กรุงศรี จ่อปรับเป้าสินเชื่อสีเขียวใหม่ หลังยอดทะลักแตะ 2.2 แสนล้านบาท

HoonSmart.com>>กรุงศรี เตรียมปรับเป้าสินเชื่อเพื่อความยั่งยืนใหม่จากเดิมวาง 2.5 แสนล้านบาท ในปี 2573 หลังยอดปล่อยปล่อยกู้แตะ 2.2 แสนล้านบาทเร็วกว่าคาด เผยภาคธุรกิจพลังงาน ยานยนต์ ขนส่ง เคมี และประมง มาแรง หวังเปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่ความยั่งยืน เดินหน้าสร้างความตระหนักด้าน ESG และนวัตกรรมดิจิทัล ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียวเต็มสูบ ลั่นพร้อมอยู่คู่ไทยต่อไปหลังใช้เวลา 80 ปีก้าวสู่สถาบันการเงินอันดับ 5 ของประเทศ

นายเคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ( BAY) หรือ กรุงศรี กล่าวว่า กรุงศรี อยู่ระหว่างการปรับเป้าหมายการสนับสนุนทางการเงินให้แก่โครงการธุรกิจเพื่อสังคมและความยั่งยืน (SSF)  หรือสินเชื่อสีเขียว จากที่ตั้งเป้าหมายไว้ 250,000 ล้านบาท ปี 2573 มั่นใจว่าจะทะลุเป้าก่อนที่จะถึงปี 2573 เพราะปัจจุบันมีการปล่อยสินเชื่อดังกล่าวไปแล้ว 220,000 ล้านบาท ตอกย้ำการเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียวและการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ เป็นผลมาจากจากแรงขับเคลื่อนของความต้องการจากลูกค้า ความร่วมมือระดับโลก กับ MUFG การใช้ผู้เชี่ยวชาญภายนอก และการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าและภาครัฐ

สำหรับ กลุ่มอุตสาหกรรมที่ยังมีความต้องการใช้บริการด้านการเงินเพื่อความยั่งยืนอันดับต้นๆ มีกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงาน กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ กลุ่มธุรกิจขนส่ง กลุ่มเคมีภัณฑ์ และกลุ่มอุตสาหกรรมประมง ที่ต้องการเปลี่ยนผ่านกระบวนการผลิต และต้องการมุ่งสู่การลดการปล่อยคาร์บอนให้เป็นศูนย์

นอกเหนือจากการให้บริการผลิตภัณฑ์ทางการเงินแล้ว  ยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความรู้และความตระหนักด้านการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียวและการพัฒนาอย่างยั่งยืน (ESG) โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้า SME ผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น ESG Academy และ ESG Award เพื่อยกระดับความเข้าใจในประเด็นด้านความยั่งยืนในกลุ่มลูกค้า

“เรามองว่า ESG ไม่ใช่เพียงกลยุทธ์ แต่เป็นองค์ประกอบหลักของการดำเนินงาน โดยได้ให้คำมั่นสำคัญสองประการ ได้แก่ การลดคาร์บอนจากการดำเนินงานของกรุงศรีให้เป็นศูนย์ภายในปี 2030 และการลดคาร์บอนจากพอร์ตการเงินให้เป็นศูนย์ภายในปี 2050″นายยามาโตะ กล่าว

นายยามาโตะ กล่าวว่า ในปี 2567 ที่ผ่านมา มีความก้าวหน้าอย่างมากในการลดคาร์บอนจากการดำเนินงานของตนเอง โดยสามารถลดการปล่อยก๊าซ CO2 ได้เกือบ 10% คือได้ 9.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ความสำเร็จนี้เกิดจากการดำเนินการต่าง ๆ เช่น การเปลี่ยนระบบปรับอากาศ การนำรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และรถยนต์ไฮบริดมาใช้ร่วมกับ Toyota และ Honda รวมถึงการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในสาขาต่าง ๆ มีความมั่นใจว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายการลดคาร์บอนภายในปี 2030 ได้ตามแผน

ทั้งนี้ เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มุ่งเน้นการเสริมความแข็งแกร่งในธุรกิจหลัก (Core Banking) เร่งขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล สนับสนุนวัฒนธรรมเชิงนวัตกรรม และดำเนินธุรกิจบนความยั่งยืน โดยมีเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Krungsri Net Zero Vision) ภายในปี 2573 ผ่านการดำเนินงานใน 3 ด้านหลัก ได้แก่

