SAV ฝ่าขัดแย้งเขมร ! วางเป้ากำไรปีนี้โต 20% เล็งเปิดสนามบินเตโช 9 ก.ย.นี้

HoonSmart.com>>”สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์”(SAV) ตั้งเป้ากำไรปี 68 โต 20% คาดไว้ที่ 560 ล้านบาท จากปี 67 ที่มีกำไร 464 ล้านบาท ส่วนเป้ารายได้ 1,896 ล้านบาท เล็งผลงานไตรมาส 3/68 โตดีกว่าปีที่แล้ว จาก Overflight และ International ดีขึ้น ด้านสนามบินนานาชาติเตโช ในกัมพูชา คาดเปิดให้บริการ 9 ก.ย.นี้ รองรับผู้โดยสารได้ 13 ล้านคน ส่วนสาขาในลาว“LSAV”คาดคืบหน้าไตรมาส 3 นี้

นายรัฐนันท์ วิไลลักษณ์ นักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ (SAV) เปิดเผยว่า บริษัทได้ถือหุ้น “Combodia Air Traffic Services” (CATS) ในสัดส่วน 100% ได้รับสัมปทานจากกัมพูชาในการดูแลสายการบิน และเที่ยวบินในกัมพูชา ซึ่งจะมีรายได้จากการเก็บจากเครื่องบินในรูปแบบเงินดอลลาร์สหรัฐฯ โดยจะแบ่งรายได้ให้รัฐบาลกัมพูชา 50% ในส่วนของการบินขึ้น/ลงจอด และ 30% ในส่วนของการบินผ่าน (Overflight) ส่วน SAV จะเก็บ 70% ซึ่งบริษัทฯจะมีการชาร์จตามน้ำหนักเครื่องบิน โดยสายการบิน A320 จะบินผ่านกัมพูชาบ่อย ปัจจุบันมี 19 International และ 21 Domestic ส่วนในปี 2568 จะเพิ่ม 4 International และ 3 Domestic

“ปีนี้แม้จะมีสงครามไทย-กัมพูชา บริษัทก็ยังตั้งเป้ากำไรเติบโต 20% คาดจะมีกำไร 560 ล้านบาท จากปีที่แล้ว (2567) ที่มีกำไร 464 ล้านบาท โดยบริษัทมองเป้ารายได้ปี 2568 ไว้ที่ 1,896 ล้านบาท…ส่วนผลงานไตรมาส 3 คาดว่าจะเติบโตกว่าปีที่แล้ว จาก Overflight และ International ที่ดีขึ้น…รายได้หลักของ SAV มาจาก Overflight”

สำหรับสนามบินนานาชาติเตโช ในกัมพูชา คาดว่าจะเปิดให้บริการในวันที่ 9 ก.ย.นี้ สามารถรองรับจำนวนผู้โดยสารได้ 13 ล้านคนในเฟสแรก เดิมสนามบินพนมเปญรับจำนวนผู้โดยสารได้แค่ 2 ล้านคน ซึ่งเป็นบวกต่อ SAV ในการรับ Traffic ได้มากขึ้น ในลักษณะทยอยเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ธุรกิจ CATS ในกัมพูชาจะมีความแตกต่างจากพวก Consumer Product ที่มีโอกาสถูกแบนสูง แต่ธุรกิจ CATS มีคนงานเป็นชาวกัมพูชากว่า 90% เรียกได้ว่าเป็นบริษัทของคนกัมพูชา ดังนั้นความเสี่ยงที่จะถูกแบนจึงต่ำ และการยกเลิกสัมปทานก็มีโอกาสต่ำ เพราะหากรัฐบาลจะบริหารเองก็จะต้องเจอความเสี่ยงที่สูงขึ้น เดิมเก็บกำไรก็รับไปเลย แต่ถ้าบริหารเองก็ต้องทำทั้งระบบ, คน ต้องทำใหม่ และความเสี่ยงอื่นด้วย อย่างการปิดน่านฟ้า จึงมีความเสี่ยงที่จะขาดทุน

“ถ้าผมเป็นรัฐบาลไม่เสี่ยงดีกว่า นอนอยู่เฉย ๆ ก็ได้เงินเข้าประเทศ…เรามั่นใจสัปทานความเสี่ยงค่อนข้างน้อย เพราะเราเองก็มีสัมพันธ์ที่ดีกับรัฐบาลกัมพูชา มีการช่วยเหลือกันมาตลอด”

นายรัฐนันท์ กล่าวว่า การจัดตั้งบริษัทสาขาในประเทศลาว “LSAV” ล่าสุดรัฐบาลลาวได้มีการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นในไตรมาส 3 นี้น่าจะมีความคืบหน้าได้ หลังเซ็น MOU แล้วจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน ถึงจะเปิดดำเนินการได้

ในส่วนโครงการบินของ SAV มีการขยายไปสู่ธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบิน โดยเป็นตัวแทนจำหน่ายเรดาร์ที่ได้รับอนุญาตใน TCML แล้ว ช่วงปลายไตรมาส 3 ถึงต้นไตรมาส 4 คาดว่า โครงการจะเปิดประมูล โครงการ 100 mb นอกจากนี้ มีการเพิ่มประสิทธิภาพการกำจัดเศษวัตถุแปลกปลอม (FOD) ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และภูเก็ต ร่วมกับ แดนไทย อิควิปเมนท์ มูลค่าโครงการ 1,250 ล้านบาท คาดว่าจะประมูลภายในเดือนก.ย.นี้

ส่วนการจ่ายเงินปันผลในปี 2568 คาดว่าจะจ่ายไม่น้อยกว่าปี 2567 ที่จ่ายปันผลไป 0.80 บาท/หุ้น จากการจ่ายปันผลสองครั้ง โดยไตรมาส 2/2568 บริษัทฯได้จ่ายเงินปันผล 0.40 บาท/หุ้น และจะจ่ายอีกทีหลังปิดงบฯไตรมาส 4/2568