HoonSmart.com>>หุ้นบริษัทฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส (FSMART) เป็นหนึ่งในตัวเลือกลงทุนที่น่าสนใจ ด้วยกลยุทธ์การวิจัยและพัฒนานวัตกรรม สามารถต่อยอดบริการใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง บนความเชี่ยวชาญกลุ่มลูกค้ารายย่อยที่มีจำนวนสูงถึงกว่า 14 ล้านคน เสนอธุรกิจหลากหลาย กระจายความเสี่ยง สร้างโอกาสการเติบโตของกำไรแซงหน้ารายได้ที่ขยายตัวสองหลัก ในปี 2568 คาดไว้ที่ 10-15% บนความแข็งแกร่งทางการเงิน ทั้ง ROA อยู่ที่ 22.03% ROE 38.43% อัตรากำไรสุทธิ 22.53% มีกำไรสุทธิ All Time High ณ สิ้นเดือนมิ.ย.2568
นายณรงค์ศักดิ์ เลิศทรัพย์ทวี กรรมการผู้จัดการ บริษัทฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส (FSMART) ให้สัมภาษณ์ “สำนักข่าวหุ้นสมาร์ท”ว่า FSMART มีจุดแข็งหลายเรื่องที่ทำให้รายได้เติบโตสองหลักได้ทุกสถานการณ์ ที่สำคัญการอยู่ในกลุ่มฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น สมาร์ท ที่มีนวัตกรรม มี R&D ในการพัฒนาธุรกิจต่อยอดบริการใหม่ โดยไม่ต้องทุ่มเม็ดเงินลงทุนก้อนใหญ่ เกาะเมกะเทรนด์ที่มีการนำเทคโนโลยีมาเพิ่มประสิทธิภาพ เช่นการนำแขนกลอัตโนมัติ และ AI มาทดแทนคนเพื่อลดต้นทุน และเชี่ยวชาญธุรกิจที่มีกลุ่มลูกค้ารายย่อยจำนวนมาก “บุญเติม-สินเชื่อ-เต่าบิน” สร้างรายได้ และขยายโอกาสสร้างกำไรได้อีกมาก
บริษัทเพิ่งประกาศผลงานงวดไตรมาสที่ 2/2568 มีกำไรสุทธิ 155.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.22% และรวม 6 เดือนปีนี้กำไรสุทธิ 308.07 ล้านบาท เติบโต 58.14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นับเป็นกำไรรายไตรมาสและเป็นกำไรครึ่งปีแรกสูงสุดครั้งใหม่จากการเติบโตของธุรกิจสินเชื่อ และตู้บุญเติมทยอยหมดค่าเสื่อมราคาเพิ่มขึ้น (อายุเกิน 8 ปี)
ปัจจุบันโครงสร้างรายได้ FSMART มาจาก กลุ่ม 1 บริการเครื่องรับชำระเงินอัตโนมัติ (เช่น เติมเงินโทรศัพท์, จ่ายบิล) คิดเป็นกว่า 75% ของรายได้รวม , กลุ่ม 2 รายได้จากดอกเบี้ยสินเชื่อ,การขายสินค้าแบบผ่อน 24% กลุ่ม 3 เวนดิ้ง 1% เป็น ธุรกิจเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า GINKA รับรายได้-กำไร ส่วนตู้เต่าบิน รับรู้กำไร ตามสัดส่วนการถือหุ้น 26.71%
ผู้นำธุรกิจตู้ออนไลน์
FSMART เป็นเจ้าของ”ตู้บุญเติม” มากกว่า 1.2 แสนตู้ ครองความเป็นผู้นำในการบริการชำระเงินออนไลน์ บริการเติมเงินโทรศัพท์มือถือประเภทเติมเงินล่วงหน้า (Pre-paid) ที่สะดวกและรวดเร็ว โดยครึ่งปี 2568 มีมูลค่าการทำรายการผ่านตู้บุญเติม 17,749.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.85% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน
บริษัทฯมีพัฒนาการและเสนอบริการที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงได้นำสถานการณ์
บริษัทฯยังมีการเพิ่มผู้แทนบริการในระบบแฟรนไชส์และร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจในการบริหาร “ตู้บุญเติม” เช่น เซเว่นอีเลฟเว่น เทสโกโลตัส แฟมิลี่มาร์ท ท็อปส์ รถไฟฟ้าบีทีเอส เป็นต้น เพื่อขยายฐานลูกค้า และขยายจำนวน “ตู้บุญเติม” ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ สามารถลงไปถึงหมู่บ้าน ที่อยู่ห่างไกลและเข้าไม่ถึงระบบสถาบันการเงิน สามารถเติมเงินมือถือด้วยจำนวนเงินขั้นต่ำตั้งแต่10 บาทขึ้นไป
“โมเดลธุรกิจตู้เติมเงิน แข่งขันได้ทุกสถานการณ์ ด้วยโมเดลตู้ของเราเอง หากมีการขยายไปติดตั้งสถานที่อื่น เค้าออกค่าไฟ เดือนละ 30-40 บาท รายได้แบ่งกัน เติบโตไปด้วยกัน”
เก็บเกี่ยวกำไรเต็มที่
ที่สำคัญ บริษัทฯลงทุนตู้บุญเติมมานานมาก ทยอยตัดเสื่อมราคาไปเกือบหมดแล้ว สำหรับปี 2568 คาดว่าค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จะลดลงประมาณ 100 ล้านบาท จากในแต่ละปีจะตัดค่าเสื่อมฯประมาณ 300-400 ล้านบาท ช่วยเพิ่มกำไร ส่วนในปี 2569 จะบันทึกค่าเสื่อมฯครบ 8 ปี ยิ่งเพิ่มกำไรมากขึ้น ซึ่งยังไม่รวมกับบริการใหม่ๆที่จะเพิ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่องในอนาคต
ธุรกิจสินเชื่อจะเติบโตได้อีกมาก
