HoonSmart.com>>ดีวี8 ปฏิเสธความเคลื่อนไหวภายใน ไม่มีพัฒนาการใดๆ ไม่ทราบสาเหตุที่หุ้นพุ่งแรง หลัง SET จับเข้ามาตรการกำกับระดับ 2 เริ่ม 16 ก.ค.-5 ส.ค.’68 คุมความร้อนแรงตลาดหุ้น
เช้าวันที่ 16 ก.ค.2568 บริษัท ดีวี8 หรือ DV8 ออกแถลงการณ์ชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า บริษัทฯไม่มีพัฒนาการใดๆ ที่ยังไม่ได้เปิดเผย ไม่มี การเพิ่มทุน ไม่มีการร่วมทุน ไม่มีการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน
หรือข้อพิพาทที่สำคัญ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสภาพการซื้อขายที่เปลี่ยนแปลง
2. บริษัทไม่ทราบ:ถึงสาเหตุอื่นใดที่อาจส่งผลกระทบต่อการซื้อขาย
3. บริษัทไม่มีสารสนเทศอื่นที่บริษัทต้องการชี้แจง
หากมีข้อมูลใดที่บริษัทฯ มีหน้าที่ต้องแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ บริษัทฯ จะดำเนินการตามข้อกำหนดอย่างครบถ้วน
วานนี้ (15 ก.ค.2568 )ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ประกาศยกระดับมาตรการกำกับการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัท ดีวี8 หรือ DV8 สู่ “ระดับ 2” มีผลตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม ถึง 5 สิงหาคม 2568 หลังราคาหุ้นพุ่งแรงต่อเนื่องแตะ 8.60 บาท เพิ่มขึ้นกว่า 100% นับตั้งแต่ต้นปี โดยไม่มีข้อมูลพื้นฐานที่สนับสนุนการเคลื่อนไหวดังกล่าว
ภายใต้มาตรการระดับ 2 นักลงทุนจะไม่สามารถทำ Net Settlement และจะถูกจำกัดการซื้อด้วยบัญชี Cash Balance พร้อมกับการบังคับใช้รูปแบบการซื้อขายแบบ Auction เพื่อชะลอความผันผวนที่อาจกระทบเสถียรภาพตลาดรวม
ราคาหุ้น DV8 ปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงตลอดไตรมาสที่ 2 จากระดับประมาณ 1.50 บาทสู่ระดับสูงสุดในรอบหลายปีที่ 8.60 บาท ส่งผลให้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap) ของ DV8 ขยายตัวทะลุ 5,000 ล้านบาท เทียบกับระดับไม่ถึง 700 ล้านบาทช่วงต้นปี อัตราส่วน P/E และ P/BV แตะระดับสูงผิดปกติจากค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม
ตลาดหลักทรัพย์ระบุว่า การยกระดับครั้งนี้เป็นมาตรการเชิงป้องกันหลังพบ “ลักษณะการซื้อขายผิดปกติ” โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับข้อมูลพื้นฐานของบริษัท ซึ่งล่าสุดผู้ถือหุ้นรายใหญ่ยังคงเสนอซื้อหุ้นคืน (Tender Offer) ที่ราคาเพียง 0.56 บาทต่อหุ้น ต่ำกว่าราคาตลาดกว่า 85%
โดยผู้เสนอซื้อมีแผนที่จะขยายธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล การตัวอยู่ระหว่างศึกษาโอกาสและความเป็นไปได้ของธุรกิจซึ่งคาดว่าจะเห็นผลการศึกษาในไตรมาส 4 ปี 2568
หุ้น DV8 อยู่ภายใต้มาตรการกำกับระดับ 1 ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ก่อนที่ราคาจะเร่งตัวขึ้นในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม โดยไม่มีข่าวสารหรือปัจจัยพื้นฐานใหม่ที่เปิดเผยต่อสาธารณะ
ตลาดหลักทรัพย์ฯ เน้นย้ำว่า จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพร้อมดำเนินมาตรการเพิ่มเติม หากพบพฤติกรรมการซื้อขายที่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อผู้ลงทุนหรือเสถียรภาพตลาดโดยรวม
ทั้งนี้ ให้นักลงทุนระมัดระวังการลงทุน และติดตามข้อมูลปัจจัยพื้นฐานประกอบและการตัดสินใจลงทุน
