TGIA ยืนเป้าเบี้ยปี’68 ที่ 2.94 แสนลบ. “ประกันรถ-สุขภาพ-ทรัพย์สิน”หนุน

HoonSmart.com>>สมาคมประกันวินาศภัยไทย ยอมรับธุรกิจครึ่งปีหลังเผชิญแรงกดดัน ยังยืนเป้าโต 1.5–2.5% เบี้ยรวม 2.91–2.94 แสนล้านบาท ประกันเบ็ดเตล็ดพุ่งแรง อัคคีภัยไม่เบา รถยังเป็นบวก แม้ประกันทางทะเลหดตัว จากผลกระทบกำแพงภาษีสหรัฐ กางแผนยุทธศาสตร์ 4 ด้าน รับมือความท้าทายเศรษฐกิจ-เทคโนโลยี-ความเสี่ยงใหม่ อย่างมั่นคง เป็นที่พึ่งประชาชน ภาครัฐไว้วางใจ 

ดร.สมพร สืบถวิลกุล นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย (TGIA)  ยอมรับว่าอุตสาหกรรมประกันวินาศภัยใน 6 เดือนหลังของปี 2568 จะเผชิญแรงกดดันในหลายๆ ด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจที่ชะลอตัว กำแพงภาษีการค้าสหรัฐฯที่กระทบต่อการนำเข้าและส่งออก ที่กระทบต่อประกันภัยขนส่งสินค้าทางทะเลแล้ว โดยปีนี้ทั้งปีคาดว่าเบี้ยจะเติบโต 1.5%-2.5% เป็นเบี้ยรับรวม 2.91-2.94 แสนล้านบาท

ช่วงครึ่งปีหลัง จะมีอัตราการเติบโตที่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2568 ที่โต 3.81% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เบี้ยรวมอยู่ที่ 7.52 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นเบี้ยประกันภัยรถยนต์ 4.2 หมื่นล้านบาท โต 1.36% มีสัดส่วน 55.8% ของเบี้ยรับรวม ตามด้วยประกันภัยเบ็ดเตล็ด 2.90 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.01% ซึ่งประกอบด้วย ประกันสุขภาพ ประกันภัยทรัพย์สิน ประกันภัยความรับผิดบุคคลภายนอก  และอื่นๆ ,ประกันอัคคีภัย 2,509 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.83% ,ประกันภัยการขนส่งสินค้าทางทะเลอยู่ที่ 1,668 ล้านบาท ลดลงกว่า 4%

“การเติบโต 1.5% -2.5% เป็นประมาณการณ์ที่ยังไม่มีการปรับ เพราะกลุ่มประกันภัยเบ็ดเตล็ดและประกันอัคคีภัยมีอัตราการเติบโตโดดเด่น สะท้อนความต้องการความคุ้มครองที่เพิ่มขึ้นในบางกลุ่มความเสี่ยง ภาพรวมของธุรกิจยังคงเติบโตในทิศทางบวก”ดรสมพร กล่าว

ดร.สมพร ได้แถลงนโยบายในฐานะนั่งนายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย สมัยที่ 2 และเปิดตัวคณะกรรมการบริหารสมาคมประกันวินาศภัยไทย ประจำปี 2568-2570 ว่า มุ่งเน้น 4 พันธกิจ


หนึ่ง เสริมสร้างความเชื่อมั่นต่อระบบประกันภัย ด้วยการยกระดับมาตรฐานการบริการ สร้างความเข้าใจผ่านการสื่อสารเชิงรุก และส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (ESG) สมาคมฯ มุ่งสร้างภาพลักษณ์ที่โปร่งใสและเข้าถึงได้ เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นในระบบประกันภัยมากยิ่งขึ้น
สอง ส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมผ่านเทคโนโลยีและนวัตกรรม เช่น การผลักดันการใช้ InsurTech และ Big Data ในการบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ พัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ตอบโจทย์ความเสี่ยงใหม่อย่างเช่น ภัยไซเบอร์ และภาวะอากาศสุดขั้ว ตลอดจนสนับสนุนการวิจัยเพื่อเสริมความแข็งแกร่งทางการแข่งขันให้กับธุรกิจประกันภัยไทย
สาม ผลักดันกฎระเบียบและโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อต่อการเติบโตของอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงข้อกฎหมายที่เป็นอุปสรรค ส่งเสริม Regulatory Sandbox สำหรับทดลองนวัตกรรมใหม่ รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างข้อมูลกลาง เพื่อสนับสนุนการวิเคราะห์ความเสี่ยงอย่างแม่นยำและโปร่งใส
สี่ สร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) และบุคลากรที่มีความพร้อมในทุกมิติ สมาคมฯ มุ่งยกระดับมาตรฐานความรู้ ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างบริษัทประกันภัย พัฒนาความร่วมมือกับหน่วยงานกำกับดูแล และขยายความเชื่อมโยงกับองค์กรระดับสากล เพื่อยกระดับมาตรฐานของธุรกิจไทยให้เทียบเท่าระดับโลก

ทั้ง 4 พันธกิจ จะเป็นการพัฒนาองค์กรจากภายใน และมู่สู่การเป็นศูนย์กลางแห่งความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และประชาชน เพื่อสร้างระบบประกันภัยไทยที่ประชาชนไว้ใจ ภาครัฐวางใจ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยไปสู่อนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน