HoonSmart.com>>สภาอุตสาหกรรมฯ จับมือ AIS ยกระดับ SMEs ไทยให้ได้มาตรฐานสากล พร้อมปูทางสู่อนาคตเศรษฐกิจไทยด้วยแนวทาง “4 Go” เผยกองทุนอินโนเวชั่น 1,000 ล้านบาท สนับสนุนไปแล้ว 176.7 ล้านบาท เตรียมอนุมัติ 105 ล้านบาท
นายอภิชิต ประสพรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวในงานเปิดโครงการ “AIS Infinite SMEs”ว่า ได้ร่วมมือกับ AIS ในการสนับสนุนและพัฒนา SMEs ไทยในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมการได้รับการรับรองมาตรฐานสากล เช่น ISO/IEC 29110:2018 การพัฒนาซอฟต์แวร์ให้ได้มาตรฐานระดับโลก ช่วยลดต้นทุนในการบริหารจัดการ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดสากล
การจัดตั้งสถาบันวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอุตสาหกรรมการผลิต (SMI: Small & Medium Industrial Institute) เพื่อยกระดับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่มีสัดส่วนสูงถึง 99% ของผู้ประกอบการทั้งหมด

รวมถึง การผลักดันให้ธุรกิจไทยเดินหน้าอย่างมั่นคงภายใต้แนวทาง “4 Go” ได้แก่ Go Digital & AI การยกระดับอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์, Go Innovation การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่มาขับเคลื่อนอุตสาหกรรม, Go Green การขับเคลื่อนองค์กรสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนและการปรับตัวสู่เป้าหมายการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ และ Go Global การพัฒนาสินค้าและบริการไทยเพื่อขยายโอกาสสู่ตลาดโลก
ในส่วนการสนับสนุนให้ Go Innovation มีกองทุนอินโนเวชั่นวัน มูลค่า 1,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนให้สตาร์ทอัพ และเอสเอสเอ็มอี พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมยกระดับขีดความสามารถ ซึ่งมีผู้ได้รับการสนับสนุนทางการเงินแล้ว 12 ราย เป็นเงิน 176.7 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการกรั่นกรองอีก 5 ราย เป็นเงิน 105 ล้านบาท
เพื่อให้ เอสเอ็มอี สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง สามารถเผชิญกับความท้าทายและบริบททางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง ทั้งจากภายนอกและภายในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นมาตรการด้านภาษีของสหรัฐอเมริกา การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี วิกฤตสิ่งแวดล้อมที่รุนแรงขึ้น ซึ่งล้วนส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบการผลิต ตลอดจน พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ก่อให้เกิดแนวโน้มใหม่ในการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะแนวทาง ESG ที่กลายเป็นปัจจัยสำคัญในการแข่งขันบนเวทีโลกในปัจจุบัน
“เอสเอ็มอี มีทั้งหมด 3 ล้านราย แต่ที่ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว.แค่แสนกว่าราย มีปัญหาที่เป็นรูรั่วอยู่ 9 ด้าน แต่ที่ใหญ่ที่สุดคือ ปัญหาการเงิน ปัญหาการตลาด และมาตรฐาน ซึ่งปัจจุบันเรื่องมาตรฐานสำคัญมากขึ้น การเสริมสร้างขีดความสามารถและยกระดับมาตรฐานให้กับ SMEs จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้สามารถปรับตัวและเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว”นายอภิชิต กล่าว
นายอภิชิต กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมการผลิตสินค้าและบริการภายใต้ตราสัญลักษณ์ “Made in Thailand (MiT)” – ไทยซื้อไทย ใช้ของไทย ไม่แพ้ใครแน่นอน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในสินค้าและบริการของไทย เพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ และเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ผู้ประกอบการ SMEs ไทยสามารถแข่งขันได้ทั้งในประเทศและตลาดโลก ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางในการสนับสนุนเศรษฐกิจภายในประเทศให้เติบโตอย่างเข้มแข็ง และเสริมสร้างความภาคภูมิใจในสินค้าฝีมือคนไทยอย่างแท้จริง
“ปี 2567 มีบริษัทที่ลงทะเบียนในระบบภายใต้โครงการ MiT 5,577 กิจการ เพิ่มขึ้น 10.7% มีการรับรองสินค้า 57,622 ราย เพิ่มขึ้น 5.2% โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ผ่านการรับรอง MiT สูงสุด คือ กลุ่มอุปกรณ์งานก่อสร้าง และอื่นๆ ตามด้วยกลุ่มไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และโทรคมนาคม “นายอภิชิต กล่าว
นายอภิชิต กล่าวว่า โครงการ “AIS Infinite SMEs” ไม่ใช่เพียงความร่วมมือเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลให้กับภาคธุรกิจ แต่คือ พันธสัญญาร่วมกันในการสร้างโอกาสใหม่ และวางรากฐานที่มั่นคงให้กับเศรษฐกิจไทยในอนาคต
