NUT มั่นใจเข้าซื้อขาย 11 มิ.ย.นี้ โชว์ Q1/67 กำไรโตแรง 45%

HoonSmart.com>>ตลาด mai ไฟเขียวหุ้น NUT เริ่มซื้อขาย 11 มิ.ย.นี้ ฟาก “ภาคิณ กิตติภานุวัฒน์” ซีอีโอ  มั่นใจประสบการณ์-ความเชี่ยวชาญบริการแบบครบวงจร โชว์ Q1/68 กำไรสุทธิ 28.85 ล้านบาท โต 8.97 ลบ. หรือ 45.12% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน กำไรสุทธิ 19.88 ล้านบาท

นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ สั่งรับหุ้น บริษัท นูทริชั่น โปรเฟส (NUT)  เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai  ตั้งแต่วันที่ 11 มิ.ย. 2568 กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ชื่อย่อ  NUT

สำหรับ NUT ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และเครื่องสำอาง ภายใต้เครื่องหมายการค้าของบริษัท (House Brand) แบรนด์ร่วม (Co-Brand)และรับจ้างผลิตภายใต้แบรนด์ของบุคคลภายนอก(OEM) โดยผลิตภัณฑ์หลักในกลุ่มเสริมอาหาร คือ สินค้าเสริมอาหารเพื่อสุขภาพ (Health) สินค้าเสริมอาหารเพื่อรูปร่าง (Shape) และผลิตภัณฑ์เพื่อเส้นผมและผิว (Hair&Skin)

ส่วนผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางแบ่งออกเป็น ผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล (Personal Care) และผลิตภัณฑ์ดูแลผิว (SkinCare) ตัวอย่าง House Brand กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ได้แก่ “REALELIXI” และกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ได้แก่ “COSMESIA” ในไตรมาส 1 ปี 2568 สัดส่วนรายได้แบ่งตามกลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภท House Brand : Co-Brand : OEM คิดเป็นร้อยละ 73 : 20 : 7 ตามลำดับ

สำหรับช่องทางจำหน่ายมีทั้งแบบออนไลน์ (Online) ออฟไลน์ (Offline) และการรับจ้างผลิต (OEM) ซึ่งในไตรมาส 1 ปี 2568 สัดส่วนรายได้แบ่งตามช่องทางจำหน่าย Online : Offline : OEM คิดเป็นร้อยละ 76 : 17 : 7 ตามลำดับ ปัจจุบันบริษัทมีโรงงานผลิต 3 แห่งที่จังหวัดสมุทรปราการ แบ่งเป็นโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร 2 แห่ง และโรงงานผลิตเครื่องสำอาง 1 แห่ง ทำให้บริษัทสามารถควบคุมมาตรฐานการผลิตได้เองทุกขั้นตอน

NUT มีทุนชำระแล้วหลัง IPO 60 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เสนอขาย 37 ล้านหุ้น หุ้นละ 6.80 บาท P/E ratio  12.72 เท่า คำนวณจากกำไรสุทธิ 4 ไตรมาสล่าสุด

(1 เม.ย. 2567-31 มี.ค. 2568) ซึ่งเท่ากับ 64.13 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.5344 บาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญ

นายภาคิณ กิตติภานุวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  NUT กล่าวว่า บริษัทมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญมากกว่า 10 ปี มีการให้บริการแบบครบวงจร ตั้งแต่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การผลิตตามมาตรฐานสากล ไปจนถึงการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ ผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้รับการขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้รับการรับรองมาตรฐานโรงงาน

สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ การผลิตคอนเทนต์ และการว่าจ้างพรีเซ็นเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัททั้งกลุ่มเสริมอาหาร และเครื่องสำอาง รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

NUT มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO คือ กลุ่มครอบครัวกิตติภานุวัฒน์ ถือหุ้น 66.5% โดยบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 30% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินของบริษัท ภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และเงินทุนสำรองตามกฎหมาย และทุนสำรองอื่น

ด้านผลดำเนินงาน Q1/2568 กำไรสุทธิ 28.85 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.35 บาท เติบโต 8.97 ล้านบ. หรือ 45.12% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน กำไรสุทธิ 19.88 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.24 บาท

ส่วนปี 2567 กำไรสุทธิ 55.16 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย เทียบปี 2566 กำไร 65.05 ล้านบาท