HoonSmart.com>>ฉลาดนัก! สหรัฐฯสกัดการนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมด้วยการปรับภาษีนำเข้าสินค้าในอัตรา 50% เล็งกระทบไทยไม่มาก แต่เศรษฐกิจโลกน่าเป็นห่วง เหล็กจีนยังคงล้นตลาด “ชูเกียรติ”แห่ง PERM ชี้ทางรอด”ลดค่าใช้จ่าย-ระวังการปล่อยเครดิต-บริหารสต็อกสินค้าให้ดี” ด้านเอ็มดี AMC ระบุ ทุกรายโดนภาษีสหรัฐกันหมด สุดท้ายจะเกิดการปรับตัวให้บาลานซ์เอง
สหรัฐอเมริกาประกาศใช้มาตรการภาษีนำเข้าสินค้าเหล็กและอะลูมิเนียมในอัตรา 50% กับทุกประเทศ เริ่มวันที่ 1 ส.ค.นี้ สาเหตุมาจากสหรัฐฯมีการนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากทั่วโลกเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จนส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตในสหรัฐฯ ซึ่งสหรัฐนำเข้าโตเฉลี่ยปีละ 12% ทำให้อัตราการใช้กำลังการผลิตของผู้ผลิตในสหรัฐฯลดลง
ทางรอด”ลดค่าใช้จ่าย-ระวังปล่อยเครดิต-บริหารสต็อกให้ดี”
นาย ชูเกียรติ ยงวงศ์ไพบูลย์ ประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการ บริษัท เพิ่มสินสตีลเวิคส์ (PERM) เปิดเผยว่า เหล็กไทยส่งออกไปสหรัฐฯไม่มาก ส่วนใหญ่ที่ส่งออกไปจะเป็นท่อดำ ชิ้นส่วนรถยนต์บางอย่าง ผลกระทบจึงไม่รุนแรง เพราะไทยนำเข้าเหล็กเป็นส่วนใหญ่ ที่ผ่านมาผู้ประกอบการปรับตัวมานานพอควรแล้ว เนื่องจากมีความยากลำบากมาเกือบปี ตอนนี้หันไปมองตลาดออสเตรเลีย อินเดีย หาประเทศที่พอไปได้ คงจะยากช่วงนี้ เพราะทั้งอินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์ ต่างรับผลกระทบภาษี”ทรัมป์”กันหมด มีเพียงเวียดนามที่โดนภาษีสหรัฐฯในอัตราที่น้อยกว่าประเทศอื่น
สำหรับราคาเหล็กทรงตัวมา 5-6 เดือน หลังจากที่รัฐบาลจีนปล่อยให้โรงงานผลิตเหล็กในจีนทยอยปิดตัวไปปีเศษ เพราะเหล็กล้นตลาด แต่ซัพพลายก็ยังมากอยู่ อย่างไรก็ดี การแข่งขันธุรกิจเหล็กไม่รุนแรงเหมือน 1-2 ปีที่แล้ว ปัจจุบันราคาเหล็กรีดร้อนอยู่ที่ 450-460 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน และเหล็กเคลือบอยู่ที่ 540-550 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน ซึ่งราคาเหล็กสวิงแถว 20-30 เหรียญสหรัฐฯมามากกว่า 1ปีแล้ว แต่ก็พอยอมรับได้ ซึ่งอยู่ที่ความต้องการในประเทศสำคัญกว่า ช่วงนี้ฤดูฝนเป็น Low Season ของธุรกิจ แต่ละที่ต้องคำนวนสต็อกให้ดี ผลกระทบจะหนักขึ้นในไตรมาส 3 ต้องบริหารสต็อกและระมัดระวังการปล่อยเครดิต
“ภาษีสหรัฐฯโดนกันทั่วโลก และจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไปด้วย ดังนั้นบริษัทฯต้องเอาตัวรอด ซึ่งให้ความสำคัญกับการลดค่าใช้จ่าย, ระมัดระวังการปล่อยเครดิต รวมถึงจะต้องบริหารสต็อกสินค้าให้หดตัวให้มากที่สุด”
ประธานกรรมการ PERM กล่าวต่อว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/2568 คาดว่าจะดีขึ้นกว่าหลายไตรมาสที่ผ่านมา หลังจากที่บริษัทฯได้ลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท ถือหุ้น 95% ในบริษัท เอ็มพาวเวอร์สตีล ที่ผลิตเหล็กหลังคา เป็นสินค้า High-end ตอนนี้ธุรกิจเริ่มกระเตื้องขึ้น
