HoonSmart.com>>5 โบรกเกอร์เชียร์”ซื้อ” CPF เล็งกำไรไตรมาส 2/68 ทำ All time High ทะลุหมื่นล้าน จากราคาหมูไทย-เวียดนามสูง ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ลดลง แนวโน้มผลงานครึ่งปีหลังชะลอตัวจากราคาหมูย่อตัวลงหลังเข้าฤดูฝน นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงเปิดตลาดเนื้อหมูให้สหรัฐฯ
บล.กรุงศรี แนะนำ”ซื้อ”หุ้น CPF ราคาเป้าหมาย 35 บาท มองบวกต่อแนวโน้มกำไรสุทธิไตรมาส 2/2568 คาดที่ 10,316 ล้านบาท (+49%y-y, +21%q-q) ทําจุดสูงสุดใหม่ ปัจจัยหนุนจากธุรกิจสัตว์บกทั้งในประเทศและต่ํางประเทศ จากราคาหมูไทยและต่างประเทศเพิ่มขึ้น ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ยังคงลดลง โดยเฉพาะราคากากถั่วเหลืองหนุน GPM เพิ่มขึ่้น y-y, q-q ชดเชยกับราคาหมูจีนที่ลดลงกดดันส่วนแบ่งกำไร CTI
สำหรับโมเมนตั้มไตรมาส 3/2568 คาดเพิ่มขึ้น y-y แต่ลดลง q-q จากทิศทางราคาหมูไทย/เวียดนามชะลอตัวลง โดยยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 ที่ 2.7 หมื่นล้านบาท (+38%y-y) โดยคาดผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2568 จะเป็นจุดสูงสุดของปี และกําไรครึ่งปีแรกดีกว่ําครึ่งหลังปี 2568 จากราคาเนื้อสัตว์ที่ชะลอลง
บล.พาย แนะนำ”ซื้อ”หุ้น CPF ในลักษณะเก็งกำไรผลประกอบการงวดไตรมาส 2 ที่คาดจะเห็นการเติบโตดี โดยคาดกำไรสุทธิสูงถึง 10,206 ล้านบาท (+47% YoY, +19% QoQ) จากปัจจัยบวกของราคาสุกรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะที่ไทยและเวียดนาม รวมถึงต้นทุนการเลี้ยงลดลงอย่างกากถั่วเหลือง ทำให้กำไรขั้นต้นสูงถึง 18.9% อย่างไรก็ตามต้องระวังผลประกอบการช่วงครึ่งหลังปี 2568 ที่อาจอ่อนตัวลงจากครึ่งปีแรก หลังราคาสุกรในไทยเริ่มอ่อนลง แต่ราคาที่ลดลงยังสูงกว่าต้นทุนอย่างมาก
ด้านผลกระทบภาษีสหรัฐฯในส่วนของการส่งออกไปโดยตรงมีสัดส่วนไม่มาก แต่อาจจะกระทบหากมีการนำเข้าสุกรเข้ามา ซึ่งจะต้องดูว่าส่วนของข้าวโพดและกากถั่วเหลืองจะนำเข้ามาหรือไม่ หากมีจะลดผลกระทบลงได้เพราะจะทำให้ต้นทุนการเลี้ยงลดลง พร้อมให้ราคาเป้าหมาย 34 บาท
บล.ฟินันเซีย ไซรัส แนะ”เก็งกำไร”หุ้น CPF คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/2568 พุ่งขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับ 1.1 หมื่นล้านบาท +30%q-q, +61%y-y จากราคาเนื้อหมูทั้งไทยและเวียดนามที่ปรับเพิ่มขึ้น และต้นทุนวัตถุดิบปรับลงและได้ส่วนแบ่งกำไรจาก CPP เพิ่มขึ้นด้วยต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับลง ส่งผลให้อัตรากาไรขั้นต้นไตรมาส 2/2568 ปรับขึ้น
