HoonSmart.com>>เทคออฟแรง “การบินไทย” (THAI) กลับเข้าตลาดหุ้นวันแรก 4 ส.ค.ราคาเปิดกระโดดที่ 10.50 บาทแจกกำไร 134.38% เทียบเพิ่มทุนที่ 4.48 บาท วิ่งขึ้นไปสูงสุดแตะ 11 บาท ลงไปต่ำสุด 8.55 บาท ปิดที่ 10.50 บาท มาร์เก็ตแคป 2.97 แสนล้านบาท หวังเข้า SET 50 ประธานบอร์ดเผยราคาหุ้นสะท้อนเชื่อมั่นนักลงทุน ซีอีโอลั่น ลั่นกำไรโต เร่งเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ เพิ่มฝูงบิน 150 ลำปี 76 รายได้วิ่งเข้าเป้า 4 แสนล้านจาก 1 แสนล้าน ลุยลงทุนศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน อู่ตะเภา
วันที่ 4 ส.ค. 2568 บริษัทการบินไทย (THAI) กลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันแรก ราคาหุ้นเปิดกระโดดถึง 10.50 บาท จากราคาเพิ่มทุนที่ 4.48 บาท แจกกำไรหุ้นละ 6.02 บาท คิดเป็นผลตอบแทน 134.38% วิ่งขึ้นไปสูงสุดแตะ 11 บาท ลงไปต่ำสุด 8.55 บาทในช่วงเช้า แรงซื้อทะลักเข้าช่วงบ่าย หนุนราคาปิดที่ 10.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 5,216.29 ล้านบาท ทั้งนี้ราคาปิดที่ 10.50 บาท คิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ประมาณ 297,185 ล้านบาท เพิ่มมูลค่าตลาดหุ้นไทยหลังหุ้นบริษัทการบินไทยหยุดพักการซื้อขายมานานตั้งแต่ปี 2564
นายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการ บริษัท การบินไทย กล่าวว่า ราคาหุ้นการบินไทยที่ปรับตัวขึ้นแรง สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุน ซึ่งตัวเลขของผลการดำเนินงานต่างๆดีขึ้น ธุรกิจมีการต่อยอดการเติบโต มีการจัดหาเครื่องบินเพิ่มตามความต้องการสูง การบริหารจัดการดีขึ้นมาก
นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย กล่าวว่า หุ้นการบินไทยได้กลับเข้ามาซื้อขายในช่วงเวลาที่ดี ดัชนี SET ฟื้นขึ้นเหนือ 1,200 จุด มองว่าหุ้น THAI เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนแบบเน้นคุณค่า (Value Investor) คาดวันหนึ่งจะกลับเข้าไปอยู่ใน SET50 ได้ บริษัทฯมีกำไรมาตลอด 10 ไตรมาสที่ผ่านมาติดต่อกัน ไม่ว่าจะเป็นช่วง high หรือ low season ขณะที่การบริหารจัดการทำได้ดี เช่น การลดต้นทุนดของพนักงานและผู้บริหาร แต่บริษัทยังขาดแคลนเครื่องบิน ซึ่งการรับ 45 ลำจะเริ่มสร้างรายได้เชิงพาณิชย์ประมาณต้นปี 2571 ล่าช้าเล็กน้อยจากเดิมคาดไว้ปี 2570 ได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าจาก BOI
แนวโน้มการเพิ่มฝูงบินให้ได้ 150 ลำภายในปี 2576 จะผลักดันรายได้ของการบินไทยเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 4 แสนล้านบาทตามเป้าหมาย จากปัจจุบันอยู่ที่กว่า 1 แสนล้านบาท หลังจากสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาด (มาร์เก็ตแชร์) เช่น ที่สุวรรณภูมิมีมาร์เก็ตแชร์ 26 % ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 35% ภายในปี 2572 เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ช่วยในการตั้งราคาขายบัตรโดยสารได้ดียิ่งขึ้น
ทางด้านผลการดำเนินงานดีขึ้น ไตรมาสที่ 2 เติบโต ส่วนครึ่งปีหลังมียอดจองที่นั่งล่วงหน้าใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป้าหมายผู้โดยสารหลัก เป็นกลุ่มผู้เดินทางเพื่อธุรกิจในเส้นทางระยะไกล มีนักท่องเที่ยวเป็นส่วนน้อย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ส่วนเงินปันผล หากบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ จ่ายให้กับผู้ลงทุนได้อย่างต่ำ 25% ของกำไรสุทธิ
สำหรับโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (MRO) ที่สนามบินอู่ตะเภานั้น THAI ได้รับจดหมายเชิญจากสำนักงานเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) แล้วเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยบริษัทจะเข้าร่วมลงทุน และต้องยื่นข้อเสนอภายในสิ้นเดือนก.ย. คาดว่ามูลค่าลงทุนรวมประมาณ 10,000 ล้านบาท น่าจะเริ่มก่อสร้างภายในปี 2570 รายละเอียดการลงทุนอยู่ระหว่างการหารือกับบริษัทการบินกรุงเทพ (BA)ซึ่งจะมาร่วมลงทุนในพื้นที่โครงการ MRO ด้วยกัน
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการ บริษัทการบินไทย กล่าวว่า แนวโน้มผลประกอบการปีนี้ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แม้อาจจะมีข้อติดขัดจากการเร่งซ่อมบำรุงรักษาเครื่องบิน ทำให้เครื่องบินจำนวนหนึ่งต้องหยุดบินและใช้เวลาซ่อมนานกว่าที่ควร ส่วนแนวโน้มปี 2569 ดีขึ้นแน่นอน จากจำนวนเที่ยวบินและนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น
ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI ระบุว่า หุ้น THAI กลับมาซื้อขายในตลาดหุ้น น่าจะส่งผลดีต่อ BBL และ KTB จากการแปลงหนี้เป็นทุนในไตรมาส 4/2567 ทำให้ BBL และ KTB ถือหุ้น 8.5% และ 4.7% ของหุ้นทั้งหมดของ THAI ตามลำดับ ซึ่งจะรับรู้กำไรโดยบันทึกเป็นกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น (OCI) ทำให้มูลค่าหุ้นทางบัญชีของ BBL และ KTB เพิ่มขึ้น 3.3% และ 2.3% ตามลำดับ
ด้านราคาหุ้นกลุ่มการบิน AAV ปรับตัวลง 1.25 บาท ร่วงลง 0.10 บาท ลดลง -7.41% วันที่ 4 ส.ค.นี้