“รอบนี้ต้องชมรัฐบาลที่เข้ามาช่วยเหลืออุตสาหกรรมเหล็ก ไม่ว่าจะเป็นการออก มอก., จัดการ Dumping (การทุ่มตลาด) ภาครัฐฯเข้มงวดกับการใช้ Made in Thailand เพื่อตัดปัญหาเหล็กจีนทะลักเข้ามา และเหล็กจีนอายุการใช้งานสั้นกว่าเยอะ”
PERM ยังคงเน้นขายสินค้าในประเทศเป็นหลัก แต่มีการนำเข้าเหล็กเคลือบแล้วส่งไปที่อุตสาหกรรมผลิตท่อที่ใช้สำหรับการก่อสร้าง ซึ่งท่อนี้จะเป็นไปตามมอก. และนำเข้าเหล็กรีดเหล็กเย็นมาใช้สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งบริษัทนำเข้าเหล็กมาจากจีนอัตราภาษี 0%
สำหรับบริษัท เอ็มพาวเวอร์สตีล ทำเหล็กม้วนเคลือบแล้วส่งไปให้บริษัทในเครือรีดเป็นหลังคา โดยกลุ่มลูกค้าจะเป็นตลาดกลางถึงบน ลูกค้าของบริษัทมีทั้งที่เป็นโรงงาน, สถานที่ราชการ, GLOBAL, DOHOME เป็นต้น ซึ่งจะมีคู่แข่งเพียงรายเดียว หาก “เอ็มพาวเวอร์สตีล” เดินเครื่องการผลิตเต็มกำลัง จะทำให้รายได้จากบริษัท เอ็มพาวเวอร์สตีล คิดเป็น 30-40% ของรายได้ทั้งหมดของ PERM
“ทิศทางครึ่งหลังปี 2568 คาดเดาได้ยากเพราะตัวแปรเยอะมาก ทั้งการเมืองไทยไม่นิ่ง ซึ่งเราอาศัยงบประมาณภาครัฐเยอะ พอไม่ออกก็ทำให้ทุกอย่างชะงัก ยังดีที่ภาคเอกชนมีการปรับตัวช่วยกันได้ ส่วนภาษีสหรัฐฯจะเรียกเก็บจากไทย 36% เจรจาได้อย่างเก่งก็เท่าเวียดนาม 20% ซึ่งถ้าเท่าเวียดนามก็ยังลำบาก เพราะเวียดนามทุ่มสุดตัว ส่วน”ทรัมป์”ก็คาดการณ์อะไรไม่ได้ ต้องรอดูต่อไป”
โดนภาษีสหรัฐกันหมด สุดท้ายจะเกิดการบาลานซ์
นาย ชูศักดิ์ ยงวงศ์ไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเซีย เมทัล (AMC) เปิดเผยว่า สหรัฐฯจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเหล็กและอะลูมิเนียมในอัตรา 50% ผู้ประกอบการทุกรายต่างก็โดนกันหมด ในแง่การส่งออกที่สุดแล้วจะ Balance ด้วยตัวมันเอง แม้แต่สหรัฐฯก็ต้องปรับตัว เพราะหากผลผลิตไม่พอ อย่างไรก็ต้องนำเข้า ดังนั้นมาตรการภาษีนี้จะยั่งยืนขนาดไหน
“ธุรกิจของเราไม่ได้ส่งออกไปขายสหรัฐฯ แต่กำลังจะเปิดตลาดเหล็กเคลือบปลายปีนี้ ซึ่งจะเป็นในรูปแบบ Local Content ใช้วัตถุดิบในประเทศ พวกที่ใช้ก็จะเป็นโรงงานเฟอร์นิเจอร์ ภาษี”ทรัมป์”สูงมาก นิสัยเขาเล่นสูงก่อนค่อยลด”
ทั้งนี้ บริษัทฯมีแผนที่จะส่งออกผลิตภัณฑ์เหล็กเคลือบไปขายประเทศแถบอาเซียน, ออสเตรเลีย และแคนาดา ซึ่งผลิตภัณฑ์นี้เป็นต้นน้ำ-กลางน้ำ ช่วงแรกจะขายในประเทศเป็นส่วนใหญ่
นายชูศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับภาษีนำเข้าสินค้าที่”ทรัมป์”เรียกเก็บจากไทย 36% คาดหวังว่าการเจรจากับสหรัฐฯจะประสบความสำเร็จ สามารถลดภาษีลงได้บ้าง หากภาษีสหรัฐฯลดลงมาที่ 25% ก็ยังน่าเป็นห่วง ถ้าลดภาษีมาเหลือเก็บ 20% ก็ยังต้องสู้กันต่อไป ถ้าลดภาษีมาให้เหลือ 17-18% จะดีมาก
