โบรกเกอร์ฯ คาดแนวโน้มหุ้นวันนี้ดัชนีแกว่งตัวกรอบ 1,630 – 1,645 จุด นักลงทุนรอผลการเจรจาของผู้นำสหรัฐฯและจีนปลายสัปดาห์นี้ “กรุงศรี” แนะนำ MTC ด้านบล.เคทีบี แนะเก็งกำไร MEGA, TKN, COM7 “โนมูระ พัฒสิน” ชู BDMS, PTT, PTTEP
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี คาดดัชนีแกว่งตัว 1,630 – 1,645 จุด เนื่องจากภาวะตลาดมีปัจจัยบวก/ลบคละเคล้าโดยแม้ว่าจะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัวขึ้นหลังรัสเซียส่งสัญญาณร่วมมือกับกลุ่มโอเปกเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตามรายงานการประชุมเฟดวานนี้ได้ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ คาดปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% เป็น 2.5% ในการประชุม 18 – 19 ธ.ค. ซึ่งเป็นลบต่อทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้น และยิ่งเป็นแรงกดดันให้ Fund Flow ต่างชาติจะยังคงไหลออกต่อเนื่อง
นอกจากนี้คาดว่านักลงทุนจะชะลอการซื้อขายเพื่อรอผลการประชุมนอกรอบ G20 เพื่อคลี่คลายข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในช่วงสุดสัปดาห์นี้ซึ่งส่งผลให้ภาวะตลาดมีโอกาสแกว่งตัวด้วยปริมาณซื้อขายเบาบาง
สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ MTC ราคาเป้าหมาย 58 บาท คาดรายได้และกำไรยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากการขยายสาขาและการปล่อยสินเชื่อที่เร่งตัวขึ้น ประกอบกับได้เข้าคำนวณดัชนี MSCI Global standard รอบใหม่เริ่มมีผลวันที่ 30 พ.ย. , EPG ราคาเป้าหมาย 9.0 บาท ซึ่งมองว่าราคาหุ้นลดลงกว่า 20% ในช่วง 2 เดือน แต่ปัจจัยพื้นฐานไม่เปลี่ยน อีกทั้งได้อานิสงส์เงินบาทที่อ่อนค่าและราคาน้ำมันดิบที่ลดลงซึ่งหนุนต่อแนวโน้มผลประกอบการ 3Q19 ส่วนหุ้น Top picks ปีนี้ ได้แก่ ANAN, BBL, CPALL, MTC, ROBINS และ SPALI
บล.โนมูระ พัฒนสิน คาดตลาดแกว่งตัวขึ้น แนวต้าน 1647/1650จุด รับ 1,627/1,622 จุด โดยมองว่า MSCI Rebalance ไทยจะมีเม็ดเงินราว 150 ล้านเหรียญ จะทำให้ตลาดมีมูลค่าการซื้อขายสูงขึ้น หนุนบวกต่อตลาด ผสาน FED Minutes มองจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆนี้ แต่ดอกเบี้ยเข้าใกล้ระดับที่เป็นกลางแล้ว และการปรับขึ้นดอกเบี้ยอาจทำให้เศรษฐกิจชะลอ บวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง
ส่วนประเด็นที่ต้องจับตา คือ การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน 1ธ.ค.นี้ โนมูระมองเป็นกลาง-บวก คาดเอเชียตอบรับบวกได้ วันนี้แนะ Theme “Selective Play” ได้แก่ BDMS, PTT, PTTEP
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) คาดว่าตลาดหุ้นวันนี้ดัชนีน่าจะทรงๆ มีแรงขายทำกำไรก่อนทราบผลเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน โดยมองว่าสองฝ่ายน่าจะทำข้อตกลงการค้าระหว่างวันและน่าจะเป็นผลบวกต่อตลาด รวมทั้งการลดกำลังการผลิตน่ำมันของกลุ่ม OPEC ที่มีแนวโน้มจะปรับลดกำลังการผลิต แต่เราเชื่อว่าอาจไม่มากไปกว่า 1.4 ล้านบาร์เรล ราคาน้ำมันจึงบวกได้ไม่มาก กรอบราคาน้ำมันดิบ Brent เรามองไว้ที่ $60-70 เหรียญในช่วง 3 เดือนข้างหน้า โดยจะขึ้นกับผลการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีนด้วย
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้น่าจะ wait & see รอดูตลาดหรือเล่นเก็งกำไรเพียงช่วงสั้น ๆ แต่ยังมองเป็นจังหวะในการเข้าซื้อหุ้นที่มีแนวโน้มดีอยู่ จากเป้าสิ้นปีที่มองว่าดัชนีฯยังมีโอกาสขึ้นแตะ 1,700 จุด โดยหุ้น top picks ของเราประกอบด้วย หุ้นหลัก CPN, BEM, AOT, TISCO, HMPRO และหุ้นเน้นเก็งกำไรช่วงสั้น MEGA, TKN, COM7