-การเชื่อมโยงกลยุทธ์และความร่วมมือ: ขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ ที่สอดคล้องกับนโยบายสำคัญของประเทศไทย พร้อมใช้ประโยชน์จากเครือข่ายระดับโลกของ MUFG เพื่อส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งรวมถึงการพัฒนาโซลูชันทางการเงิน ความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมต่าง ๆ และการขยายความร่วมมือในระดับภูมิภาค เพื่อเสริมศักยภาพการแข่งขันให้กับลูกค้าทั่วทั้งอาเซียน
-นวัตกรรมดิจิทัล: ยกระดับขีดความสามารถให้เหนือกว่าการให้บริการทางการเงินแบบดั้งเดิม ด้วยการลงทุนในโซลูชันดิจิทัล และเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วย AI ควบคู่กับการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างรอบด้าน เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านและการเติบโตของลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ
-พันธกิจด้านความยั่งยืน: บูรณาการแนวคิดด้านความยั่งยืนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจ พร้อมส่งเสริมสังคมที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจ ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตของประชาชน

80 ปีก้าวสู่สถาบันการเงินอันดับ 5 ของไทย

นายยามาโตะ กล่าวว่า ในโอกาสครบรอบ 80 ปีของกรุงศรี สะท้อนถึงเส้นทางการเติบโตของเราตั้งแต่จุดเริ่มต้นที่เรียบง่ายสู่การเป็นสถาบันการเงินที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย และให้บริการลูกค้ากว่า 19 ล้านรายทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียน

“บนเส้นทางดังกล่าว เราได้ก้าวข้ามวิกฤติเศรษฐกิจ รวมถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจและสังคมทั่วโลก การยืนหยัดอย่างมั่นคงท่ามกลางสถานการณ์ดังกล่าวได้หล่อหลอมให้เรามีความแข็งแกร่ง พร้อมรับมือกับความท้าทายที่ซับซ้อนในปัจจุบันทั้งระดับโลกและระดับประเทศ ไม่ว่าจะเป็นความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีและสภาพภูมิอากาศ”นายยามาโตะ กล่าว

นายเคนอิจิ กล่าวว่า วันที่ 5 ส.ค.2568 กรุงศรี โดยร่วมมือกับ MUFG หนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก จัดงานสัมมนาสุดยิ่งใหญ่แห่งปี  Krungsri-MUFG Business Forum 2025: ภายใต้แนวคิด Thriving to a Sustainable Future” เวทีที่รวบรวมผู้นำจากหลากหลายอุตสาหกรรมมาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองและกลยุทธ์การเติบโตท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก พร้อมตอกย้ำพันธกิจระยะยาวร่วมกันของทั้งสององค์กรในการขับเคลื่อนความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยอย่างยั่งยืน

งานนี้ได้รับเกียรติจากผู้นำด้านเศรษฐกิจ การเงิน และธุรกิจระดับประเทศและระดับโลก มาร่วมแสดงวิสัยทัศน์ และแบ่งปันมุมมองเชิงลึกในการสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน รวมทั้งกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การนำเสนอแผนธุรกิจเพื่อร่วมเปลี่ยนโลกในโครงการ Krungsri ESG Awards และการมอบเกียรติบัตร Krungsri ESG Academy สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจเข้าร่วมแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เป็นต้น

ภายในงาน ได้เน้นย้ำถึงบทบาทผู้นำในการนำเสนอโซลูชันทางการเงินที่สร้างสรรค์ พร้อมแนวทางด้านความยั่งยืน ที่ครอบคลุมมากกว่ากรอบ ESG แบบดั้งเดิม โดยมุ่งมั่นส่งมอบเครื่องมือ พันธมิตร และความมั่นใจให้แก่ลูกค้า เพื่อรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจในยุคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และเสริมศักยภาพการแข่งขันในระดับภูมิภาคอาเซียน

นายยามาโตะ กล่าวว่า งานในวันนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของกรุงศรีในการเป็นธนาคารพันธมิตรที่ลูกค้าธุรกิจเชื่อมั่นและไว้วางใจ พร้อมสนับสนุนการเติบโตและปรับตัวของลูกค้าในทุกมิติ เราเชื่อว่าพลังของความร่วมมือ นวัตกรรม รวมถึงแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ยึดหลักความยั่งยืน คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถก้าวข้ามการเปลี่ยนแปลงและความซับซ้อนของโลกยุคใหม่ได้อย่างมั่นใจ

“ตลอด 80 ปีที่ผ่านมากรุงศรีได้เติบโตเคียงข้างภาคธุรกิจและสังคมไทยอย่างต่อเนื่อง และจะยังคงยึดมั่นในพันธกิจที่จะไม่เพียงแค่ช่วยให้ธุรกิจอยู่รอด แต่จะต้องเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ด้วยความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทย และพลังในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนและรุ่งเรืองไปด้วยกัน” นายยามาโตะ กล่าวปิดท้าย