คปภ.- BDI เร่งเชื่อมข้อมูลสุขภาพ ยกชั้นรับประกัน-เคลมออนไลน์

HoonSmart.com>>คปภ. จับมือ BDI และภาคประกันภัย ถกเชื่อมข้อมูลสุขภาพผ่าน Health Link ยกระดับการรับประกัน-เคลม พร้อมหารือประเด็นสิทธิการเข้าถึงและจัดเก็บข้อมูล 

สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ร่วมกับสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI และตัวแทนจากภาคธุรกิจประกันชีวิตและประกันวินาศภัย หาแนวทางการใช้แพลตฟอร์ม Health Link ซึ่งเป็นระบบเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพของประชาชน ระหว่างสถานพยาบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยยึดหลัก การให้ความยินยอมก่อนเข้าถึง (Consent-based) ตามมาตรฐาน Health Information Exchange (HIE) ซึ่งเป็นแนวทางที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และมีการนำไปใช้จริงในต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มหรือเครือข่ายโรงพยาบาลที่ใช้ระบบสารสนเทศโรงพยาบาล (Hospital Information System : HIS) แบบเดียวกัน

ขณะนี้มีสถานพยาบาลกว่า 2,305 แห่ง โดยเฉพาะโรงพยาบาลภาครัฐและคลินิกที่เข้าร่วมเชื่อมโยงข้อมูลกับระบบแล้ว

ตอบโจทย์หมอ-คนไข้-ธุรกิจ

ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัย การประเมินความเสี่ยง และการให้บริการที่ตอบโจทย์ประชาชนผู้เอาประกันภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยกระดับการบริหารจัดการสินไหม ด้วยการลดขั้นตอนตรวจสอบเอกสารและเพิ่มความโปร่งใส

ระบบ Health Link จะช่วยลดความซ้ำซ้อนในการรักษา แพทย์สามารถเข้าถึงประวัติการรักษาได้แบบเรียลไทม์ และคนไข้สามารถดูข้อมูลของตนเองได้ผ่านระบบดิจิทัล โดยทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุมสิทธิ์การเข้าถึงของเจ้าของข้อมูลอย่างเข้มงวด

1. ประโยชน์สำหรับโรงพยาบาลคือ การส่งข้อมูลการรักษาจากโรงพยาบาลต่าง ๆ เมื่อมีการเข้ารับการรักษาพยาบาล ข้อมูลการรักษาจะถูกจัดส่งเข้าสู่ระบบ Health Link ตามมาตรฐานกลาง (Health Link Data Standard) ที่กำหนดไว้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรักษา และบริการ ติดตามอาการและการส่งระหว่างโรงพยาบาลในระดับประเทศ ลดความซ้ำซ้อนในการจ่ายยาและการรักษาอื่น ๆ ระหว่างโรงพยาบาล ทั้งนี้การเข้าถึงข้อมูลจะกระทำได้เฉพาะในกรณีที่คนไข้ได้ให้ความยินยอมไว้ล่วงหน้า

2. ประโยชน์สำหรับแพทย์คือ แพทย์สามารถเข้าถึงข้อมูลสุขภาพที่จำเป็นของคนไข้ และประวัติการรักษาจากต่างโรงพยาบาลได้อย่างครบถ้วน โดยช่วยประหยัดเวลาในการวินิจฉัยคนไข้ และสามารถตัดสินใจหรือวินิจฉัยอาการได้รวดเร็วและถูกต้องแม่นยำขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาและช่วยชีวิตคนไข้ได้

การเข้าถึงข้อมูลสุขภาพของคนไข้จะต้องได้รับการลงทะเบียนในระบบ Health Link และยืนยันตัวตนผ่านระบบของแพทยสภา จากนั้นจึงสามารถเข้าใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน หรือระบบสารสนเทศโรงพยาบาลได้ เช่นเดียวกันการเข้าถึงข้อมูลจะกระทำได้เฉพาะในกรณีที่คนไข้ได้ให้ความยินยอมไว้ล่วงหน้า

3. ประโยชน์สำหรับคนไข้คือ คนไข้สามารถดูข้อมูลประวัติการรักษาต่าง ๆ ของตนเองได้ โดยต้องมีการลงทะเบียนและให้ความยินยอมผ่านช่องทางดิจิทัลทั้งหมด 4 ช่องทาง ประกอบด้วย 1. แอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” 2. แอปพลิเคชัน ThaID Rama         3. ระบบเวชระเบียน e-PHIS และ 4. เว็บไซต์ Health Link เพื่อให้ความยินยอมในการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพของตนเองผ่าน    แอปพลิเคชัน ThaID ซึ่งทำให้สะดวกและประหยัดเวลา เพราะไม่ต้องไปขอข้อมูลจากโรงพยาบาล นอกจากนี้คนไข้ยังสามารถกำหนดขอบเขตการเข้าถึงข้อมูลของตนเองได้ตามความสมัครใจ

เดินหน้าทลายความท้าทาย

แม้แพลตฟอร์มจะมีศักยภาพสูง แต่ภาคประกันภัยยังเผชิญกับประเด็นที่ต้องหารือเพิ่มเติม เช่น สิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลของบริษัทประกันภัย ซึ่งต้องได้รับความยินยอมจากลูกค้าก่อนเท่านั้น

การจัดเก็บและดาวน์โหลดข้อมูล ปัจจุบัน Health Link ไม่อนุญาตให้ดาวน์โหลดหรือจัดเก็บข้อมูลไว้ภายนอกระบบ

โครงสร้างค่าธรรมเนียม ยังไม่มีการกำหนดค่าใช้จ่ายในการเข้าถึงข้อมูล

ขาดข้อมูลค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ จำเป็นต่อการประเมินเคลมและออกแบบผลิตภัณฑ์

“คปภ. จะเป็นเจ้าภาพหารือในเชิงลึกเพิ่มเติม ร่วมกับ BDI และภาคประกันภัย เพื่อกำหนดแนวทางการนำ Health Link มาใช้งานจริง”นายชูฉัตร กล่าว

การจับมือระหว่าง คปภ. และ BDI ครั้งนี้จึงเป็นก้าวสำคัญสู่การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมประกันภัยไทยเข้าสู่ยุคที่ข้อมูลสุขภาพดิจิทัลกำลังเติบโตและผู้บริโภคคาดหวังบริการที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น