HoonSmart.com>> SNNP เสิร์ฟความสดชื่น! “เจเล่ บิวตี้” น้ำตาล 0% รสลิ้นจี่สูตรแอลคาร์นิทีน-รสองุ่น สูตรวิตามิน เอ ซี อี เอาใจคนรุ่นใหม่ใส่ใจสุขภาพ ฟากผู้บริหาร “วิโรจน์ วชิรเดชกุล” ระบุสอดรับพฤติกรรมผู้บริโภค ลดความหวาน และแคลอรี่ อัพรายได้ครึ่งหลังปี 68
นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP) เปิดเผยว่า บริษัทฯ สานต่อความแรงแบรนด์เจเล่ บิวตี้ (Jele Beautie) ล่าสุด เปิดตัว “เจเล่ บิวตี้” สูตรใหม่ น้ำตาล 0% ใน 2 รสชาติสุดอร่อย “ลิ้นจี่ สูตรแอลคาร์นิทีน” และ “องุ่น สูตรวิตามิน เอ ซี อี
จากแนวโน้มพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีความกังวลเรื่องความหวาน น้ำตาล และ แคลอรี่ ทาง SNNP เข้าใจถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป จึงมุ่งพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพแต่ยังต้องการความอร่อยและพกพาง่าย โดยเน้นคอนเซ็ปต์ “อร่อยง่าย คลายหิว ทุกที่ทุกเวลา” เพื่อสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถเติมความสดชื่นแบบไม่มีน้ำตาลได้ตลอดวัน ซึ่งจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคเป็นอย่างดีอีกเช่นเคย
สำหรับกลยุทธ์ทางการตลาดมาพร้อมกับพรีเซ็นเตอร์สุดฮอต “หลิง-ออม กับการเปิดตัวบิวตี้ สูตรใหม่ น้ำตาล 0% มาใน 2 รสชาติอร่อยโดนใจ “ลิ้นจี่ สูตรแอลคาร์นิทีน” และ “องุ่น สูตรวิตามิน เอ ซี อี” พร้อมเปิดแคมเปญทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง ด้วยการใช้พลังคู่จิ้น “หลิง-ออม” มาเติมความสดใสให้แบรนด์ “เจเล่ บิวตี้” พร้อมปล่อยหนังโฆษณา และจัดเต็มกับกิจกรรมส่งเสริมการขาย เพื่อช่วยผลักดันยอดขายในกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ พบกับความอร่อยแบบน้ำตาล 0% ของ เจเล่ บิวตี้ ทั้ง 2 รสชาติ กับ 2 ขนาด วางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ ขนาด 140 กรัม ราคา 10 บาท และขนาดสุดคุ้ม 240 กรัม ราคา 15 บาท
“SNNP เดินหน้าออกสินค้าใหม่สร้างกระแสความคึกคักได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับ “เจเล่ บิวตี้” สูตรใหม่ น้ำตาล 0% จะสอดรับกับเทรนด์ของพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันที่มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีปริมาณ “ความหวาน ปริมาณน้ำตาล และแคลอรี่” ลดน้อยลง จึงผลิตสินค้าที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค และตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์สินค้าด้วยคอนเซ็ปต์ “อร่อยง่าย คลายหิว ทุกที่ทุกเวลา” และเชื่อมั่นว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าว จะช่วยผลักดันตลาดกลุ่มคนรักสุขภาพได้เป็นอย่างดี สนับสนุนรายได้ช่วงครึ่งหลังปี 68 ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง “นายวิโรจน์กล่าวในที่สุด