สำหรับธุรกิจสินเชื่อ บริษัทไม่หยุดเพียงสินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อเพื่อการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือโทรศัพท์มือถือ สินเชื่อเกษตรสุขใจทวีคูณ สำหรับซื้อสินค้าและอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการเกษตร ยังคงเดินหน้าขยายฐานกลุ่มลูกค้าที่มีวัตถุประสงค์แตกต่างกัน รองรับการเติบโตของตลาดที่ใหญ่โตมากและความต้องการสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นในอนาคต
ล่าสุดบอร์ดอนุมัติการจัดตั้งบริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เมอร์แชนไดซ์ เพื่อจัดหาและจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์ หรือสินค้าอื่นใด สนับสนุนผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อการบริโภค หรืออื่นๆ ของกลุ่มบริษัท ในไตรมาสที่ 3/2568 หลังจากเพิ่มผลิตภัณฑ์ “สินเชื่อทะเบียนรถแลกเงิน” วงเงินสูงสุด 30,000 บาท เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
ผลงานในช่วง 6 เดือนแรกปี 2568 บริษัทฯมีรายได้จากธุรกิจสินเชื่อ 150.66 ล้านบาท เติบโตถึง 335.48% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ณ มิ.ย.2568 มียอดสินเชื่อคงค้าง 1,470.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 184.08% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (NPL 3.5% ต่อยอดสินเชื่อคงค้าง) คาดว่าสิ้นปีนี้จะปล่อยได้ถึง 2,000 ล้านบาทตามเป้าหมายได้
ธุรกิจสินเชื่อมีจุดเด่น ไม่มีสาขา ทำให้ไม่มีต้นทุนคงที่ เป็นออนไลน์ เจาะกลุ่มลูกค้ารากหญ้า และเข้าไม่ถึงแหล่งเงินกู้ในระบบ แต่เลือกลูกค้าที่มีศักยภาพ เช่น มีรายได้เป็นรูปธรรมจากภาครัฐ โดยอาศัยบทเรียนจากการปล่อยในช่วงปีแรก เกิดหนี้เสียสูงมากประมาณ 1 ใน 3 ตอนนี้ให้บริการมากกว่า 3 ปี ให้ความสำคัญกับการระมัดระวัง มีการเรียนรู้ เรื่องการวิเคราะห์ข้อมูล มีทีมติดตามหนี้ภาคสนาม ทีมกฎหมายเอง
“หัวใจสำคัญคือเรื่องหนี้เสีย บริษัทมีความพร้อมในการบริหารและจัดการ ผ่านศูนย์บริการลูกค้า (Call center) ที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และตั้งทีมติดตามหนี้เอง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลและช่วยเหลือลูกค้าได้ทันท้วงที รวมถึงการเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพในการก่อหนี้และชำระหนี้ได้ รักษาพอร์ตโดยรวมให้มีสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ต่ำกว่า 3% จากสิ้นเดือนมิ.ย.อยู่ที่สัดส่วน 3.5% ของสินเชื่อทั้งหมด “
นอกจากนี้ยังวางแผนขยายบริการฝากเงินและโอนเงิน ผ่านช่องทางของบริษัทสำหรับกลุ่มลูกค้า จะเพิ่มบริการโอนเงินที่เมียนมา ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการขอใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท.)
เพิ่มธุรกิจ S-Curve
ขณะเดียวกัน FSMART มองเห็นโอกาสจากธุรกิจเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า GINKA เพื่อตอบรับการเติบโตของตลาดยานยนต์ไฟฟ้า ปัจจุบันมีการกระจายติดตั้งและบริการไปแล้วกว่า 428 จุดชาร์จ เพิ่มขึ้น 181.58% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนปลายปีนี้จะเพิ่มเป็น 1,000 จุดชาร์จ ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 10,000 จุดชาร์จ ภายใน 3 ปี โมเดลธุรกิจการติดตั้งมีการประกันรายได้จากเจ้าของที่ เช่น คอนโดมิเนียม หรือโรงภาพยนตร์
นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีส่วนแบ่งกำไรจากการถือหุ้น 26.71% ในธุรกิจเครื่องจำหน่ายเครื่องดื่มและสินค้าอัตโนมัติ “เต่าบิน” ซึ่งบริหารงานโดยบริษัท ฟอร์ท เวนดิ้ง ผลตอบแทนที่ดีมาก วางแผนเพิ่มเมนู พัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ อาทิ ตู้ผลิตน้ำแข็ง ตู้ผลิตโซดา ตู้แช่ผลไม้สดพร้อมระบบสั่งปั่นน้ำผลไม้ตามความต้องการ มีการเปิดตัวคาเฟ่ อัตโนมัติแห่งใหม่ ร้าน “เต่าบิน คาเฟ่” นวลจันทร์ ให้บริการจำหน่ายเครื่องดื่มร้อน เย็น ปั่น ชานมไข่มุก ไอศกรีมซอฟเสิร์ฟ เบเกอรี่ เพื่อขยายฐานลูกค้าในกลุ่มอื่น ในอนาคตจะส่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตู้เต่าบิน 7,000-8,000 ตู้ มีออกไปต่างประเทศ 6 ประเทศ เช่น มาเลเซีย ดูไบ ออสเตรเลีย
เชื่อว่า FSMART ไม่หยุดในการพัฒนานวัตกรรม เพิ่มบริการใหม่ ๆ ต่อยอดพันธมิตรในการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