ และได้ Sentiment บวกจากจีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น สั่งลดกำลังการผลิตปิโตรเคมี เกิดความคาดหวังสเปรดปิโตรเคมีจะดีขึ้น อีกทั้งยังมีบางโบรกเกอร์เชียร์ให้ลงทุนหุ้นในกลุ่มปิโตรเคมีด้วย
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันสเปรดปิโตรเคมียังปรับตัวลงอยู่ ทั้งสเปรด PP และ PE ซึ่งปีนี้ Supply จะเข้ามาประมาณ 12 ล้านตัน แต่จีน และเกาหลีใต้ ทั้งสองประเทศลดกำลังการผลิตไปได้แค่ 3 ล้านตัน ดังนั้นจึงยังคง Oversupply อยู่ ส่วนทางญี่ปุ่นขณะนี้ยังไม่เห็นกำลังการผลิตที่ชัดเจน
ทั้งนี้ หุ้นในกลุ่มปิโตรเคมีคงแนะนำ”ซื้อ”หุ้น SCC เท่านั้น เนื่องจากดีมานด์ซีเมนด์จะฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง และยังได้ผลบวกจาก Cost Saving (การประหยัดหรือลดค่าใช้จ่าย)ด้วย
———————————————————————————————————————————————————–

