CRC กำไร Q2 ลด 16% รุกกลยุทธ์ New Heights

HoonSmart.com>>เซ็นทรัล รีเทล เผยรายได้ไตรมาส 2 รวม 62,644 ล้านบาท ลดลง 1% กำไรหด 16% ผลจากกำลังซื้อชะลอตัวจากความกังทางเศรษฐกิจ ครึ่งปีหลังเดินหน้ากลยุทธ์ “New Heights, Next Growth” เสริมความยั่งยืน

นายปเนต มหรรฆานุรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการเงิน บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) รายงานผลประกอบการในไตรมาส 2/2568 มีรายได้รวม 62,644 ล้านบาท ลดลง 1% ขณะที่กำไรสุทธิหลังรายการปรับปรุงอยู่ที่ 1,349 ล้านบาท ลดลง 16% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว สะท้อนว่าแม้กำลังซื้อจะชะลอตัวจากความกังวลทางเศรษฐกิจ CRC ยังคงรักษาเสถียรภาพของธุรกิจผ่านการบริหารจัดการที่ยืดหยุ่น และการลงทุนอย่างมีวินัย

ขณะที่ ผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2568 มีรายได้รวม 131,924 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้กำไรสุทธิหลังรายการปรับปรุงลดลง 8% อยู่ที่ 3,813 ล้านบาท ผลจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอนทั้งในและต่างประเทศ

สำหรับ ไฮไลท์ธุรกิจไตรมาส 2/2568
กลุ่มธุรกิจห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างเซ็นทรัล ชิดลม จัดงาน “Luxe Night Out” ฉลองโซนแฟชั่นใหม่
มีการเพิ่มแบรนด์แฟชั่นใหม่กว่า 80 แบรนด์ในเซ็นทรัลและโรบินสัน
ยอดขายออนไลน์ผ่าน Central App โตกว่า 30% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีที่แล้ว
ด้าน ซูเปอร์สปอร์ต ได้เปิดตัวแบรนด์เทนนิสระดับโลก “HEAD” พร้อมสิทธิ์จำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในไทย
ท็อปส์ มีการเปิดสาขาใหม่ 3 แห่ง รีโนเวท TOPS FOOD HALL 2 สาขา ทำการขยายโมเดล TOPS DAILY ไฮบริด รวม 6 สาขา ยอดขายเฉลี่ยต่อวันสูงกว่าโมเดลเดิมถึง 2 เท่า
ธุรกิจ GO WHOLESALE มีการเปิดตัวแคมเปญ “HoReCa GO MORE” ลดต้นทุนให้กลุ่มธุรกิจอาหารและโรงแรม
ธุรกิจเพาเวอร์บาย เปิดร้านโฉมใหม่ 3 สาขา ชูคอนเซปต์ “ศูนย์รวมเทคโนโลยีเพื่อชีวิต”
โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ได้เปิด “เซฟวัน โก ศรีสมาน” โมเดลใหม่ผสานไลฟ์สไตล์มอลล์กับตลาดกลางคืน

สำหรับ ธุรกิจของ CRC ที่เวียดนาม มีการเปิดศูนย์การค้า GO! สาขาฮึงเอียน ตอกย้ำความเป็นผู้นำ Family Mall ในเวียดนาม

สำหรับครึ่งปีหลัง 2568 พร้อมเดินหน้าสร้างการเติบโต ด้วยกลยุทธ์ “New Heights, Next Growth” เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระยะยาว พร้อมทั้งเน้นการควบคุมต้นทุนและการใช้ทรัพยากรอย่างรอบคอบและมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อมุ่งสู่การเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน

“มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานในกลุ่มธุรกิจหลัก ควบคู่กับการปรับลำดับความสำคัญของการลงทุนให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจและโอกาสทางการตลาด เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของสถานะทางการเงิน และขับเคลื่อนการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ตอกย้ำความเชื่อมั่นด้วยการได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับ AA- แนวโน้มคงที่ ต่อเนื่อง 3 ปีซ้อนจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ซึ่งถือเป็นอันดับสูงสุดในกลุ่มอุตสาหกรรมค้าปลีกไทย สร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุนและพันธมิตรทางธุรกิจ” นายปเนต กล่าว