HoonSmart.com>>บล.คิงส์ฟอร์ด คาดแนวโน้มหุ้นวันนี้ ดัชนีมีโอกาสปรับตัวลง แนวรับ 1,050 – 1,060 จุด แนวต้าน 1,080 – 1,085 จุด ความเสี่ยงการเมืองในประเทศสูงขึ้น ความไม่แน่นอนเจรจาการค้าสหรัฐฯ ด้านตะวันออกกลาง สหรัฐฯอาจร่วมโจมตีอิหร่าน แนะพักเงินกลุ่มปลอดภัย-จ่ายเงินปันผลสูง หุ้นเด่น PTTEP, BCH
บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด ประเมิน SET กรอบแนวรับ 1,050 – 1,060 จุด โดยมีแนวต้านที่ 1,080 – 1,085 จุด คาดดัชนีมีโอกาสปรับลดลง หลังปัจจัยเสี่ยงการเมืองในประเทศเพิ่มสูงขึ้น กอปรยังมีความไม่แน่นอนต่อผลการเจราการค้าไทย – สหรัฐ และภาวะสงครามในตะวันออกกลาง แนะนำเลือกพักเงินในกลุ่มปลอดภัยและจ่ายเงินปันผลสูง เช่น SCB,TISCO, MC, PRM, SAPPE, DIF
ปัญหาวิกฤตความเชื่อมั่นต่อตัวนายก ฯ หลังมีคลิปเสียงการพูดคุยระหว่างนายก ฯ ไทยกับฮุน เซน ต่อปัญหาชายแดนไทย – กัมพูชา ส่งผลให้พรรคภูมิใจไทยประกาศถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล ส่งผลให้จำนวนเสียงในพรรคร่วมรัฐบาลอยู่ที่ 261 คน ขณะที่ สส.ในสภาผู้แทนฯ มีจำนวน 495 คน ดังนั้นพรรคร่วมรัฐบาลจีงมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งที่ 248 คน เพียง 13 เสียง ซึ่งส่งผลลบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล โดยอยู่ระหว่างประเมินท่าทีของพรรครวมไทยสร้างชาติว่าจะร่วมรัฐบาลต่อหรือไม่
หลังเบื้องต้นหัวหน้าพรรค รทสช.ยื่นเงื่อนไขให้เปลี่ยนตัวนายก ฯ ก่อนจะเข้าร่วมรัฐบาล ส่งผลให้ยังมีความไม่แน่นอนต่อเสถียรภาพของรัฐบาล กอปรกับยังมีแรงกดดันจากการชุมนุมของมวลชนที่ไม่พอใจการทำงานของรัฐบาล จากปัจจัยลบดังกล่าวคาดดัชนี SET มีโอกาสปรับฐานลงต่อ โดยสัปดาห์หน้าคาดจะมีความชัดเจนในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล
ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปิดทำการในวันหยุด Juneteenth ซึ่งเป็นวันยุติการค้าทาสในสหรัฐ
หุ้นเด่นแนะนำ PTTEP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 120.00 บาท) ได้รับ sentiment บวกจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น เป็นผลจากความตึงเครียดในตะวันออกกลางหลังอิสราเอล-อิหร่านเปิดฉากโจมตีใส่กันอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้สหรัฐยังมีทีท่าทีค่อนข้างชัดเจนว่าจะร่วมโจมตีอิหร่าน ด้วยการใช้อาวุธทำรายล้างสูงอย่างบังเกอร์บัสเตอร์ ซึ่งจะยกระดับความเสี่ยงต่อการปิดช่องแคบฮอร์มุซ และส่งผลกระทบ supply ของการส่งออกน้ำมันดิบจากตะวันออกกลางมายังภูมิภาคเอเชีย โดยการขนส่งผ่านช่องแคบดังกล่าวอยู่ที่ประมาณ 20 ล้านบาร์เรลต่อวัน คิดเป็น 20% ของความต้องการใช้ในโลก
หุ้น BCH (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 19.40 บาท) เบื้องต้น คาดกำไร 2Q68 ฟื้นตัวได้ดี YoY จาก 1.2Q67 มีรายการลบจาก Fx Loss, Covid-19, โรค adj.RW>2 รวมแล้วเป็นลบ ราว -100 ลบ. 2.รอมฎอนปีนี้อยู่ในในช่วง 28ก.พ.-29มี.ค.68 สิ้นสุดใน 1Q68 แล้ว และ 3.สภาพอากาศในปีนี้ที่มีฝนตกมากกว่าปีก่อนแล้วมีความร้อนน้อยกว่าปีก่อน ส่วน 3Q68 จะได้แรงบวกตามฤดูกาล
ปัจจุบัน เราคาดกำไรสุทธิของ BCH ปี68 ที่ 1,651 ล้านบาท (+29%YoY) มีปัจจัยหนุนจาก 1.ความเสี่ยงของการรับเงินประกันสังคมในปี68 ลดลง คาดว่า SSO จะสามารถจ่ายโรค adj.RW>2 ที่ 1.2 หมื่นบาท/adj.RW ได้ และ 2.คาดกลุ่มรายได้ผู้ป่วยต่างชาติเริ่มฟื้นตัว ขณะที่ BCH มีการเซ็นสัญญาร่วมกับมัลดีฟส์ เพื่อรับผู้ป่วยเข้ามารักษาที่ ร.พ.WMC
