TRUE จัดทัพครั้งใหญ่ สู้บิ๊กต่างประเทศ ลั่นปันผล 9 เดือนครั้งแรกหลังควบรวม

HoonSmart.com>>”ซิคเว่ เบรคเก้” ประกาศ “ทรู คอร์ปอเรชั่น”(TRUE) ไม่ได้มอง AIS เป็นคู่แข่งอีกต่อไปแล้ว  แต่เป็นบิ๊กเนมต่างประเทศ ยก Google -Amazon จะเอาชนะศึกครั้งนี้ได้ ต้องออกแบบโครงสร้างองค์กรใหม่ ตัดสินใจบน 5 หลักการ 1.ผู้สนับสนุนลูกค้า 2. ชนะเจ้าบ้าน 3. เร่งการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล B2B 4. เสริมพลังอนาคตด้วย AI 5. มุ่งเน้นดิจิทัลไลเซชั่นให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ไม่สนใจจำนวนลูกค้า แต่ยึดบริการเป็นที่ตั้ง พอผลงาน พร้อมจ่ายเงินปันผล 9 เดือน ครั้งแรกหลังควบรวม 

นายซิคเว่ เบรคเก้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) เปิดเผยว่า พอใจกับผลการดำเนินงานงวดไตรมาสที่ 2/2568 บริษัทดำเนินการควบรวมกับดีแทคที่เป็นคู่แข่งมา 20 ปี ทำให้ต้องเปลี่ยนเครื่องยนต์ ขณะที่กำลังบินอยู่ เพื่อคงความสามารถในการแข่งขัน และเร่งปรับตัวรับการเปลี่ยนผ่านสู่การเติบโตในอนาคต จะต้องนำเทคโนโลยีและ AI มาสร้างวัตนธรรมองค์กร และยึดลูกค้าเป็นที่ตั้ง จึงตัดสินใจเปลี่ยนทีมผู้บริหาร ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยให้ทรูฯสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าปัจจุบัน แต่ยังช่วยเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตบนความคาดหวังของลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย พลวัตของตลาดและอุตสาหกรรม และแนวโน้มด้านเทคโนโลยีจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

“คู่แข่งของทรู ไม่ใช่ AIS อีกต่อไปแล้ว แต่เป็นคู่แข่งจากต่างประเทศ  Google และ Amazon  ดังนั้นจะต้องปรับโครงสร้างองค์กรให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และกลยุทธ์ของเรา ขณะที่จำนวนลูกค้าใหม่คงเพิ่มขึ้นอีกไม่ได้มาก ดังนั้นจะต้องเสนอบริการเพื่อให้เติบโตพร้อมกับทรูได้อย่างไร ต้องเน้นคุณค่าของลูกค้าเดิม ขับเคลื่อนอนาคตด้วย AI”

ทรูฯได้พัฒนาองค์กร ลดระดับชั้นผู้บริหาร โดยมีประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ (Chief Data and AI Officer) คนแรก เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงสู่ AI-First พร้อมผู้บริหารที่รับผิดชอบระบบไอทีระดับองค์กรที่ออกแบบมาเพื่อให้ทันกับเทรนด์เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว   เพื่อลดความซ้ำซ้อน เพิ่มความแม่นยำ และช่วยอบรมให้พนักงานมุ่งเน้นไปที่การสร้างคุณค่าให้กับลูกค้าได้  โดยยึดหลักการออกแบบ 5 ประการ สำหรับโครงสร้างองค์กรและความเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเพื่อการเติบโต  ได้แก่

1. ผู้นำด้านประสบการณ์ลูกค้า: สร้างความสามารถในการเข้าถึง ทำความเข้าใจ และตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าและการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างรวดเร็ว

2. บริการดิจิทัลเพื่อความสุขในบ้าน: ประเทศไทยมี 23 ล้านครัวเรือน ตามข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ทรูนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการไลฟ์สไตล์ดิจิทัลครบวงจรในที่เดียว ครอบคลุมทั้งนวัตกรรมบ้านอัจฉริยะ โซลูชัน ความบันเทิง และบรอดแบนด์ เพื่อตอบสนองความต้องการของทั้งผู้อยู่อาศัยรายบุคคลและครอบครัวหลายเจเนอเรชัน กลุ่มธุรกิจนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตที่แข็งแกร่ง

3. เร่งการเปลี่ยนแปลงธุรกิจทางดิจิทัล B2B :True Business กำลังกำหนดนิยามความเป็นผู้นำในตลาดองค์กรและ SME ใหม่ด้วยการนำเสนอข้อเสนอโซลูชันอันน่าดึงดูดซึ่งมีผลกระทบทางธุรกิจและการเงินที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว

