HoonSmart.com>>กระทรวงพาณิชย์ เผยส่งออกเดือนก.ค.ยังดีเกินคาด เพิ่มขึ้น 11% ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 โตสองหลักติดต่อเดือนที่ 7 เกินดุลการค้าเป็นเดือนที่ 3 รวม 7 เดือนส่งออกขยายตัว 14.4% สูงในเกือบทุกกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม สินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัว 10.9% อาหารสัตว์เลี้ยง ขยายตัว 9.1% ต่อเนื่อง 22 เดือน แรงส่งหุ้น ITC พุ่งขึ้น 4.68% นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำซื้อ
สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า ในเดือนก.ค.2568 การส่งออกมีมูลค่า 28,580 ล้านดอลลาร์ (928,342 ล้านบาท) ขยายตัว 11% จากตลาดคาดโต 9.6-10% ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 28,258 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ไทยเกินดุลการค้า 322 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ ส่งออกขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 ขยายตัวในระดับ 2 หลัก (digit) ต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่ 7 นับตั้งแต่ ม.ค.2568 และยังเกินดุลการค้าต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3
รวม 7 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.ค.2568) การส่งออก มูลค่า 195,432 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 14.4% ส่วนการนำเข้า มีมูล่า 195,172 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 10.6% ส่งผลให้ช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ เกินดุลการค้า 260 ล้านดอลลาร์
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) โฆษกกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การส่งออกในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัวที่ 16.6% เติบโตได้อย่างต่อเนื่องแม้จะเข้าใกล้วันสิ้นสุดมาตรการยกเว้นภาษีศุลกากรตอบโต้ของสหรัฐฯ ในเดือนส.ค. ผู้นำเข้าทั่วโลกยังคงเร่งนำเข้าเพื่อปิดความเสี่ยง ประกอบกับการที่รัฐบาลไทยสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนว่าจะสามารถบรรลุผลการเจรจาอัตราภาษีกับสหรัฐฯ ได้อย่างลุล่วง และพร้อมมีมาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบด้านภาษีของสหรัฐฯ เป็นปัจจัยที่ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นต่อธุรกิจส่งออกของไทย และดุลการค้าเกินดุลต่อเนื่องเป็นเดือนที่สาม
“ส่งออกขยายตัวในอัตราสูงในเกือบทุกกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม รวม 7 เดือนแรก ขยายตัว 14.4%หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัว 14.5%”นายพูนพงษ์กล่าว
อย่างไรก็ตามคาดว่าการส่งออกในช่วงตั้งแต่เดือนส.ค.เป็นต้นไป จะเริ่มขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง แต่ยังเป็นบวกอยู่ ผลจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ เป็นสำคัญ และเตรียมจะทบทวนเป้าหมายการส่งออกในปีนี้ใหม่ หลังจากหารือกับผู้ประกอบการภาคเอกชนแล้ว ตอนนี้ ยังคงเป้าเติบโตไว้ที่ 2-3% แต่ก็มีโอกาสที่จะโตได้มากกว่านี้
สำหรับการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรขยายตัว 10.9% (YoY) ขยายตัวต่อเนื่อง 3 เดือนโดยสินค้าเกษตร ขยายตัว 21.5% ขยายตัวต่อเนื่อง 3 เดือน ในขณะที่สินค้าอุตสาหกรรมเกษตร หดตัว 0.2% กลับมาหดตัวในรอบ 4 เดือน โดยมีสินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง ขยายตัว 107.7%ขยายตัวต่อเนื่อง 3 เดือน (ขยายตัวในตลาดจีน อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฮ่องกง และเกาหลีใต้) ไก่สด แช่เย็น แช่แข็ง และแปรรูป ขยายตัว 9.8% ขยายตัวต่อเนื่อง 10 เดือน (ขยายตัวในตลาดญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ มาเลเซีย และเนเธอร์แลนด์) อาหารสัตว์เลี้ยง ขยายตัว 9.1% ขยายตัวต่อเนื่อง 22 เดือน (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ ญี่ปุ่น อิตาลี ออสเตรเลีย และมาเลเซีย)
ทางด้านการซื้อขายหุ้นส่งออกวันที่ 25 ส.ค. 2568 ส่วนใหญ่ราคาปรับตัวขึ้น อาทิ บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น (ITC) ปรับตัวขึ้นสูงสุดแตะ 15.50 บาท ก่อนมาปิดที่ 15.10 บาท บวก 0.70 บาทหรือ +4.86% โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำซื้อ บล.กสิกรไทยให้ราคาเป้าหมาย 15 บาท มองท้องฟ้าข้างหน้าจะสดใสขึ้น บริษัทให้กรอบอัตรากำไรขั้นต้นปี 2568 ที่ 23-25% และงบดุลยังแข็งแกร่ง มีเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้นรวม 12,000 ล้านบาท
บล.กสิกรไทยปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2569-2570 ปีละ 1% คาดปีนี้มีกำไรสุทธิ 3,454 ล้านบาท เติบโต 545 ล้านบาทหรือ 18.73% และปีหน้ากำไรสุทธิ 3,744 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 290 ล้านบาท หรือ 8.40% บล.ทิสโก้ แนะนำ ซื้อ ให้ราคาเป้าหมาย 18.50 บาท โดยบล.โกลเบล็กให้เป้าหมายสูงที่สุด 22 บาท
