HoonSmart.com>>บลจ.กสิกรไทย (KAsset) ปรับเพิ่มน้ำหนัก “หุ้นอินเดีย” มองเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าจำกัด ธนาคารกลางหั่นดอกเบี้ยครั้งใหญ่ 0.5% เหลือ 5.5% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ บรรเทาหนี้ครัวเรือน แนะทยอยสะสมหุ้นอินเดีย ชูกองทุน K-INDIA เน้นหุ้นคุณภาพดี เติบโตสูง พร้อมคงน้ำหนัก “หุ้นยุโรป” ยังมีความไม่แน่นอนสงคราม-ภาษีนำเข้า ด้าน ECB ส่งสัญญาณพักการลดดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้า
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย (KAsset) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.2568 ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) ลดดอกเบี้ยครั้งใหญ่ 0.50% เหลือ 5.5% ซึ่งต่ำสุดนับตั้งแต่ส.ค.2022 ถือเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ของปีนี้ (ก่อนหน้านี้ในเดือนก.พ. และเม.ย. ลดครั้งละ 0.25%) และเป็นการเปลี่ยนจุดยืนนโยบายจาก “ผ่อนคลาย” (Accommodative) เป็น “เป็นกลาง” (Neutral) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและบรรเทาภาระหนี้ครัวเรือน ส่งผลให้ตลาดหุ้นตอบรับในเชิงบวก
เหตุผลที่ RBI ลดดอกเบี้ย เนื่องจาก
1) เงินเฟ้อลดลงต่อเนื่อง อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนเม.ย. อยู่ที่ 3.16% ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายกลางของ RBI ที่ 4%
2) สนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ
• RBI คงประมาณการ GDP ที่ 6.5% สำหรับปี 2025 – 2026
• แต่เศรษฐกิจยังคงเผชิญความไม่แน่นอน ทั้งภายในและภายนอกประเทศ
• การลดดอกเบี้ยจะช่วยลดภาระดอกเบี้ยของภาคครัวเรือนและธุรกิจ
3) กระตุ้นการลงทุนและการบริโภค
• การลดดอกเบี้ยทำให้ค่าใช้จ่ายในการผ่อนชำระบ้านและรถยนต์ (EMI) ลดลง
4) บริหารความเสี่ยงจากภายนอก
• RBI ต้องการใช้ช่วงเวลานี้ในการ “เร่ง” การสนับสนุนเศรษฐกิจ ก่อนเผชิญความผันผวนรอบใหม่
“KAsset ได้ปรับมุมมองตลาดหุ้นอินเดียเพิ่มขึ้นเป็น Overweight ในช่วงเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากมองว่า อินเดียจะยังเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าจำกัด และธนาคารกลางสามารถลดดอกเบี้ยได้จากเงินเฟ้อที่ลดลงแล้ว”
นอกจากนี้ ยังมีเม็ดเงินจากงบประมาณของภาครัฐที่เริ่มมีการเบิกจ่ายเข้ามาในระบบเศรษฐกิจอีกครั้ง และจากข่าวนี้ KAsset คงมุมมองแนะนำลงทุน สามารถทยอยสะสมได้สำหรับตลาดหุ้นอินเดีย
กองทุนแนะนำ ได้แก่ K-INDIA กองทุนหุ้นอินเดีย เน้นหุ้นคุณภาพดี เติบโตสูง และไม่จำกัดโอกาสการลงทุนในหุ้นขนาดกลาง-เล็ก
ด้านธนาคารกลางยุโรป (ECB) ลดดอกเบี้ยครั้งที่ 8 โดยลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก (Deposit Facility Rate) ลง 0.25% เหลือ 2.00% อัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ (Main Refinancing Operations) เหลือ 2.15% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ (Marginal Lending Facility) เหลือ 2.40% ท่ามกลางความเสี่ยงจากสงครามการค้าและการชะลอตัวของการเติบโต แต่ส่งสัญญาณพักการลดดอกเบี้ยในเดือนก.ค. ขณะที่อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนลดลงเหลือ 1.9% ใกล้เป้าหมายของ ECB ที่ 2%
ECB เปลี่ยนจุดยืนทางนโยบายเป็น “ระดับเป็นกลาง” และเน้นการตัดสินใจตามข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้รับ
สำหรับมุมมองการลงทุน KAsset ยังคงมุมมองยุโรปไว้ที่ “Neutral” เนื่องจากสงครามการค้ายังมีความไม่ชัดเจน ถึงแม้ว่าตลาดหุ้นจะปรับตัวขึ้นได้ดีจากความเชื่อมั่นจากเม็ดเงินการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะประเทศเยอรมัน
“KAsset ยังมองว่ายุโรปยังมีความไม่แน่นอนจากเรื่องสงคราม และภาษีนำเข้า อีกทั้ง ECB ส่งสัญญาณพักการลดดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้าอีกด้วย ทำให้เรายังคงมุมมองการลงทุนเช่นเดิม”