4. ขับเคลื่อนอนาคตด้วย AI: True วางตำแหน่งบริษัทที่ให้ความสำคัญกับ AI เป็นหลัก ด้วยการผสานรวมปัญญาประดิษฐ์ในทุกแง่มุม ทั้งการดำเนินงาน ระบบ การวางแผน และการจัดการความรู้ การนำกลยุทธ์ AI มาใช้จะช่วยให้บริการลูกค้าได้อย่างคล่องตัว ปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว และสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขันที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในระยะยาว กลยุทธ์ Cloud First ยังส่งเสริมการใช้โครงสร้างพื้นฐานคลาวด์เพื่อการดำเนินธุรกิจที่ปรับขนาดได้และมีประสิทธิภาพ

5. มุ่งเน้นการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลอย่างเข้มข้นยิ่งขึ้น: เป้าหมายของการเป็น Legacy Free คือการขจัดระบบที่ล้าสมัยซึ่งเป็นอุปสรรคต่อความคล่องตัวและความสามารถในการปรับตัว ขณะเดียวกัน ทรูกำลังสร้าง Customer Journey ในรูปแบบดิจิทัลและ Omni-channel ที่เชื่อมโยงข้อมูลลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ออฟไลน์ แอปพลิเคชัน และคอลเซ็นเตอร์ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ราบรื่น นอกจากนี้ ระบบอัตโนมัติภายใน

ปัจจุบันมีจำนวนครัวเรือนเข้าถึงเน็ตบ้านเพียงครึ่งหนึ่งจากที่มีอยู่ราว 21 ล้านครัวเรือน ซึ่ง TRUE มีเป้าหมายใน 6 ปีข้างหน้าที่จะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดและเพิ่มจำนวนลูกค้า  รวมถึงจะดำเนินโครงการ One Network ทั่วประเทศให้แล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย.นี้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความครอบคลุมและประสิทธิภาพของ 5G และ 4G อย่างมีนัยสำคัญ คลื่นความถี่ 2300 MHz ที่เพิ่งได้รับมาทั้งหมด 70 MHz และความจุเพิ่มอีก 10 MHz จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานขึ้นอีก 17% และรองรับการขยายเครือข่าย 5G ในอนาคต

TRUE จะปรับโครงสร้างคลื่นความถี่ 2600 MHz ใหม่โดยใช้ Dynamic Spectrum Sharing (DSS) เพื่อให้การใช้งานระหว่าง 5G และ 4G มีความยืดหยุ่นมาก ขึ้น โดยแบนด์วิดท์ 90 MHz จะถูกนำไปใช้งานกับ 5G นอกจากนี้ คลื่นความถี่ 1500 MHz ที่เพิ่งได้รับมาใหม่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการดาวน์โหลด และทำงานร่วมกับคลื่นความถี่ย่านความถี่ต่ำอื่นๆ เพื่อปรับปรุงความเร็วและประสิทธิภาพของเครือข่าย

นอกจากนี้ทรูมุ่งมั่นที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมบริการต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชันได้ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม นับตั้งแต่ต้นปี 2568 ธุรกรรมของลูกค้าได้เปลี่ยนผ่านสู่ช่องทางดิจิทัล ถึง 19 % และยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  เป้าหมาย 30%

ด้านนายนกุล เซห์กัล หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน (ร่วม)  TRUE กล่าวว่า บริษัทเตรียมพิจารณาการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวด 9 เดือนแรกของปี 2568 ที่คาดจะจ่ายในเดือน ธ.ค.นี้ ซึ่งบริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิ  ถือเป็นครั้งแรกที่ TRUE จะจ่ายเงินปันผลหลังควบรวมกิจการกับดีแทค  ส่วนเงินปันผลทั้งปี ขอพิจารณากำไรในไตรมาส 4 ก่อน

ปัจจุบันทรูมีผลการดำเนินงานดีขึ้นทุกไตรมาส กระแสเงินสดเป็นบวก หนี้สินลดลง จากการชำระหนี้อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันสัดส่วนหนี้สินต่อ ส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 4.1 เท่า จากเดิม 5.7 เท่า ซึ่งมีเป้าหมายลดให้เหลือที่ 3.2 เท่าภายในปี 2570

นอกจากนี้ TRUE ยังได้ประโยชน์จากการลดต้นทุนด้านเครือข่าย จากการได้คลื่นความถี่ใหม่แทนการเช่า การประมูลคลื่น 2300MHz. และ 1500 MHz. ที่ช่วยประหยัดต้นทุน 2,800 ล้านบาท และประหยัดจากการไม่ต้องจ่ายค่าเช่าโรมมิ่งคลื่น 850MHz จำนวน 2,500 ล้านบาท รวมแล้วประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้ถึงปีละ 5,300 ล้านบาท
สำหรับงบลงทุนในปี 2568 จำนวน  30,000 ล้านบาท จะลงทุนพัฒนาและปรับปรุง Network ให้ทันสมัย ซึ่งคิดเป็น 16%ของรายได้ ซึ่ง TRUE มีเป้าหมายลดลงให้เหลือ 13-14% ของรายได้