KCC กำไรพุ่งกระฉูด 98.6 ลบ.Q2/68-คืนหุ้นกู้ตามนัดต.ค.นี้ หุ้นซิลลิ่งสนิท

HoonSmart.com>>”ไนท คลับ แคปปิตอล โฮลดิ้ง” (KCC) ท็อปฟอร์ม! ผลงานโตแข็งแกร่ง ไตรมาส 2/68 กวาดกำไร 98.6 ล้านบาท พุ่งขึ้น 332% หนุนครึ่งปีกำไร 112.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 187% เก็บเกี่ยวผลการลงทุนก่อนหน้า ลุยลงทุนซื้อหนี้ NPL เข้าพอร์ตเพิ่มอีก 187 ล้านบาท เงินสดรับจากลูกหนี้เพิ่มขึ้นแตะ 400 ล้านบาท  เตรียมเงินพร้อมชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดต.ค.นี้ ราคาหุ้น KCC ปิดซิลลิ่งที่ 2.16 บาท 

นายทวี กุลเลิศประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไนท คลับ แคปปิตอล โฮลดิ้ง (KCC) ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้งที่ดำเนินการลงทุนในธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ เปิดเผยถึงผลดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2568 ว่า มีกำไรสุทธิ  98.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 332% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 22.8 ล้านบาท หนุนให้รวมครึ่งแรกปี 2568  มีกำไรสุทธิรวม 112.4 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 187% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 39.2 ล้านบาท

กำไรที่ดีขึ้นมากในไตรมาสที่ 2/2568 บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงานรวมจำนวน 171.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 145% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 69.7 ล้านบาท รวม 6 เดือนบริษัทมีรายได้รวม 231.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76%จากที่มีรายได้ 131.5 ล้านบาท

“รายได้รวมเพิ่มขึ้นเป็นผลจากการดำเนินงานที่แท้จริง ไม่ได้มีรายการพิเศษใดๆ แต่เป็นผลลัพธ์โดยตรงจากประสิทธิภาพในการบริหารพอร์ตสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่บริษัทได้จัดหาบริหารไว้ก่อนหน้านี้  โดยปกติในช่วงเริ่มต้นของการเข้าซื้อ NPL เข้าพอร์ต มักจะยังไม่สร้างรายได้ทันที เนื่องจากต้องใช้เวลาในการวิเคราะห์ เจรจา ปรับโครงสร้างหนี้ และดำเนินการทางกฎหมาย เมื่อพอร์ตเข้าสู่ช่วงที่เหมาะสม ผลตอบแทนจากการบริหารจะเริ่มสะท้อนออกมาอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในไตรมาสนี้ ที่สะท้อนถึงความสามารถในการบริหารพอร์ตหนี้ที่เริ่มสร้างผลตอบแทนอย่างเป็นรูปธรรมหลังจากช่วงเวลาการจัดหาและบริหารสินทรัพย์ในช่วงที่ผ่านมา ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KCC กล่าว

สำหรับการเติบโตของพอร์ตงวดครึ่งแรกของปี 2568 บริษัทได้เข้าลงทุนซื้อพอร์ตสินทรัพย์ด้อยคุณภาพเพิ่มขึ้น จำนวน 187 ล้านบาท การขยายพอร์ตเป็นไปตามกลยุทธ์ระยะยาวในการเพิ่มฐานสินทรัพย์  และเพิ่มโอกาสสร้างกระแสเงินสดในอนาคตและผลตอบแทนที่เหมาะสมให้กับผู้ถือหุ้นและนักลงทุนและหนุนการเติบโตระยะยาวและยั่งยืน

ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนมิ.ย.2568 สินทรัพย์รวมของบริษัทขยับขึ้นไปอยู่ที่ 2,586.4 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 4% จากสิ้นปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 2,496 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นมาอยู่ที่ 1,303 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 1,208 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2567 เกิดจากการเพิ่มขึ้นของกำไรสะสม ซึ่งเป็นผลโดยตรงจากผลการดำเนินงานที่มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างมีคุณภาพ สอดคล้องกับกลยุทธ์การเติบโตของบริษัท

นอกจากนี้ บริษัทมีหุ้นกู้จำนวนหนึ่งที่จะครบกำหนดไถ่ถอนภายในเดือนต.ค. 2568 ซึ่งบริษัทได้วางแผนและจัดเตรียมเงินทุนสำหรับการชำระคืนหุ้นกู้ดังกล่าวไว้เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด โดยไม่กระทบต่อสภาพคล่องและการดำเนินงานของบริษัท ส่วนหุ้นกู้ที่เหลืออยู่ บริษัทได้ดำเนินการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านการเงินอย่างรอบคอบ ผ่านการติดตามภาวะตลาดเงิน การวางแผนกระแสเงินสดและการกระจายแหล่งเงินทุน เพื่อรักษาสภาพคล่องให้อยู่ในระดับเหมาะสมและรองรับการชำระคืนภาระหนี้ในอนาคต

ด้านการซื้อขายหุ้น KCC ราคาชนซิลลิ่ง ปิดที่ 2.16 บาท บวก 0.50 บาท ปรับตัวขึ้นชนเพดานสูงสุดที่ 30.12% ขณะที่ตลาดหุ้นโดยรวมติดลบกว่า 10 จุด