HoonSmart.com>>บล.คิงส์ฟอร์ด คาดแนวโน้มดัชนีหุ้นวันนี้ผันผวน รอประเมินผลกระทบสงครรมตะวันออกกลาง แนวรับ 1,110 – 1,120 จุด แนวต้าน 1,130 – 1,140 จุด แนะนำซื้อเก็งกำไร PTT,PTTEP,BCP ได้ประโยชน์ราคาน้ำมันปรับขึ้น , พักเงินกลุ่มปลอดภัย CPF,TFG,BCH,ADVANC เสิร์ฟหุ้นเด่นแนะนำ BCP,TMAN
บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด ประเมิน SET กรอบแนวรับ 1,110 – 1,120 จุด โดยมีแนวต้านที่ 1,130 – 1,140 จุด คาดดัชนีผันผวนระหว่างรอประเมินผลกระทยจากภาวะสงครามในตะวันออกกลาง แนะนำซื้อเก็งกำไร PTT,PTTEP,BCP ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น และพักเงินในกลุ่มปลอดภัย CPF,TFG,BCH,ADVANC
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐปิดวันศุกร์ DJIA -1.79%, S&P500 -1.13%, Nasdaq -1.30% จากแรงขายกลุ่มการเงิน -2.6%, บริการสื่อสาร -1.5% ขณะที่กลุ่มพลังงาน +1.72% จากความกังวลภาวะสงครามอิสราเอล – อิหร่าน หลังวันศุกร์ที่ผ่านมาอิสราเอลได้ยิงขีปนาวุธโจมตีเป้าหมายทางทหาร และโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ส่งผลให้อิหร่านได้ปฏิบัติการยิงขีปนาวุธตอบโต้อิสราเอล ส่วน ม.มิชิแกนเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ เบื้องต้น มิ.ย. ปรับขึ้นอยู่ที่ 58.4 & พ.ค. 49.0
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจ US CPI พ.ค. อยู่ที่ 2.4% ต่ำกว่าคาดที่ 2.5% YoY ส่งผลให้ตลาดคาดเฟดจะคงดอกเบี่ยในการประชุมวันที่ 18 มิ.ย. สัปดาห์นี้ 18 มิ.ย. ติดตามผลการประชุมเฟดคาดคงดอกเบี้ยที่ 4.25 – 4.5% และ Fed Dot Plot
หุ้นแนะนำ BCP (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย 42.00 บาท) ระยะสั้นได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้แรงกดดันจากผลขาดทุนสต๊อกฯ ใน 2Q68 ลดลง ประกอบกับค่าการกลั่นในเดือน พ.ค.-มิ.ย.68 ที่ฟื้นตัวดีเหนือระดับ US$6-7/bbl ช่วยชดเชยโรงกลั่นศรีราชาที่มีการปิดซ่อมบำรุง ทั้งนี้คาดหวังเห็นกำไรฟื้นตัวขึ้นใน 2H68 จากการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นลดลง
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยหนุนจากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ ที่ให้ส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้นตามทิศทางของค่าไฟฟ้าในตลาด PJM รวมถึงเข้าสู่ฤดูฝนหนุนการผลิตไฟฟ้าพลังงานน้ำ และเริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ของโครงการพลังงานลม Monsoon ในลาว ส่วนประเด็นสงครามอิสราเอลและอิหร่านหากรุนแรงขึ้นจนกระทบการขนส่งน้ำมัน BCP จะถูกกระทบน้อยกว่าตัวอื่นเพราะโรงกลั่นพระโขนงมีสัดส่วนการใช้น้ำมันดิบจากตะวันออกกลางแค่เล็กน้อย
ขณะที่ธุรกิจ E&P ในยุโรปจะรับประโยชน์จากปริมาณขายและราคาที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เราประเมินกำไรสุทธิปี 2568-69 ที่ 7 พันล้านบาท +224%YoY และ 7.5 พันล้านบาท +6%YoY
หุ้น TMAN* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 22.00 บาท) กำไรสุทธิ 1Q68 อยู่ที่ 122 ลบ.(-13%YoY, +12%QoQ) การอ่อนตัว YoY มาจาก Produxt Mix ที่เปลี่ยนไป(สัดส่วนยาสูงขึ้น) และแรงกดดันจากค่าใช้จ่ายด้านการตลาด อย่างไรก็ตาม คาดว่าช่วงที่เหลือของปี การเติบโตของรายได้จะสามารถชดเชยปัจจัยลบดังกล่าวในไตรมาส1 ได้
ทาง TMAN* เอง ตั้งเป้าหมายในระยะ 5 ปีข้างหน้า(68-72) รายได้เติบโตเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 10-15% ต่อปี และตั้งเป้าเป็น Top 5 ในตลาด OTC (Over-The-Counter) และ Top 10 ในตลาดร.พ.
ทั้งนี้ ตลาดคาดว่าปี67 และ68 กำไรสุทธิของ TMAN* จะอยู่ที่ 491 ล้านบาท (+9%YoY) และ 544ล้านบาท (+11%YoY)
———————————————————————————————————————————————————–
