“คิงส์ฟอร์ด” วางแนวรับ 1,110 จุด อิสราเอลโจมตีอิหร่าน-ศาลไต่สวนทักษิณ

HoonSmart.com>>บล.คิงส์ฟอร์ด คาดแนวโน้มหุ้นวันนี้โอกาสปรับฐาน แนวรับ 1,110 จุด หลังปัจจัยเสี่ยงสงครามในตะวันออกกลางสูงขึ้น เช้านี้อิสราเแลโจมตีอิหร่าน ดันราคาน้ำมันพุ่ง 7.5% พร้อมจับตาศาลไต่สวนปมพักรักษาตัว รพ.ตำรวจ หุ้นเด่นแนะ SCC-TFG

บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด ประเมิน SET มีโอกาสปรับฐานลงสู่แนวรับ 1,110 จุด หลังปัจจัยเสี่ยงสงครามในตะวันออกกลางสูงขึ้น กอปรภาวะการเมืองในประเทศยังไม่มีเสถียรภาพ โดยมีแนวต้านที่ 1,130 – 1,140 จุด แนะนำซื้อเก็งกำไร PTT,PTTEP ตามราคาน้ำมันดิบเช้านี้ +7.5% จากเหตุอิสราเอลโจมตีอิหร่าน / พักเงินในกลุ่มปลอดภัย CPF,TFG,BDMS

เช้านี้อิสราเอลได้เริ่มปฏิบัติการโจมตีอิหร่านแล้ว ส่งผลให้สัญญาน้ำมัน WTI Futures เช้านี้ +8.5% อยู่ที่ $73.8/บาร์เรล ซึ่งจากต้นทุนน้ำมันที่สูงขึ้น จะเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย

ล่าสุดเช้านี้ Down Jones Futures -1.1% หลังอิสราเอลได้โจมตีอิหร่านแล้ว โดยปฏิบัติการครั้งนี้สหรัฐไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ DJIA +0.24%, S&P500 +0.38%, Nasdaq +0.24% ได้แรงหนุนจากกลุ่มสาธารณูปโภค, เทคโนโลยี หลังรายงาน US Core PPI พ.ค. +3.0% ต่ำกว่าคาดที่ +3.1% YoY และ +0.1% & คาด +0.2% MoM กอปรกับจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ทรงตัวอยู่ที่ 248,000 ราย แต่สูงกว่าคาดที่ 244,000 ราย ส่งผลให้ CME Fed Watch ชี้มีโอกาส 60% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยในการประชุม ก.ย.

ขณะที่การประชุมเฟดวันที่ 18 มิ.ย. ติดตามประมาณการณ์เศรษฐกิจสหรัฐ และ Fed Dot Plot ว่าจะยังคงคาดการณ์ลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ต่อหรือไม่

ส่วนค่ำวันนี้ติดตาม ม.มิชิแกนรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ เบื้องต้น มิ.ย.คาด 53.5 & พ.ค.52.2  

ส่วนปัจจัยการเมืองในประเทศ ยังอยู่ระหว่างรอการปรับ ครม.และวันนี้ศาลฏีกานัดไต่สวนกรณีคุณทักษิณพักรักษาตัวใน รพ. ถือว่าได้รับโทษตามคำสั่งศาลแล้วหรือไม่ หลังวานนี้แพทย์สภา ฯ ลงมติมากกว่า 2/3 ยืนยันความผิดของ 3 แพทย์ในกรณีนี้ ซึ่งส่งผลให้ปัจจัยเสี่ยงด้านการเมืองสูงขึ้นด้วย  

หุ้นเด้นแนะนำ SCC* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 170.00 บาท) แนวโน้ม 2Q68 คาดผลประกอบการฟื้นตัวขึ้นต่อจากปรับขึ้นราคาขายด้วยการลดส่วนลดทางการตลาดและได้ประโยชน์จากต้นทุนพลังงานที่ลดลง ขณะที่อัตรากำไรของธุรกิจปิโตรเคมีดีขึ้นจากต้นทุน naphtha ที่ลดลงตามราคาน้ำมัน รวมถึง SCGP ที่ทยอยฟื้นตัว มีการบันทึกรายได้เงินปันผลตามฤดูกาล และกำไรพิเศษจากการเข้าซื้อกิจการในสิงคโปร์

นอกจากนี้มีประเด็นบวกจาก SCGC ขายหุ้น CAP 10% ส่งผลให้เปลี่ยนสถานะจากบริษัทร่วม เป็นเงินลงทุนระยะยาว ซึ่งทำให้มีกำไรพิเศษจากการประเมินมูลค่ายุติธรรม และกำไรจากการขายหุ้นเข้ามาอีก สอดคล้องกับแผนลดภาระทางการเงินของบริษัท ไม่ต้องรับส่วนแบ่งขาดทุนจาก CAP เข้ามาในงบ/รอรับเงินปันผลแทน และได้เงินสดกลับมาเสริมสภาพคล่อง ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 68-69 ที่ 8 พันล้านบาท +26%YoY และ 1.2 หมื่นล้านบาท +52%YoY

หุ้น TFG* (ซื้อเก็งกำไร/ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 6.25 บาท) แนวโน้มระยะสั้นในช่วง 2Q68 คาดว่าจะยังอยู่ในเกณฑ์ดีต่อเนื่องหนุนด้วยราคาเนื้อสัตว์ในประเทศโดย เดือนเม.ย.68 ราคาสุกรไทยอยู่ที่ 87 บาท/กก.(+28%YoY, +6%MoM)/เดือนพ.ค.68 อยู่ที่ 88 บาท/กก.(+22%YoY, +1%MoM)

ขณะที่ในส่วนของต้นทุนเลี้ยงยังประคองตัวในโซนค่อนข้างต่ำต่อเนื่อง ด้านการส่งออก ผู้ส่งออกไก่รายใหญ่อย่างบราซิลมีปัญหาการระบาดของไข้หวัดนก  ส่วนมูลค่าการส่งออกของไทยช่วงเม.ย.68 ยังบวกดีYoY โดย ไก่แปรรูป+6%YoY และ ไก่สดแช่แข็ง+15%YoY  

ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี68และ69 กำไรสุทธิของ TFG* จะอยู่ที่ 4,421 ลบ.(+41%YoY) และ 4,624 ลบ.(+5%YoY) ตามลำดับ