อิเล็กทรอนิกส์-Data Center ร่วงยกแผง สหรัฐฯจำกัดส่งออกชิป AI ไทย-มาเลย์

HoonSmart.com>>กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์-Data Center ร่วงยกแผง นำดิ่งโดย LTS-HANA-INSET เจอ Sentiment ลบจากสหรัฐฯจำกัดส่งออกชิป AI มาไทย-มาเลเซีย ป้องกันส่งผ่านไปจีน

หุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และ Data Center ราคาไหลลงยกแผง เมื่อเวลา 10.44 น. นำดิ่งโดยหุ้น HANA ลบ 4.81% มาที่ 19.80 บาท ลดลง 1 บาท มูลค่าซื้อขาย 126.29 ล้านบาท
หุ้น INSET ลบ 4.29% มาที่ 1.56 บาท ลดลง 0.07 บาท มูลค่าซื้อขาย 1.38 ล้านบาท
หุ้น KCE ลบ 3.69% มาที่ 20.90 บาท ลดลง 0.80 บาท มูลค่าซื้อขาย 221.18 ล้านบาท
หุ้น INET ลบ 2.82% มาที่ 4.14 บาท ลดลง 0.12 บาท มูลค่าซื้อขาย 2.32 ล้านบาท

ส่วนหุ้น LTS ร่วง 13.20% มาที่ 4.34 บาท ลดลง 0.66 บาท มูลค่าซื้อขาย 14.14 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.58 น. เป็นหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าชิป

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุ สหรัฐฯมีแผนจำกัดส่งออกชิป AI มายังไทยและมาเลเซีย เพื่อป้องกันการส่งผ่านไปยังจีน อาจกระทบโดยตรงต่อผู้นำเข้าชิป AI โดยตรงอย่าง Siam AI Cloud ซึ่งเป็นพันธมิตรของ LTS โดย LTS นำเข้าชิป H200 เพื่อทดสอบและใช้งาน AI รวมถึงมีรายได้จากการให้เช่าเครื่อง GPU NVIDIA กับลูกค้าในไทยแล้ว นอกจากนี้ อ้างอิงจาก Thai Time ระบุว่าผู้ที่นำเข้าชิป AI ยังมี SiS Distribution และ Ingram Micro

ทั้งนี้ อาจเป็น sentiment เชิงลบต่อผู้ให้บริการ Data Center และ AI Cloud ในไทย ซึ่งมีหลายรายเช่น กลุ่มที่เป็นพันธมิตรกับ Siam AI Cloud เช่น TRUE GULF นอกจากนี้ยังมีอีกหลายบริษัทที่อยู่ใน ecosystem ของ Data center เช่น ผู้ให้บริการ ADVANC SIS INET ITEL INSET TRUE / กลุ่มนิคม – WHA AMATA / โรงไฟฟ้า – GULF BGRIM GPSC BCPG เป็นต้น แต่มองว่าผลกระทบจริงจำกัด เพราะการจำกัดส่งออกชิป AI ของสหรัฐฯมีวัตถุประสงค์ป้องกันไม่ให้ชิปถูกส่งผ่านไปที่จีน

ส่วนกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ คาดกระทบจำกัด เพราะไม่มีบริษัทไหนนำเข้าชิป AI ส่วนใหญ่เป็นผู้ผลิตและประกอบ packaging และทดสอบ แต่อาจถูกกระทบทางอ้อมเล็กน้อย หากมีการขายให้ลูกค้าในไทยและมาเลเซียที่นำเข้าชิป AI จากสหรัฐ (และเกี่ยวข้องกับจีน) ซึ่งไม่ทราบแน่ชัดว่าแต่ละบริษัทมีใครมีลูกค้าในกลุ่มนี้บ้าง ทราบแต่เพียงสัดส่วนรายได้ที่ขายในไทย โดยมากสุดคือ KCE สัดส่วน 11% รองมาคือ DELTA 5.5% และ HANA 1% ของรายได้รวม แต่ HANA มีสัดส่วนขายไปมาเลเซียมากสุดที่ราว 12.8% ส่วน DELTA และ KCE คาดว่าขายไปมาเลเซียน้อยมาก

พร้อมคาด KCE กำไรสุทธิไตรมาส 2/2568 ที่ 221 ล้านบาท -4% q-q, -65% y-y ต่ำกว่าที่คาดก่อนหน้า แม้ operation ทยอยฟื้นตัว แต่คาดเผชิญค่าเงินบาทแข็งค่า แนวโน้มคำสั่งซื้อในครึ่งหลังปี 2568 จะยังฟื้นตัวได้ดีจาก high season และฐานต่ำปีก่อน อย่างไรก็ตามจากงบไตรมาส 2/2568 อาจต่ำกว่าที่เคยคาด จึงปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 ลง 11% เป็น 1.2 พันล้านบาท –29% y-y และยังต้องจับตาผลเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ ซึ่งในมุม KCE ถ้าภาษีของไทยสูงกว่าไต้หวันจะไม่ดี เพราะเป็นคู่แข่ง PCB ที่น่ากลัว ต้องติดตามภาษีของไต้หวันด้วย คงราคาเป้าหมาย 20 บาท แม้มีการปรับลดประมาณการ แต่มีมุมมองเชิงบวกระยะกลาง แนะนำถือ/รอซื้ออ่อนตัว

 
 
 
 
 
 
———————————————————————————————————————————————————–