HoonSmart.com>>นักวิเคราะห์แห่เชียร์ซื้อหุ้น”ปูนซิเมนต์ไทย” (SCC) ราคาพุ่งฉิ่ว 4% กำไรไตรมาส 2/68 โตก้าวกระโดด ธุรกิจปิโตรเคมีฟื้น กำไรพิเศษจาก CAP รับเงินปันผล ราคาน้ำมันดิบลดลง ลุ้นจ่ายเงินปันผลกลางปีสูง LSP เปิดไตรมาส 3 หุ้นวิ่งขึ้นตามกลุ่ม China Plays ตอบรับทางการจีนออกมาตรการชุดใหญ่กระตุ้นอสังหาริมทรัพย์
วันที่ 11 ก.ค. 2568 หุ้นบริษัทปูนซิเมนต์ไทย (SCC) ปรับตัวขึ้นโดดเด่น ราคาทะยานขึ้นสูงสุดแตะ 178.50 บาท ก่อนมาซื้อขายบริเวณ 176 บาท เพิ่มขึ้น 6 บาทหรือ +3.52% ณเวลาประมาณ 11.10 น. ขณะที่ตลาดหุ้นโดยรวม ดัชนีบวก 11.52 จุด หรือ+ 1.04% ดัชนีเคลื่อนไหวที่ 1,121.92 จุด
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนให้ความสนใจหุ้น SCC เนื่องจากวิ่งขึ้นตามกลุ่ม China Plays ตอบรับทางการจีนออกมาตรการชุดใหญ่กระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ และนักวิเคราะห์หลายสำนักแนะนำซื้อ SCC คาดว่ากำไรไตรมาส 2/2568 เติบโตก้าวกระโดด กำไรพิเศษจากการลงทุน ราคาปูนเพิ่มขึ้น และธุรกิจเคมีภัณฑ์ฟื้นตัวแรง
บล.กรุงศรีคงคำแนะนำ Neutral ให้มูลค่า 175 บาท/หุ้น มองจุดซื้อเป็นช่วงที่ HDPE spread เหนือ 400 ดอลลาร์/ตัน ได้ต่อเนื่อง ส่งให้ LSP เปิดผลิตได้ในระยะยาว ลดภาระค่าใช้จ่ายคงที่ และมีโอกาสเกิดupside ต่อประมาณการ หากผลิตได้มากกว่าคาด (ทุกๆการล่าช้าของการเปิดผลิต ทุกๆ 3 เดือน จะกระทบมูลค่าหุ้นปีนี้ราว 2.5 บาท/หุ้น หรือราว -1.4%)
“มอง slightly positive ต่อกำไรสุทธิไตรมาสที่ 2/2568 ที่มีแนวโน้มเป็นจุดสูงสุดของปีที่เพิ่มขึ้น 321% YoY และเพิ่มขึ้น 321% QoQ จากกำไรพิเศษก้อนใหญ่ (ส่วนใหญ่ non-cash) หากตัดออกกำไรปกติโตสูง 246% QoQ ฟื้นทั้งอัตรากำไรของธุรกิจซีเมนต์และปิโตรเคมีรวมถึงมีปันผลมาหนุน ด้าน Valuation ซื้อขาย PER ราว 9-10 เท่า ขณะที่ PBV ต่ำกว่า 1 เท่า”
ส่วนไตรมาสที่ 3 คาดกำไรปกติชะลอ QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล การกลับมาผลิตของ LSP ยังไม่พอชดเชย มองจุดกลับมาลงทุน เมื่อโรง LSP กลับมาเปิดผลิตได้ต่อเนื่อง
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) แนะเทรดดิ้ง ให้ราคาเป้าหมาย 180 บาท คาดไตรมาสที่ 2 กำไรสุทธิอยู่ที่ 2,300 ล้านบาท พุ่งขึ้น 111% QoQ แต่ ลดลง 37%YoY จากธุรกิจปิโตรเคมีฟื้นตัว รวมถึงการรับรู้รายได้เงินปันผลรับเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล ทั้งนี้ประมาณการยังไม่รวมกำไรพิเศษของ CAP
