ลุ้นศก.Q2 โต 3.1% ระทึกเพิ่มเป้าทั้งปี กำไรบจ.ดี THAI-DELTA พร้อมพาตลาดลง 

HoonSmart.com>>สภาพัฒน์นัดแถลงตัวเลข GDP ไตรมาส 2/68 เช้าวันนี้  คาดโต 3.1% เท่ากับ 3 เดือนแรก ตลาดหุ้นจับตาปรับเพิ่มประมาณการทั้งปี 68 หลังส่งออกครึ่งปีแรกขยายตัวสูง 15% ไทยได้ดีลดีภาษีนำเข้าสหรัฐฯที่ 19% กำไรบจ. ไตรมาส 2 และครึ่งปีแรกออกมาดี ไม่แย่อย่างที่กังวล นักวิเคราะห์เตือนดัชนีพุ่งแรงจาก THAI-DELTA พร้อมเจอ TAKE PROFIT พาตลาดลง แนะทยอยขายหุ้นบ้าง เพิ่มเงินสดรอช้อน

สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) จะแถลงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ GDP ไตรมาส 2 ปี 2568 ในเช้าวันจันทร์ที่ 18 ส.ค. 2568  โดยบล.ไอร่าคาดว่าจะเติบโต 3.1%YoY ทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัว 3.1% หากออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดมองจะเป็น Sentiment เชิงลบต่อตลาดเพิ่มเติม

นักวิเคราะห์คาดว่า วันจันทร์นี้สภาพัฒน์น่าจะมีการปรับเพิ่มประมาณการ GDP ปี 2568 หลังจากไทยได้ดีลภาษีนำเข้าสหรัฐที่ 19% ดีมากจากเดิมประกาศไว้ที่ 36%  และได้อัตราที่ดีกว่าหลายประเทศ ขณะที่มูลค่าการส่งออกยังคงเติบโตสูง ในเดือนมิ.ย.โต 15.5% มูลค่า 28,649.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากเดือนพ.ค.โต 18.4% มูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 31,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รวมครึ่งปีแรกขยายตัว 15%หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัว 14.2% รวมถึงงบประมาณปี 2569 ไม่ล่าช้า  จึงเป็นไปไม่ได้ที่เศรษฐกิจไทยจะเติบโตเพียง 1.8% ตามที่เพิ่งปรับลดประมาณการไปเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา

ท่ามกลาง คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ปรับเพิ่มเป้า GDP ปีนี้โต 1.8-2.2% ส่งออกเพิ่ม 2-3% จากภาษีส่งออกไปสหรัฐ 19% ทำให้ส่งออกดีขึ้นจากเดิมเคยคาดว่าจะติดลบ 0.5 ถึงโต 0.3% ขณะที่กระทรวงการคลังเพิ่มประมาณการ GDP โต 2.2% จากเดิมคาดไว้ 2.1% สอดคล้อง IMF คาดไทยโต 2% และธปท.เพิ่มประมาณการเศรษฐกิจปี 2568 โต 2.3% แม้ทุกฝ่ายจะเป็นห่วงเรื่องเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังจะชะลอลงมากก็ตาม

” หาก GDP ไตรมาส 2 โตได้ถึง 3.1% และสภาพัฒน์ปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจปี 2568 ออกมาดี น่าจะสนับสนุนให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นได้ต่อในสัปดาห์นี้ มีโอกาสขึ้นไปทดสอบระดับ 1,300 จุดได้ หลังจากบริษัทจดทะเบียน(บจ.) ประกาศกำไรไตรมาสที่ 2/2568 ออกมาดีหรือใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ ภาพรวมไม่ได้แย่อย่างที่กังวลกัน”นักวิเคราะห์ระบุ

บล.เมย์แบงก์ระบุบจ.รายงานงบถึงวันที่ 14 ส.ค.2568 นับเฉพาะบริษัทที่ Bloomberg Consensus คาดการณ์ทั้งหมด 153 บริษัททำกำไรดีกว่าคาด 8.6% โดยหลักมาจากการบันทึกรายการพิเศษของบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) หากหักออกกำไรดีกว่าคาดเล็กน้อย 1.74%หรือตีความตามคาด

สำหรับบริษัทที่กำไรดีกว่าคาดคิดเป็นสัดส่วน 25% ตามคาด 50% และต่ำคาด 24% ประเมินกำไรที่ออกมา ไม่น่าจะเปิด Downside ต่อประมาณการกำไรอย่างมีนัยสำคัญ ล่าสุด Bloomberg Consensus คาดกำไรต่อหุ้นหรือ EPS ปี 2569 อยู่ที่ 89.35 บาท/หุ้นใกล้เคียงกับที่เมย์แบงก์คาดการณ์

บล.เอเซียพลัสภาพตลาดหุ้น อาจเห็นการ TAKE PROFIT ได้ในช่วงสั้น หลังจากปรับตัวขึ้นแรง 16.3% ตั้งแต่เดือนก.ค.-ปัจจุบัน ชนะเกือบทุกประเทศ ทั้งกลุ่ม TIP เอเชียเหนือ สหรัฐฯ และโซนยุโรป แพ้เพียงเวียดนามประเทศเดียวที่ +19.2% ซึ่งสาเหตุหลักๆที่ดันดัชนี SET ขึ้นได้ คือสงครามการค้าผ่อนคลาย, การเมืองไทยที่ชัดเจนขึ้น, คาดหวังดอกเบี้ยขาลง, งบประมาณปี 2569 ไม่ล่าช้า และกำไรบจ.ครึ่งปี 2568 ดูสดใส เป็นต้น  จึงเกิดการโดนรุมซื้อสุทธิจากนักลงทุนสถาบันไทย และต่างชาติ กว่า 1.06 หมื่นล้านบาท และ 1.40 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ

นอกจากนี้หุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาหลักๆ คือ DELTA และ THAI ที่พุ่งขึ้นมาร้อนแรงกว่า 57.3%และ 69.5% ตามลำดับ (THAI ใช้ราคาปิด 5 ส.ค. หลังวันกลับเข้าเทรด 1 วัน) ซึ่งรวมกันดันดัชนี 112 จุด จากดัชนี SET INDEX ที่ขึ้นมา 177 จุด(+16.3%) หรือคิดเป็นสัดส่วนถึง 63%
จึงทำให้เกิดแรงขาย TAKE PROFIT ในช่วงสั้นของนักลงทุนสำหรับ 2 หุ้นดังกล่าว

บล.ทรีนีตี้ มองหุ้น THAI ในช่วงวันที่ 5 -14 ส.ค.มีอิทธิพลผลักดันดัชนี SET ขึ้นมาแล้วถึงเกือบ 20 จุด

บล.พาย แนะนำว่า ในช่วงที่ตลาดหมดปัจจัยหนุนทั้งในประเทศและต่างประเทศหลังดัชนีขึ้นรับกับการเจรจาการค้าไปพอสมควรแล้ว  กลยุทธ์
การลงทุนอาจทยอยทำกำไร พร้อมเพิ่มการถือครองเงินสดมากขึ้น เพื่อเตรียมรับมือกับแรงกดดันจากผลกระทบภาษี และเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังที่อาจขยายต่ำจะกลับมากดดันกำไรบจ.