อย่างไรก็ตามจากราคาเนื้อสัตว์ปัจจุบันที่เริ่มอ่อนลงแต่ยังเป็นราคาที่สูงกว่าปีก่อนคาดกำไรไตรมาส 3/2568 จะลดลง q-q แต่น่าจะยังโต y-y จึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2568 เป็น 3.4 หมื่นล้านบาท +75%y-y คิดว่ากำไรไตรมาส 2/2568 น่าจะพีคสุดของปีนี้ และคาดกำไรครึ่งหลังปี 2568 จะชะลอลง ราคาหุ้นที่ปรับลงทำให้ valuation ถูก ด้วย PE2569 8.6x แต่ขาด catalysts หลังราคาเนื้อสัตว์ปรับลง และต้องติดตามการเจรจาการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯ กรณีนำเข้าหมู คาดกำไรสุทธิปี 2569 ที่ 2.1 หมื่นล้านบาท และปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2569 ที่ 30 บาท
บล.ทิสโก้ แนะนำ”ซื้อ”หุ้น CPF คาดกำไรไตรมาส 2/2568 ที่ 1 หมื่นล้านบาท +48% YoY และ +20% QoQ จากราคาสุกรที่ปรับเพิ่มขึ้นและต้นทุนที่ลดลง แม้แนวโน้มครึ่งปีหลังจะอ่อนตัวลงจากปัจจัยเรื่องฤดูฝน แต่ต้นทุนโดยเฉพาะกากถั่วเหลืองที่คาดทั้งปีลดลงราว 21% YoY ทำให้กำไรปีนี้คาดจะเติบโตก้าวกระโดด โดยปรับประมาณการกำไรปี 2568-2569 เพิ่มขึ้นจากเดิมปีละ 61% และ 36% ตามลำดับ ราคาเป้าพื้นฐาน 32 บาท
บล.บียอนด์ แนะนำ”ซื้อ”หุ้น CPF ราคาเป้ําหมาย 30.50 บาท จากผลประกอบการที่มีแนวโน้มเติบโตดีในปีนี้หนุนโดยราคาสุกรที่เพิ่มขึ้นประกอบกับต้นทุนอาหารที่ลดลง โดยเฉพาะต้นทุนกากถั่วเหลือง อย่างไรก็ตามราคาสุกรในประเทศที่ดีต่อเนื่อง 4-5 เดือนที่ผ่านมาจูงใจให้ผู้ผลิตเพิ่มการเลี้ยง จึงคาดจะมีอุปทานหมูเพิ่มเข้ามาในครึ่งหลังปี 2568 และด้วยสภาพอากาศฝนจะทำให้ความต้องการชะลอลง ดังนั้นราคาสุกรในไทยอาจไม่ปรับขึ้นไปกว่านี้ รวมถึงความเสี่ยงในการเปิดตลาดเนื้อสุกรให้สหรัฐฯจึงต้องจับตาราคาสุกรในประเทศช่วงครึ่งหลังปี 2568
สำหรับไตรมาส 2 คาดกำไรปกติ 9.5 พันล้านบาท โต 11% q-q และ 69% y-y หนุนโดย (1) ยอดขายไตรมาส 2 เพิ่มขึ้นเป็น 1.51 แสนล้านบาท +5% q-q และ +1% y-y จากราคาสุกรในไทยและเวียดนามที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง (2) ต้นทุนวัตถุดิบที่ต่ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกากถั่วเหลืองเฉลี่ยในไตรมาส 2 อยู่ที่ 16.13 บาทต่อกก. ลดลง -4% q-q และ -24% y-y ช่วยหนุนอัตรากำไรขั้นต้นอีกทาง คาดกำไรขั้นต้นในไตรมาส 2 เพิ่มขึ้นเป็น 18.9% จาก 18.5% ในไตรมาสแรก
เมื่อเวลา 11.47 น.หุ้น CPF ทรงตัวที่ 21.90 บาท
