HoonSmart.com >> NKT ลุย! สร้างโรงพยาบาลนครธน 2 คืบหน้ากว่า 70% คาดเปิดให้บริการใน Q4/68 ตามแผนขณะที่โครงการนครธน ลองไลฟ์ เซ็นเตอร์ และโครงการเพิ่มจำนวนเตียงของโรงพยาบาลนครธน เดินหน้าได้ตามแผนที่วางไว้ ฟาก “รศญาณเดช ทองสิมา” ประธานกรรมการ ระบุการลงทุนทุกโครงการมีสัญญาณที่ดี ล่าสุด ขยายศูนย์สุขภาพเด็ก หนุนรายได้ปีนี้เติบโต 8-10%

รองศาสตราจารย์ ญาณเดช ทองสิมา ประธานกรรมการบริษัท บริษัท โรงพยาบาลนครธน ( NKT) เปิดเผยว่า โครงการก่อสร้างโรงพยาบาลนครธน 2 บนถนนเอกชัย จำนวน 151 เตียง ขณะนี้มีความคืบหน้าในการก่อสร้าง กว่า 70% เชื่อมั่นว่าจะพร้อมเปิดให้บริการในเฟสแรก และเริ่มรับรู้รายได้ประมาณในช่วงปลายไตรมาส 4/2568
ขณะที่โครงการนครธน ลองไลฟ์ เซ็นเตอร์ (Nakornthon Long Life Center) ซึ่งมีทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลนครธน เพียง 350 เมตร ซึ่งเป็นศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิงแบบองค์รวม ให้บริการในรูปแบบการพักอาศัย ซึ่งดูแลโดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านผู้สูงอายุ (Geriatric Doctor) และพร้อมดูแลเสริมสร้างสุขภาพแบบองค์รวม (Wellness Services) ให้แก่บุคคลทั่วไปที่ใส่ใจดูแลรักษาสุขภาพ และดูแลผู้ป่วยพักฟื้นหลังการผ่าตัด หรือการเจ็บป่วยแบบฉับพลัน ขณะนี้มีความคืบหน้า 30% และเชื่อมั่นว่าจะเปิดดำเนินการได้ใน ปี 2569 ตามแผน
ขณะที่โครงการขยายจำนวนเตียงให้บริการของโรงพยาบาลนครธนอีก 95 เตียง จากปัจจุบัน 150 เตียง มีความคืบหน้า 30% ตามแผนเช่นเดียวกัน และเชื่อมั่นว่าจะทยอยเปิดให้บริการได้ตามกำหนดคือในปี 2568-2570

“โครงการโรงพยาบาลนครธน 2 มีวัตถุประสงค์ เพื่อขยายศักยภาพการให้บริการไปยังพื้นที่เขตอื่น ๆ พร้อมที่ดูแลผู้รับบริการทุกกลุ่มทั้งคนไข้ทั่วไปที่ชำระเงินเอง สิทธิ์ประกันสุขภาพ คาดให้บริการกลุ่มผู้ประกันตนตามสิทธิ์ประกันสังคมได้ในปี 2570 ส่วน นครธน ลองไลฟ์ เซ็นเตอร์ ศูนย์ดูแลผู้สูงวัย ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ในปี 2569 และโครงการขยายจำนวนเตียงผู้ป่วยใน (IPD) ของโรงพยาบาลนครธน คาดสนับสนุนรายได้ปีนี้ให้เติบโต 8-10% ตามเป้าหมาย” รองศาสตราจารย์ ญาณเดช กล่าว
แพทย์หญิง ศิเรมอร ทองสิมา ผู้อำนวยการสายงานแพทย์โรงพยาบาลนครธน กล่าวเพิ่มเติมว่า รพ.นครธน ได้เพิ่มพัฒนาศักยภาพการดูแลผู้ป่วยเด็กแรกเกิด ถึง 15 ปี อย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มกุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาต่าง ๆ เพื่อให้การดูแลผู้ป่วยเด็กในโรคยากซับซ้อน เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ โรคติดเชื้อไวรัส โรคทางพันธุกรรมหรือโรคเรื้อรัง โรคระบบทางเดินอาหารและตับ เป็นต้น และการดูแลผู้ป่วยเด็กวิกฤตเฉพาะทาง เช่น ทารกแรกเกิดน้ำหนักตัวน้อย (Low Birth Weight, LBW), คลอดก่อนกำหนด (Premature Baby), โรคซับซ้อนทางระบบประสาท, โรคระบบทางเดินหายใจ, โรคหัวใจ, โรคติดเชื้อ, รวมถึงการดูแลเชิงรุก (เน้นการป้องกันก่อนรักษา) เพื่อให้เด็กมีพัฒนาการที่เหมาะสม ทั้งทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม รวมถึงการเพิ่มจำนวนห้องตรวจ OPD อีก 4 ห้อง จากเดิมซึ่งมี 17 ห้อง รวมเป็น 21 ห้องตรวจ รองรับผู้ป่วยเด็กที่เพิ่มขึ้น