ส่วนแนวโน้มกำไรไตรมาสที่ 3 คาดประคองตัว QoQ คงประมาณการกำไรปี 2568 ที่ 7,400 ล้านบาท โดยยังไม่รวม Upside จากกำไรพิเศษของ CAP ช่วงไตรมาสที่ 2-4
“แนะนำเก็งกำไรจากกำไรไตรมาสที่ 2 ฟื้นตัวแข็งแกร่ง มีกำไรพิเศษจาก CAP ลุ้นการเปิดใช้ LSP ในไตรมาสที่ 3 และได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันพักฐานหลังสงครามคลายตัวและ OPEC+ เพิ่มปริมาณการผลิต”บล.หยวนต้าระบุ
บล.โกลเบล็กแนะนำ ซื้อ ให้ราคาเป้าหมาย 252 บาท
บล.ฟินันเซีย ไซรัส แนะลงทุนหุ้น SCC ราคาเป้าหมาย 200 บาท รับกำไรไตรมาส 2/68 ฟื้นตัวแรง พร้อมอานิสงส์จากเคมีภัณฑ์-ซีเมนต์ ลุ้นเปิดโรงงานเวียดนามและขายหุ้น นอกจากนี้ SCC ยังมีโอกาสรับรู้กำไรทางบัญชีจำนวนมากในไตรมาส 2/2568 จากการประเมินมูลค่ายุติธรรมของหุ้นในบริษัท CAP ขณะเดียวกันยังเตรียมขายหุ้น CAP
บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ คงคำแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย 180 บาท จากโอกาสจากเงินปันผลเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วจ่าย 5 บาท/หุ้น และคาดธุรกิจเคมิคอลส์จะขาดทุนลดลงตามสเปรดปิโตรเคมีและปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นซึ่งส่งผลบวกมากกว่าขาดทุนสต๊อกตามราคาแนฟทาที่ลดลง ส่วนธุรกิจปูนซีเมนต์ปรับตัวดีขึ้น YoY ตามการปรับเพิ่มราคาขาย แต่ถูกหักล้างด้วยการอ่อนแอของธุรกิจวัสดุก่อสร้างตามภาวะธุรกิจอสังหาฯ
“คาดกำไรปกติไตรมาสที่ 2 อยู่ที่ 1,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +74%QoQ ตามสเปรดปิโตรเคมีที่เพิ่มขึ้นและรายได้เงินปันผล กำไรสุทธิจะมีส่วนเพิ่มอย่างมากจากกำไรปกติตามกำไรพิเศษจาก CAP และเตรียมการลดสัดส่วนถือหุ้น 10.57% เหลือ 20% “บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ระบุ
ทางด้าน SCC แจ้งว่า บริษัทแผนทบทวนการลงทุนในบริษัทย่อย เพื่อให้เกิดความเหมาะสมในการบริหารและสอดคล้องกับกลยุทธ์ในปัจจุบัน โดยในไตรมาส 2 บริษัทฯได้ทบทวนการลดบทบาทการมีส่วนร่วมในการบริหารบริษัทย่อย ทำให้เปลี่ยนสถานะเงินลงทุนทางบัญชีจากบริษัทย่อยเป็นการร่วมค้า ได้แก่ PT Siam-Indo Gypsum Industry (SIGI) และ PT Siam-Indo Concrete Products (SICP) ซึ่งเดิม เป็นบริษัทย่อยในกลุ่มเอสซีจี สมาร์ทลีฟวิง ประเทศอินโดนีเซีย มียอดขายปี 2567 ประมาณ 941 ล้านบาท และ 526 ล้านบาท ตามลำดับ
ซึ่งการเปลี่ยนสถานะ SIGI และ SICP เป็นการร่วมค้า โดยสัดส่วนการถือหุ้นคงเดิมและไม่ส่งผลกระทบต่องบการเงินรวม SCC อย่างมีนัยสำคัญ
