TFM นิวไฮ Q2/68 กำไร 194 ลบ. แจกปันผลกลางปี 5.56%

HoonSmart.com>>”ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์” (TFM) ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ไตรมาส 2/68 โกยกำไร 194 ล้านบาท พุ่งขึ้น 49.72% ด้วยยอดขาย 1,476 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.8% กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารกุ้งและอาหารปลาในประเทศขยายตัวต่อหนุนอัตรากำไรขั้นต้นนิวไฮที่ 22.9%โตแข็งแกร่ง 6 ไตรมาสติดต่อกัน บอร์ดใจดีทุ่มกำไร 92% จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.30 บาทต่อหุ้น ตอบแทนผู้ถือหุ้นถึง 5.56% มั่นใจรายได้ปีนี้ เติบโต 7-9 % ปักเป้า 10,000 ล้านบาทภายในปี 73 

บริษัทไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ (TFM) ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำและอาหารสัตว์เศรษฐกิจของไทย รายงานผลงานงวดไตรมาสที่ 2/2568 มีกำไรสุทธิ 193.72 ล้านบาท กำไรหุ้นละ 0.19 บาท เพิ่มขึ้น 64.33 ล้านบาท คิดเป็น 49.72% จากงวดเดียวกันปีก่อนกำไรสุทธิ 129.39 ล้านบาท หรือ 0.13 บาทต่อหุ้น รวมครึ่งปีแรก กำไรทั้งสิ้น 325.60 ล้านบาท กำไรหุ้นละ 0.33 บาท เพิ่มขึ้นจำนวน 92.20 ล้านบาท หรือ 39.50% จากกำไรสุทธิ 233.40 ล้านบาทหรือ 0.23 บาทต่อหุ้นในช่วงเดียวกันปีก่อน

นายพีระศักดิ์ บุญมีโชติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์  กล่าวว่า ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการเติบโต โดยมียอดขายและกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วยยอดขาย 1,476 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.8%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งของยอดขายตลาดในประเทศ

ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์อาหารกุ้ง ทำยอดขาย 929 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.8% เติบโตอย่างมีนัยสำคัญจากตลาดในประเทศที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งจากการขยายส่วนแบ่งตลาด ทั้งการเพิ่มฐานลูกค้าใหม่และขยายฐานลูกค้าเดิมอย่างต่อเนื่อง ผลิตภัณฑ์อาหารปลา มียอดขายอยู่ที่ 455 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.2% ได้รับแรงหนุนจากปริมาณขายอาหารปลากะพงที่เติบโตถึง 29.1%รวมถึงอาหารปลาประเภทอื่นๆ ที่เพิ่มขึ้น 16.1% สะท้อนถึงความสำเร็จของกลยุทธ์ในการขยายส่วนแบ่งทางการตลาด ตอกย้ำความเป็นผู้นำอาหารสัตว์น้ำของบริษัทฯ

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังคงรักษาสถานะทางการเงินที่มั่นคงและแข็งแกร่ง จากการบริหารจัดการทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ โดยมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นในระดับต่ำเพียง 0.08 เท่า

ขณะที่ผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2568 เติบโตแข็งแกร่งเช่นกัน โดยมียอดขาย 2,707 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.3% และมีกำไรสุทธิ 326 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.5%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

สำหรับแนวโน้มการดำเนินงานปี 2568 คาดว่ารายได้จะเติบโต 7-9% โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักธุรกิจอาหารกุ้งและปลาที่โตต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน TFM พร้อมรักษาอัตรากำไรขั้นต้น โดยอาศัยปัจจัยสนับสนุนจากการบริหารพอร์ต การเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ตลอดจนการจัดการต้นทุนวัตถุดิบอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงเดินหน้าบริหารอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขาย เพื่อสร้างสมดุลในการสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว

บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนตามแผนการเติบโตระยะยาว เพื่อบรรลุเป้าหมายรายได้รวม 10,000 ล้านบาท ภายในปี 2573 หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสม (CAGR) ประมาณ 11%ต่อปี เพื่อรองรับการเติบโต บริษัทฯ ได้ลงทุนอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศไทยและอินโดนีเซีย เน้นการขยายกำลังการผลิต การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และการยกระดับเทคโนโลยีการผลิตให้ทันสมัยยิ่งขึ้น อีกทั้งยังพร้อมเปิดรับโอกาสการลงทุนใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับกลยุทธ์การเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งในด้านผลิตภัณฑ์ การขยายตลาด และการหาพันธมิตรทางธุรกิจ โดยอาศัยจุดแข็งด้านกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง และโครงสร้างหนี้ที่อยู่ในระดับต่ำ ซึ่งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการบริหารเงินทุนและสนับสนุนการขยายธุรกิจได้อย่างมั่นคงในอนาคต

ทางด้านคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลปีนี้ ในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลสูงถึง 92% กำไรสุทธิ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง   ทั้งนี้ คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูงถึง  5.56%  เทียบกับราคาหุ้นปิดที่ 5.40 บาท บวก 0.20 บาทหรือ +3.85% เมื่อวันที่ 1 ส.ค.2568