คสช. งัด ม.44 ยกเลิกคำสั่ง-ประกาศ ปลดล็อกให้ทำกิจกรรมทางการเมือง มีผลตั้งแต่ 11 ธ.ค.2561
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ ๒๒/๒๕๖๑ เรื่อง การให้ประชาชนและพรรคการเมือง ดำเนินกิจกรรมทางการเมือง มีผลตั้งแต่วันนี้ (11 ธ.ค.)
โดยที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๑ ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๑ มีผลใช้บังคับเป็นกฎหมายตั้งแต่วันที่๑๑ ธันวำคม ๒๕๖๑ อันเป็นวันที่พ้นกำหนด ๙๐ วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไปและมาตรา ๑๗๑ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวให้ตราพระราชกฤษฎีกากำหนดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปภายใน ๙๐ วัน นับแต่วันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้มีผลใช้บังคับและมาตรา ๑๗๓ บัญญัติให้ระยะเวลาในการคำนวณค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งและวิธีการหาเสียงเลือกตั้งให้นับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีผลใช้บังคับซึ่งแสดงให้เห็นว่าการหาเสียงเลือกตั้งให้เริ่มกระทำได้ตั้งแต่วันที่พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีผลใช้บังคับ
โดยที่ได้มีการดำเนินการตามข้อ ๘ แห่งคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๕๓/๒๕๖๐ เรื่อง การดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ลงวันที่ ๒๒ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐ ที่ให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมหรือยกเลิกกฎหมาย ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ อันเป็นอุปสรรคต่อการเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งของพรรคการเมืองแล้ว และจะมีการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในเร็ววันนี้จึงเป็นที่แน่ชัดว่าจะมีการเลือกตั้งในระยะเวลาอันใกล้ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านที่มีความสำคัญต่ออนาคตของประเทศ ประชาชนจึงควรมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเลือกพรรคการเมืองเพื่อเข้าไปบริหารประเทศได้อย่างอิสระและเสรี และควรที่พรรคการเมืองจะสามารถรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งเพื่อน นำเสนอนโยบายที่ใช้ในการบริหารประเทศต่อประชาชนได้อันเป็นวิถีทางการปกครองในระบอบประชาธิปไตยตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ จึงสมควรดำเนินการเพื่อให้ประชาชนและพรรคการเมืองสามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ในช่วงที่จะมีการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
อำศัยอำนาจตามความในมาตรา ๒๖๕ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงมีคำสั่ง ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ให้ยกเลิก
(๑) คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๐/๒๕๕๗ เรื่อง ห้ามมิให้กระทำการใด ๆหรือสั่งให้กระทำการใดๆเกี่ยวกับกรทำธุรกรรมทางการเงินหรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของบุคคล เท่าที่จำเป็นแก่การรักษาความมั่นคงของชาติและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยรวม ลงวันที่ ๒๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ เฉพาะ ๒. ในข้อ๑
(๒) คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๒๖/๒๕๕๗ เรื่อง ห้ามมิให้กระทำการใดๆหรือสั่งให้กระทำการใด ๆ เกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงินหรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของบุคคล เท่าที่จำเป็นแก่การรักษาความมั่นคงของชาติและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยรวม ลงวันที่ ๒๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗
(๓) ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๓๙/๒๕๕๗ เรื่อง การกำหนดเงื่อนไขการปล่อยตัวของบุคคลที่มารายงานตัวต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ลงวันที่ ๒๕ พฤษภาคมพุทธศักราช ๒๕๕๗
(๔) ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๔๐/๒๕๕๗ เรื่อง การกำหนดเงื่อนไขการปล่อยตัวของบุคคลที่ถูกกักตัวตามพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พระพุทธศักราช ๒๔๕๗ มาตรา ๑๕ ทวิลงวันที่ ๒๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗
(๕) ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๕๗/๒๕๕๗ เรื่อง ให้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญบางฉบับมีผลบังคับใช้ต่อไป ลงวันที่ ๗ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๗เฉพาะในข้อ๒
(๖) คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๘๐/๒๕๕๗ เรื่อง ให้บุคคลปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด ลงวันที่ ๒๘ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๗
(๗) คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๓/๒๕๕๘ เรื่อง การรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของชำฃาติ ลงวันที่ ๑ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๘ เฉพาะในข้อ ๑๒
(๘) คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๕๓/๒๕๖๐ เรื่อง การดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ลงวันที่ ๒๒ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐ เฉพาะในข้อ ๔ ข้อ ๕ และข้อ๗(๙) คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๓/๒๕๖๑ เรื่อง การดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (เพิ่มเติม) ลงวันที่ ๑๔ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๑ เฉพาะในข้อ๖
การยกเลิกตาม (๓) (๔) และ (๖) ให้ยกเลิกเฉพาะในส่วนที่กำหนดห้ามบุคคลหรือให้บุคคลใดละเว้นการเคลื่อนไหวหรือประชุมทางการเมือง หรือห้ามการดำเนินการช่วยเหลือสนับสนุนกิจกรรมทางการเมือง ทั้งนี้ ให้หมายความรวมถึงเงื่อนไขการปล่อยตัวของบุคคลใดตามประกาศและคำสั่งดังกล่าวที่ห้ามหรือให้ละเว้นในเรื่องดังกล่าวด้วย
ข้อ ๒ การยกเลิกประกาศและคำสั่งตำมข้อ ๑ ไม่กระทบกระเทือนถึงการดำเนินคดีการดำเนินการ หรือการปฏิบัติตามประกาศหรือคำสั่งที่ได้กระทำไปก่อนการยกเลิกโดยคำสั่งนี้
ข้อ ๓ ในกรณีที่เห็นสมควรนายกรัฐมนตรีอำจเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำสั่งนี้ได้
ข้อ ๔ คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
สั่ง ณ วันที่ ๑๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๑
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
l