บล.กสิกรฯมองหุ้นยังไม่ถึง 1,300 สัปดาห์หน้าลุ้นการเมือง

HoonSmart.com>>บล.กสิกรไทยให้แนวรับที่ 1,240 และ 1,215 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,260 และ 1,285 จุด แกว่งขึ้นลงตามตัวเลขส่งออกเดือนก.ค.-ประเด็นการเมือง-ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ส่วนแนวโน้มค่าเงินบาทสัปดาห์หน้า ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบเคลื่อนไหวกว้างระดับ 32.10-33.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยมองหุ้นสัปดาห์ถัดไป (25-29 ส.ค. 2568) ว่าดัชนีหุ้นมีแนวรับที่ 1,240 และ 1,215 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,260 และ 1,285 จุด ตามลำดับ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขส่งออกเดือนก.ค. ของไทย ประเด็นการเมืองในประเทศ รวมถึงทิศทางเงินทุนต่างชาติ

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคล ดัชนี PCE/Core PCE Price Index เดือนก.ค. ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2568 รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศอื่น ๆ ได้แก่ กำไรบริษัทภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค. ของจีน ตลอดจนยอดค้าปลีกและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค. ของญี่ปุ่น

สัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนี SET Index ร่วงลงแรงช่วงต้นสัปดาห์หลังสิ้นสุดช่วงประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/2568 ประกอบกับนักลงทุนกลับมากังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในประเทศ นอกจากนี้ ดัชนีหุ้นยังมีแรงกดดันเพิ่มเติมจากแรงขายต่อเนื่องในหุ้นบริษัทสายการบินรายใหญ่แห่งหนึ่งที่ปรับตัวขึ้นค่อนข้างแรงในช่วงก่อนหน้านี้ ตลอดจนหุ้นบริษัทสื่อสารรายใหญ่แห่งหนึ่งจากการขึ้นเครื่องหมาย XD และหุ้นบริษัทพลังงานรายใหญ่จากการปรับตัวลงของราคาน้ำมันในตลาดโลก

อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นขยับขึ้นช่วงกลางสัปดาห์ (นำโดย หุ้นกลุ่มปิโตรเคมี ซึ่งคาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากการที่รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศให้บริษัทปิโตรเคมีปรับลดกำลังการผลิตลง) และขยับขึ้นอีกครั้งช่วงท้ายสัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลบางส่วนต่อประเด็นการเมือง หลังศาลอาญายกฟ้องอดีตนายกรัฐมนตรี แม้ยังคงต้องติดตามประเด็นการเมืองอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์หน้า นอกจากนี้แรงซื้อหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ก็มีส่วนช่วยหนุนดัชนีหุ้นไทยในช่วงท้ายสัปดาห์ด้วยเช่นกัน

ในวันศุกร์ที่ 22 ส.ค. 2568 ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,253.39 จุด ลดลง 0.48% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 41,839.42 ล้านบาท ลดลง 28.41% ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 1.23% มาปิดที่ระดับ 251.47 จุด

ส่วนค่าเงินบาทสัปดาห์ระหว่างวันที่ 25-29 ส.ค. 2568 ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวที่ระดับ 32.10-33.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ

สัปดาห์ที่ผ่านมาเงินบาทอ่อนค่าลงตามทิศทางของสกุลเงินอื่นในเอเชีย สวนทางเงินดอลลาร์ฯ ที่แข็งค่าตามการปรับตัวขึ้นตามบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ หลัง CME’s FedWatch tool สะท้อนโอกาสความเป็นไปได้ (Probability) ที่จะเห็นเฟดลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.เพียง 70% ซึ่งต่ำกว่าก่อนหน้านี้ที่ Probability เกือบเต็ม 100% หลังตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อาทิ PMI เบื้องต้นสำหรับเดือนส.ค. และข้อมูลยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค. ออกมาดีกว่าที่คาด

แรงขายเงินดอลลาร์ฯ ยังชะลอลงตามการปรับโพสิชั่นในช่วงที่ตลาดรอสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ จากประธานเฟดในงานสัมมนาประจำปีของเฟดที่ Jackson Hole ขณะที่ทิศทางฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ การปรับตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลกในระหว่างสัปดาห์ และปัจจัยทางการเมืองในประเทศ ก็เป็นปัจจัยลบที่กดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน

ในวันศุกร์ที่ 22 ส.ค. 2568 เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ 32.63 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 32.43 บาท ในวันศุกร์ก่อนหน้า (15 ส.ค.)

สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 18-22 ส.ค. 2568 นั้นขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทย 6,135 ล้านบาท และ 2,463 ล้านบาทตามลำดับ