HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวขึ้น โดยดาวโจนส์บวก 71.67 จุด, S&P500 บวก 20.46 จุด, Nasdaq พุ่ง 115.02 จุด แรงหนุน GDP ไตรมาส 2 แข็งแกร่ง-จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานลดลง-ผลงาน NVIDIA ยืนยัน AI โต ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ จากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ ส่วนราคาน้ำมันขยับขึ้น
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 28
สิงหาคม 2568 และดัชนี S&P 500 ต่างปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลข GDP ที่แข็งแกร่งเกินคาด จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกที่ลดลงจากสัปดาห์ที่แล้ว รวมถึงผลประกอบการและการคาดการณ์ของ NVIDIA ที่ยืนยันถึงการเติบโตของ AI
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 45,636.90 จุด เพิ่มขึ้น 71.67 จุด หรือ +0.16% ฟื้นตัวขึ้นเกือบ 200 จุดจากระดับต่ำสุดของวัน
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,501.86 จุด เพิ่มขึ้น 20.46 จด, +0.32% เป็นการปิดเหนือระดับ 6,500 จุดครั้งแรก
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 21,705.16 จุด เพิ่มขึ้น 115.02 จุด, +0.53%
NVIDIA ซึ่งมีน้ำหนักประมาณ 8% ของดัชนี S&P 500 ตามข้อมูลของ FactSet รายงานผลประกอบการไตรมาสสองสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยรายได้เติบโตถึง 56% แต่ก็มีข้อกังวลเบื้องต้น 2-3 ข้อ ข้อแรก รายได้ของธุรกิจดาตาเซ็นเตอร์ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อย ข้อสอง บริษัทคาดการณ์รายได้รวมสำหรับไตรมาสนี้ไว้ที่ 5.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์สำรวจโดย LSEG คาดการณ์ไว้เล็กน้อยที่ 5.31 หมื่นล้านดอลลาร์
หุ้น NVIDIA อยู่ภายใต้แรงกดดันตลอดทั้งวัน ยกเว้นช่วงเปิดตลาดที่ราคาดีดตัวขึ้นเล็กน้อย และสุดท้ายปิดตลาดลดลง 0.8% เทรดเดอร์และนักวิเคราะห์หลายรายตั้งข้อสังเกตว่าประมาณการรายได้ไม่ได้คาดการณ์ยอดขายชิป H20 ให้กับจีน หากสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการขายชิปเหล่านี้ร่วมกับจีนและรัฐบาลทรัมป์ได้ รายได้ในไตรมาสนี้อาจดีกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก
NVIDIA ย้ำว่าความต้องการชิป AI ซึ่งขับเคลื่อนแอปพลิเคชันอย่าง ChatGPT จากดาตาเซ็นเตอร์ระยะไกลนั้นอยู่ในระดับสูง ซึ่งช่วยขจัดความกังวลล่าสุดเกี่ยวกับฟองสบู่ AI ที่กำลังจะแตก ซีอีโอ เจนเสน หวง กล่าวถึงความต้องการมหาศาลสำหรับ Blackwell AI GPU (หน่วยประมวลผลกราฟิก) ของบริษัท
นักวิเคราะห์เซมิคอนดักเตอร์หลายรายเริ่มมีมุมมองเชิงบวกต่อ Nvidia มากขึ้น โดยปรับเพิ่มเป้าหมายราคาหุ้นขึ้น JPMorgan, Citi และ Bernstein เป็นบริษัทในวอลล์สตรีทที่มองว่าบริษัทผู้ผลิตชิปรายนี้จะมีศักยภาพในการเติบโตที่มากขึ้น
ผู้ผลิตชิปรายอื่นๆ ที่ร่วงลงในช่วงแรกฟื้นตัวขึ้น โดย Broadcom ปิดตลาดบวก 2.8% Micron Technology เพิ่มขึ้น 3.6% เป็นสัญญาณว่านักลงทุนหลายรายเชื่อว่าผลประกอบการของ Nvidia ช่วยให้การซื้อขายในธีม AI ไปต่อได้
ขณะเดียวกัน หุ้น Snowflake ที่ซื้อขายในธีมAI พุ่งขึ้น 20% หลังจากผลประกอบการไตรมาสสองสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ หุ้น HP พุ่งขึ้น 4.6% หลังเปิดเผยรายได้รายไตรมาสสูงเกินคาด จากความต้องการคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI
อีกหนึ่งปัจจัยที่หนุนตลาดคือ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาสที่สอง จากกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเติบโต 3.3% ต่อปี ดีกว่า 3.0% ที่คาดการณ์ไว้เบื้องต้น และดีกว่า 3.1% ที่นักวิเคราะห์คาด
รวมไปถึง ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้วจาก กระทรวงแรงงานที่ลดลง 5,000 ราย มาที่ 229,000 ราย ต่ำกว่า 231,000 รายที่นักวิเคราะห์คาด
