KTC พุ่งฉิว กำไร Q2/68 โต บอร์ดเพิ่มธุรกิจประกันภัย-ชีวิต 

HoonSmart.com>>บัตรกรุงไทย (KTC) ปรับตัวขึ้นกว่า 4% สวนทางตลาด  หลังบอร์ดเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น เพื่อขยายการดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยและประกันชีวิต  กำไรไตรมาสที่ 2/68 เติบโตเป็น  1,894.79 ล้านบาท  นักวิเคราะห์เสียงแตก  บล.อินโนเวสท์ เอกซ์-บล.เคจีไอแนะ ถือ คงเป้าหมาย  29 บาท แนวโน้มกำไรทรงตัว  บล.บัวหลวงให้ขาย กำไรปีนี้ทรงตัว 7,500 ล้านบาท แนวโน้มปี 68-70 จะอ่อนแอเหมือนธุรกิจแบงก์ 

บริษัทบัตรกรุงไทย (KTC ) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทฯมีมติเมื่อวันที่ 18 ก.ค.2568 เชิญประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นวันที่ 25 ส.ค. 2568 เพื่อพิจารณาอนุมัติการแก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ของบริษัท และแก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิเพื่อให้สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจข้อที่ 33. ประกอบธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยและนายหน้าประกันชีวิตข้อ 34. ให้คำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ประกันวินาศภัยและประกันชีวิตข้อ

นอกจากนี้ ผลงานในไตรมาสที่ 2/2568 มีกำไรสุทธิ 1,894.79 ล้านบาท กำไรหุ้นละ 0.73 บาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปัก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,826.19 ล้านบาท คิดเป็นกำไรหุ้นละ 0.71 บาท รวม 6 เดือนแรกปีนี้กำไรทั้งสิ้น 3,755.30 ล้านบาท หรือ 1.46 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นจากจำนวน 3,629.18 ล้านบาทหรือ 1.41 บาทต่อหุ้น

บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ มองกำไรไตรมาสที่ 2/2568 ออกมาตามคาด สะท้อนถึงคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้นสินเชื่อในระดับทรงตัว NIM ที่ดีขึ้นรายได้ค่าธรรมเนียมและหนี้สูญได้รับคืนที่ลดลงและอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ที่ลดลง คาดว่ากําไรสุทธิไตรมาสที่ 3 จะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างทรงตัว QoQ และ YoY รวมกําไรสุทธิปี 2568 จะเติบโตเล็กน้อย

“คงคําแนะนําถือ  KTC และคงราคาเป้าหมายไว้ที่ 29 บาท เนื่องจาก valuation ไม่น่าสนใจและกําไรสุทธิมีแนวโน้มทรงตัว”

เราปรับประมาณการกําไรสุทธิปี 2568 เพิ่มขึ้น 3% จากปัจจุบันคาดโต 2% เพื่อสะท้อนผลประกอบการไตรมาสที่ 2   ซึ่งเป็นผลมาจากสินเชื่อที่เติบโต 1% NIM ที่แคบลง 5 bps credit cost ที่ลดลง 24 bps และ non-NII ที่เพิ่มขึ้น 1% คาดว่ากําไรสุทธิ 3Q68 จะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างทรงตัว QoQ และ YoY

ด้านบล.บัวหลวงแนะนำขายหุ้น KTC กำไรสุทธิครึ่งแรกของปี 2568 คิดเป็น 50%ของประมาณการทั้งปีที่ 7,500 ล้านบาท  หลังกำไรไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น YoY และ QoQ เนื่องจากการตั้งสารองที่ลดลง อัตราส่วนการตั้งสารองหนี้ต่อสินเชื่อ อยู่ที่ 5.68% ลดลงจาก 6.40%ในไตรมาส 2/67และ 5.84%ในไตรมาส 1/68 อัตราส่วนหนี้เสีย/สินเชื่อรวมลดลงจาก 1.96%ณสิ้นเดือนมี.ค.2568มาอยู่ที่ 1.82% ณสิ้นเดือน มิ.ย. 2568 อัตราส่วนการตั้งสารองหนี้สะสมต่อหนี้เสีย เพิ่มขึ้นจาก384.5%ณสิ้นเดือนมี.ค.2568มาอยู่ที่ 419.7% ณสิ้นเดือนมิ.ย. 2568 คุณภาพสินทรัพย์แข็งแกร่งขึ้น QoQ ในไตรมาสนี้

แนวโน้มกำไรไตรมาส  3/2568 ที่ 1,900 ล้านบาท ลดลง 3% YoY  และทรงตัว QoQ จากค่าใช้จ่ายดำเนินงานสูงขึ้น สิ่งที่เปลี่ยนแปลง คาดกำไรสุทธิปี 2568 ที่ 7,500 ล้านบาท ทรงตัว YoY  คาดรายได้จากค่าธรรมเนียมและบริการและหนี้สูญรับคืนที่เพิ่มขึ้นจะถูกหักล้างด้วยค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่สูงขึ้น

แนวโน้มกำไรของ KTC จะอ่อนแอในปี 2568-2570 ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับกลุ่มธนาคาร โดยคาด ROE ของ KTC จะปรับลดลงจาก 19.6%ในปี 2567มาที่ 15.6%ในปี 2570 ทำให้คาดว่าอัตราส่วนมูลค่าหุ้นจะลดลง PBV ปี 2568  อยู่ที่ 1.6เท่า และ ROE อยู่ที่ 17.8%คิดเป็นสัดส่วน PBV/ROE ที่ 0.091เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มธนาคารที่ 0.088 เท่า นอกจากนี้  ยังกังวลความเสี่ยงเรื่องภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ จะกดดันความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้บางส่วนของ KTC ในครึ่งหลังของปี 2568 แนะนำขาย

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) แนะนำถือ ให้ราคาเป้าหมาย 29 บาท หลังกำไรไตรมาสที่ 2 ดีกว่าที่เราคาด 3% ทำให้ครึ่งปีกำไรรวม 3,700 ล้านบาทคิดเป็น 51% ของประมาณการทั้งปี แต่สิเชื่อโตลดลง คุณภาพสินทรัพย์มีสัญญาณที่ดีขึ้น

ด้านราคาหุ้น KTC เช้าวันนี้ ปรับตัวขึ้นสวนทางตลาด เคลื่อนไหวอยู่ที่ 29  บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาทหรือ +4.50% ณ เวลาประมาณ  11.37  น.