ยก”โซลาริส”เป็นบทเรียน สกิดนักลงทุนเฟ้นหาบลจ.คุณภาพ

แฉบลจ.โซลาริสขาดทุนมานาน เกิดจากค่าใช้จ่ายสูงมาก โดยเฉพาะเรื่องพนักงานแซงรายได้รวมหลายเท่าตัว นักลงทุนควรจะนำบลจ.ขาดทุนเกินส่วนของเจ้าของเป็นตัวอย่าง มาพิจารณาคุณสมบัติของมืออาชีพที่ใช้บริการอยู่ในปัจจุบัน

การลงทุนมีความเสี่ยง! นักลงทุนสามารถลดผลกระทบได้ หากพิจารณาข้อมูลให้รอบด้าน ไม่ใช่มุ่งหวังผลตอบแทนสูงๆเป็นสำคัญ เวลานี้การเลือกสรรผลิตภัณฑ์การลงทุนชั้นดีเพียงอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ จะต้องลงลึกถึงคุณภาพของมืออาชีพที่เราไว้วางใจมอบเงินให้บริหารด้วย เพราะหากเกิดอะไรขึ้นมา ใครจะรับผิดชอบกับเงินก้อนสุดท้ายหรือเงินที่เตรียมไว้เพื่อการเกษียณของเราได้

กรณีที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) โซลาริส กำลังเผชิญภาวะวิกฤตอยู่ ส่วนของทุนติดลบ 25 ล้านบาทในปี 2560 ต่ำกว่าระดับเตือนภัยที่กำหนดไว้ 30 ล้านบาทเป็นสัญญาณเตือนภัยที่ดี เตือนนักลงทุนให้ตระหนักถึงปัญหา พร้อมตรวจสอบคุณภาพของพอร์ตและคุณสมบัติของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่ใช้บริการอยู่ ว่ามีผลการดำเนินงานในอดีตและฐานะการเงินในปัจจุบันอย่างไรบ้าง

สาเหตุหลักที่ทำให้บลจ.โซลาริสเดินมาถึงทางตันในขณะนี้ เป็นทราบโดยทั่วไปว่าธุรกิจได้รับผลกระทบเต็มๆ จากภาวะฟองสบู่แตกของตั๋วแลกเงินหรือบี/อี แต่ต้องยอมรับความจริงว่าปัญหาส่วนหนึ่งเกิดจากความผิดพลาดในการบริหารรวมถึงความเปราะบางของกิจการที่ประสบผลขาดทุนมายาวนานถึง 8 ปีก่อนจะพลิกฟื้นมีกำไรในปี 2557

จากงบการเงินในแต่ละปี สะท้อนถึงต้นตอที่ทำให้บลจ.โซลาริสประสบปัญหาขาดทุนมานาน เป็นเพราะบริษัทมีรายได้ต่ำมาก แต่กลับมีค่าใช้จ่ายรวมสูงเกินไป โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน รวมถึงค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาคาร สถานที่และอุปกรณ์ด้วย

ตัวอย่าง การดำเนินธุรกิจในช่วงเริ่มต้น ปี 2551 บลจ.โซลาริส ขาดทุนสุทธิ 22 ล้านบาท มาจากรายได้รวมเพียง 3.97 ล้านบาท แต่กลับมีค่าใช้จ่ายรวมสูงถึง 26.65 ล้านบาท โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายพนักงานจำนวน 16.98 ล้านบาท ยังไม่รวมรายจ่ายด้านอาคารฯอีก 4.56 ล้านบาท ซึ่งยอมรับได้ว่าอาจจะเป็นเรื่องปกติของการดำเนินธุรกิจในช่วงเริ่มต้น ที่รายได้โตไม่ทันค่าใช้จ่าย

แต่หลังจากนั้นบริษัทยังคงขาดทุนอย่างต่อเนื่อง ในปี 2555 บลจ.โซลาริส ขาดทุนสุทธิ 27.81 ล้านบาท ฝั่งรายได้ดีขึ้น เป็น 16.54 ล้านบาท แต่ด้านรายจ่ายยังคงสูงถึง 38.47 ล้านบาท แม้ว่าเรื่องของพนักงานลดลงเหลือ 14.28 ล้านบาท แต่กลับมีรายการค่าที่ปรึกษาจำนวน 4.99 ล้านบาทเกิดขึ้น และค่าใช้จ่ายอื่นๆอีก 4.39 ล้านบาท

สรุปโดยรวมแล้ว บลจ.โซลาริสไม่สมควรได้รับการคัดเลือกมาให้บริหารเงินของเราๆท่านๆ เพราะบริษัทเลือกที่จะทำธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูงในตลาดตั๋วบี/อี ในการแก้ภาวะขาดทุนของกิจการ นับว่าสวนทางกับการดำเนินธุรกิจจัดการกองทุน ที่นักลงทุนรับความเสี่ยงสูงๆ ไม่ไหว ถึงเวลาแล้วหรือยังที่นักลงทุนจะต้องตรวจสอบฐานะการเงิน และการทำงานของบลจ.ที่ใช้บริการอยู่ว่าได้ทำงานตามหลักวิชาชีพหรือไม่ บลจ. ไม่ควรสั่งซื้อสั่งขายหุ้นบ่อยๆ เพิ่มค่าใช้จ่ายที่สูงเกินความจำเป็นแล้วส่งผลกระทบกับผลประโยชน์ของลูกค้าในที่สุด