HoonSmart.com>>บล.ดาโอ ประเมินหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ ไทย-กัมพูชา มีโอกาสกลับมา rebound ได้ในระยะสั้น หลังตกลงหยุดยิง จัดประชุมร่วมกันทั้งสองฝ่าย แนะซื้อ “SAV, CBG” ราคาลงลึก นักลงทุนเข้าซื้อ SAV บวก 4.27% ส่วน CBG ปรับตัวขึ้น 1.88%
บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ วิเคราะห์หุ้นที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา จากผลการประชุมหารือถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา วานนี้ (28 ก.ค.) ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ได้ข้อสรุปให้มีการหยุดยิงตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 28 ก.ค. และในวันที่ 29 ก.ค. เวลา 7.00 น. จะมีการประชุมแม่ทัพภาค 1 และ 2 ของฝ่ายไทย และกองทัพภาค 4 และ 5 ของกัมพูชา อีกทั้ง ไทย-กัมพูชา จะจัดการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ในวันที่ 4 ส.ค.
นอกจากนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์เผย ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ทรัมป์ได้สั่งคณะทำงานด้านการค้าให้กลับมาเปิดการเจรจากับไทย-กัมพูชาอีกครั้ง หลังเกิดการหยุดยิง (ที่มา: อินโฟเควสท์, รอยเตอร์)
บล.ดาโอ มองเป็นลบน้อยลงต่อสถานการณ์ ไทย-กัมพูชา ที่มีการหยุดยิง จากเดิมที่คาดว่าจะรุนแรงและยืดเยื้อ และจัดให้มีการประชุมร่วมกันทั้งสองฝ่าย ซึ่งอาจเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการคลี่คลายสถานการณ์ โดยบล.ดาโอ ประเมินว่าจะทำให้หุ้นที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ ไทย-กัมพูชา มีโอกาสกลับมา rebound ได้ในระยะสั้น
อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามว่าสถานการณ์จะคลี่คลายได้จริงหรือไม่ในระยะต่อไป สำหรับหุ้นที่บล.ดาโอ ประเมินจะได้รับผลกระทบเชิงลบและราคาหุ้นปรับตัวลดลงมากก่อนหน้านี้ที่มีโอกาสกลับมาฟื้นตัว ได้แก่
SAV (ซื้อ/เป้า 21.00 บาท) มีรายได้ 100% ในกัมพูชา มีความเสี่ยงและเป็น overhang จากการดำเนินธุรกิจหลักวิทยุการบินในกัมพูชา ได้สัมปทานถึงปี 2051 โดยราคาหุ้นลดลง -7.9% ตั้งแต่ 24 ก.ค. ที่กัมพูชาเริ่มยิงไทยก่อน
CBG (ซื้อ/เป้า 79.00 บาท) สัดส่วนรายได้จากกัมพูชาประมาณ 13% ของรายได้รวม ซึ่ง CBG มี market เป็นอันดับ 1 ของกัมพูชาโดยมากกว่า 50% และต่างกับอันดับ 2 ซึ่งเป็นผู้ผลิต local ค่อนข้างมาก ทั้งนี้ CBG มีสต๊อกที่ 3 เดือน และปัจจุบันขนส่งทางเรือซึ่งจะใช้เวลามากกว่าขนส่งทางบกประมาณ 3-4 วัน อย่างไรก็ตาม distributor ที่กัมพูชาเผยยอด sell-out ปัจจุบันยังปกติ โดยกิจกรรมทางการตลาดและการบริโภคในประเทศกัมพูชายังเป็นปกติ ทั้งนี้ ราคาหุ้นลดลง -7.4% ตั้งแต่ 24 ก.ค.
ด้านหุ้น SAV ณ เวลา 11.40 น. อยู่ที่ 12.20 บาท +0.50 บาท หรือ +4.27% มูลค่าการซื้อขาย 38.84 ล้านบาท
CBG ณ เวลา 11.41 น. อยู่ที่ 54.25 บาท +1.00 บาท หรือ +1.88% มูลค่าการซื้อขาย 179.25 ล้านบาท
