HoonSmart.com>>”กุดั่น สุขุมานนท์” กรรมการ “ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น” (SAWAD) ขายหุ้นทั้งหมด 385,000 หุ้น ราคาเฉลี่ย 21.4666 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงิน8.26 ล้านบาท ได้ราคาสูงกว่าตลาดปิดที่ 17 บาท ด้านนักวิเคราะห์ 17 ราย เชียร์ให้ซื้อ 9 ราย ถือ 6 รายและ ขาย 1 ราย ให้ราคาเฉลี่ย 25.16 บาทต่อหุ้น บริษัทปรับลดเป้าสินเชื่อเหลือโต 5-10% เน้นจำนำทะเบียนเป็นหลัก บล.บัวหลวงคาดกำไรปีนี้ลดลง 8% บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ หั่นมูลค่าหุ้นลง 4 บาทเหลือ 20 บาท
นาย กุดั่น สุขุมานนท์ กรรมการ บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD) รายงานก.ล.ต.ว่าวันที่ 2 ก.ค.2568 ที่ผ่านมา ได้ขายหุ้น SAWAD ทั้งหมด 385,000 หุ้น ราคาเฉลี่ย 21.4666 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงินประมาณ 8.26 ล้านบาท ได้ราคาสูงกว่าตลาดปิดที่ 17 บาท โดยทำรายการผ่านบล. โกลเบล็ก
ด้านการซื้อขายหุ้น SAWAD วันที่ 3 ก.ค. ราคาอยู่ที่ 17.40 บาท บวก 0.40 บาทหรือ +2.35% ณ เวลา 15.15 น.
ทั้งนี้นักวิเคราะห์ 17 ราย แนะนำหุ้น SAWAD ให้ซื้อ 9 ราย ถือ 6 รายและ ขาย 1 ราย ให้ราคาเฉลี่ย 25.16 บาทต่อหุ้น
บล.บัวหลวงเป็นนักวิเคราะห์รายเดียวที่แนะนำให้”ขาย” หุ้น SAWAD หลังจากบริษัทฯปรับลดเป้าหมายสินเชื่อปีนี้ลงจากเติบโต 10-15% มาที่ 5-10% จากปีที่ผ่านมา โดยจะเน้นเติบโตสินเชื่อจำนำทะเบียนเป็นหลัก ส่วนสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์จะลดลงบ้างในปีนี้ คาดสินเชื่อรวมไตรมาส 2 จะทรงตัว QoQ(แต่ลดลง YoY) และจะเติบโตดีขึ้นในครึ่งปีหลัง
SAWAD ประเมินแนวโน้มคุณภาพสินทรัพย์จะทยอยฟื้นตัว หนี้เสียเกิดใหม่และขาดทุนจากการขายรถยึดจะทยอยลดลงในช่วงที่เหลือของปี และคาดว่าจะกลับมาจ่ายปันผลเป็นเงินสดในปีนี้ (ปีที่แล้วจ่ายหุ้นปันผล)
“เราประเมินกำไรสุทธิปีนี้ของ SAWAD จะลดลง 8% ฟื้นตัวช้ากว่าผู้ประกอบสินเชื่อจำนำทะเบียนที่เราศึกษามาก จึงยังแนะนำ ขาย”บล.บัวหลวงระบุ
ส่วนบล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ตีมูลค่า SAWAD ต่ำที่สุดเพียง 20 บาท หลังปรับลดราคาเป้าหมายจาก 24 บาท แต่ปรับคําแนะนําขึ้นจาก NEUTRAL สู่ OUTPERFORM เนื่องจากราคาหุ้นปรับตัวลดลง 60% YTD ทำให้ valuation ดูน่าสนใจที่ P/E 5 เท่า และ P/BV 0.6 เท่า
“เราปรับลดราคาเป้าหมายลง 4 บาท เหลือ 20 บาท จากการปรับประมาณการกําไรสุทธิปี 2568 ลดลงอีก 3% รวมลดลง 14% จากปีก่อน กําไรสุทธิไตรมาส 2 มีแนวโน้มที่จะอยู่ในระดับทรงตัว QoQ (ลดลง YoY) แนวโน้มที่จะกลับมาจ่ายปันผลเป็นเงินสด บริษัทยังไม่ได้ตัดสินใจขั้นสุดท้าย เมื่อใช้สมมติฐานอัตราการจ่ายเงินปันผล 30% คาดว่าจ่ายหุ้นละ 0.86 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนที่ 5.7% จะเป็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้น”บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ระบุ
การปรับลดประมาณการกำไรในปี 2568 มาจากปรับประมาณการ credit cost ปี 2568 เพิ่มขึ้น 0.05% เป็น 2.05% เทียบกับ 1.84% (+13 bps QoQ) ใน 1Q68 และเป้าของบริษัทที่ 1.8-2% นอกจากนี้ในไตรมาสแรก NPLs ที่ไหลเข้าเพิ่มขึ้นอย่างมาก (+50% QoQ) และการตัดหนี้สูญ (+29% QoQ) ส่วนใหญ่มาจากสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ที่ปล่อยในปี 2565 ซึ่งมี LTV 100% หลังจากอยู่ในโหมดระมัดระวังเป็นเวลา 2 ปี และสินเชื่อหดตัวลง คาดว่า credit cost จะลดลง 5 bps ในปี 2569 สินเชื่อหดตัวเพราะอยู่ในโหมดระมัดระวัง เพื่อสะท้อนความระมัดระวังมากขึ้นในด้านคุณภาพสินทรัพย์และการเร่งตัดหนี้สูญ จึงปรับประมาณการการเติบโตของสินเชื่อปี 2568 ลดลงจาก 0% เป็น -1% เทียบกับ -4% ในปี 2567 และ -2.5% YTD ในไตรมาสแรก คาดว่าสินเชื่อจํานําทะเบียนจะเติบโตเล็กน้อย และสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์จะหดตัวในปี 2568
ส่วน NIM ผ่านจุดตํ่าสุดไปแล้ว จะฟื้นตัว QoQ ใน 3 ไตรมาสที่เหลือของปีนี้ จากระดับตํ่าสุดที่14.5% ในไตรมาสแรก เป็นผลจากต้นทุนทางการเงินที่ลดลงจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (ใช้สมมติฐานว่ามีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลดลงมาอยู่ที่ 1.25% ภายในสิ้นปี 2568) อย่างไรก็ตาม คาดว่า NIM จะลดลง 110 bps ในปี 2568 จากอัตราผลตอบแทนจากการให้สินเชื่อที่ลดลงจากการมีสัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ผลตอบแทนสูงลดลงและการกําหนดเพดานอัตราดอกเบี้ยเช่าสินเชื่อซื้อรถจักรยานยนต์ที่ 23% ตั้งแต่เดือนม.ค. 2566 คาดว่า NIM จะขยายตัว 13 bps ในปี 2569 จากต้นทุนทางการเงินที่ลดลง ขาดทุนรถยึดลดลง คาดว่าขาดทุนรถยึดจะลดลง 40% ซึ่งเป็นผลมาจากจํานวนรถยึดที่ลดลงและการฟื้นตัวของราคารถมือสอง ดัชนีราคารถมือสองปรับตัวเพิ่มขึ้น 15% YTD ณ เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