นักลงทุนยังคงจับตาข้อพิพาทระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และลิซา คุก ที่ถูกทรัมป์ปลดจากตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) เมื่อวันพฤหัสบดี คุกได้ฟ้องร้องประธานาธิบดีหลังจากปฏิเสธที่จะยอมรับจดหมายเลิกจ้างของเขาเมื่อต้นสัปดาห์นี้ ซึ่งถือเป็นบททดสอบครั้งใหญ่ที่สุดที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นอิสระของธนาคารกลางจากอิทธิพลของฝ่ายบริหาร
นอกจากนี้นักลงทุนจับตาไปที่รายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล หรือ PCE ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ ที่จะเผยแพร่ในเย็นวันศุกร์ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า Core PCE ซึ่งไม่รวมต้นทุนอาหารและพลังงาน จะขยายตัว 2.9% จากปีที่แล้ว ซึ่งอาจเป็นอัตราการขยายตัวที่เร็วที่สุดในรอบ 5 เดือน และสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของเฟดอย่างมาก
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ จากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ ขณะที่นักลงทุนประเมินผลประกอบการของ Pernod Ricard และ Nvidia ผู้นำด้านชิป AI
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 553.67 จุด ลดลง 1.09 จุด. -0.20%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 9,216.82 จุด ลดลง 38.68 จุด, -0.42%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,762.60 จุด เพิ่มขึ้น 18.67 จุด, +0.24%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 24,039.92 จุด ลดลง 6.29 จุด, -0.03%
หุ้นเซมิคอนดักเตอร์ของยุโรปเคลื่อนไหวในทิศทางที่ต่างกัน เนื่องจากนักลงทุนวิเคราะห์แนวโน้มธุรกิจดาตาเซ็นเตอร์ของ Nvidia ที่ไม่เป็นไปตามที่นักวิเคราะห์บางคนคาดการณ์ไว้
หุ้น ASML ปิดลบ หุ้น BESI ทรงตัว ส่วน Infineon และ ASM International เพิ่มขึ้น 1.2% และ 3.7% ตามลำดับ
หุ้น Pernod Ricard ผู้ผลิตสุรา เพิ่มขึ้น 1.4% หลังจากรายงานยอดขายและกำไรประจำปีลดลงต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ และคาดการณ์แนวโน้มการฟื้นตัวจากช่วงครึ่งหลังของปีงบประมาณ 2026 หุ้น Remy Cointreau ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่งปรับขึ้น 1% ขณะที่ LVMH ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่เพิ่มขึ้น 2.2%
หุ้นเหล่านี้ช่วยให้ดัชนี CAC 40 ซึ่งเป็นดัชนีอ้างอิงของฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น 0.2% ฟื้นตัวขึ้นบ้างหลังจากร่วงลงเมื่อต้นสัปดาห์นี้ จากความกังวลเกี่ยวกับรัฐบาลนายกรัฐมนตรี ฟรองซัวร์ส บายรูอาจล่มในเดือนหน้า
ความวุ่นวายทางการเมืองในฝรั่งเศสและความกังวลเกี่ยวกับความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐฯ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ปลดผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นยุโรปในสัปดาห์นี้
คณะกรรมาธิการยุโรปได้เสนอให้ยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ที่จะส่งผลให้สหรัฐฯ ลดภาษีนำเข้ารถยนต์ยุโรปย้อนหลัง
ข้อมูลแสดงให้เห็นว่ายอดขายรถยนต์ใหม่ในยุโรปเพิ่มขึ้น 5.9% ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นเดือนที่ดีที่สุดในรอบกว่าหนึ่งปี นับเป็นแรงกระตุ้นสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมที่กำลังประสบปัญหา
หุ้นรถยนต์ยุโรปเพิ่มขึ้น 0.6% หุ้นกลุ่มเหมืองแร่เพิ่มขึ้น 0.7% ตามราคาทองแดงที่สูงขึ้น แต่หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ลดลง 0.8% โดย Sanofi ลดลง 1.4%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 45 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 64.60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 56 เซนต์ หรือ 0.84% ปิดที่ 68.62 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
———————————————————————————————————————————————————–
