หุ้นโตเกียว-เอเชีย ร่วง ความไม่แน่นอนศก.ภูมิภาค-ภาษีทรัมป์

ตลาดหุ้นโตเกียวเช้านี้ปรับลง ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้น หลังจากศาลอุทธรณ์กลางของสหรัฐฯ อนุญาตให้มาตรการเก็บภาษีแบบครอบคลุมของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มีผลบังคับใช้ แม้ศาลการค้าระหว่างประเทศ(Court of International Trade )ตัดสินห้ามในวันก่อนหน้า

 Prime Market กลุ่มที่นำการปรับลงคือ กลุ่มเครื่องมือชั่งตวงวัด กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า และกลุ่มอุปกรณ์การขนส่ง

อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของโตเกียวในเดือนเมษายน ซึ่งรวมค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ไม่รวมอาหารสด เพิ่มขึ้น 3.6% จากปีก่อน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2023

คริสตินา คลิฟตัน นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสและนักยุทธศาสตร์จาก Commonwealth Bank of Australia ระบุในบทวิเคราะห์ว่าอัตราเงินเฟ้อที่สูงและการเติบโตของค่าจ้างที่แข็งแกร่งหมายความว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคมและธันวาคม อย่างไรก็ตามแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยน้อยลงเนื่องจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์โลกและผลกระทบเชิงลบของภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น

ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนเมษายนลดลง 0.9% จากเดือนก่อนหน้า แต่ก็ดีกว่าการลดลง 1.4% ที่นักเศรษฐศาสตร์ที่ทำการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ ส่วนยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 3.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ดีกว่า 3.1% ที่รอยเตอร์คาดการณ์ไว้

ข้อมูลของรัฐบาลที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ระบุว่า อัตราการว่างงานของญี่ปุ่นในเดือนเมษายนไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 2.5% ซึ่งสอดคล้องกับการประมาณการของการสำรวจของรอยเตอร์

ณ เวลา 8.47 น. ตามเวลาประเทศไทย

ดัชนี Nikkei 225 อยู่ที่ 37,890.12 จุด ลดลง 542.86 จุด, -1.41%

ตลาดหุ้นเอเชียแปซิฟิกส่วนใหญ่ปรับตัวลงแทบทั้งภูมิภาค ท่ามกลางการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจของภูมิภาค จากความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลงจากความไม่แน่นอนทางกฎหมายที่เกี่ยวเนื่องกับสงครามการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รวมทั้งเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ชะลอตัว และความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ

เมื่อวานนี้ศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลาง (U.S. Court of Appeals for the Federal Circuit ) มีคำตัดสินระงับคำตัดสินของศาลการค้าระหว่างประเทศ(Court of International Trade ) เป็นการชั่วคราว และให้มาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีทรัมป์ยังคงมีผลบังคับใช้

ในการประชุมแบบพบหน้ากันที่ทำเนียบขาว ทรัมป์กดดันให้ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ลดอัตราดอกเบี้ย โดยเชื่อว่าเขาทำผิดพลาดที่ไม่ลดต้นทุนการกู้ยืม

ข้อมูลที่สำนักงานสถิติเกาหลีใต้เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ระบุว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเมษายน ลดลง 0.9% เมื่อปรับปัจจัยฤดูกาล เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า จากการขยายตัว 2.9% ในเดือนมีนาคม และต่ำกว่า 0.5% ที่การสำรวจของรอยเตอร์คาดการณ์

ผลผลิตภาคโรงงานเพิ่มขึ้น 4.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสูงกว่า 4%ที่นักเศรษฐศาสตร์ที่สำรวจโดยรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ แต่งต่ำกว่า 5.3% ในเดือนก่อนหน้า

ข้อมูลอีกชุดแสดงให้เห็นว่ายอดค้าปลีกของเกาหลีใต้ในเดือนเมษายนลดลง 0.9% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2024 จากที่ลดลง 0.3% ในเดือนก่อนหน้า

ดัชนี SSE ตลาดหุ้นจีนอยู่ที่ 3,360.54 จุด ลดลง 2.91 จุด, -0.09%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงอยู่ที่  23,364.53 จุด ลดลง 208.85 จุด, -0.89%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้อยู่ที่ 2,706.56 จุด ลดลง 14.08 จุด, -0.52%

ดัชนี TAIEX  ตลาดหุ้นไต้หวันอยู่ที่  21,347.3 จุด ลดลง 10.42 จุด, -0.05%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคมลดลง  0.3 ดอลลาร์ หรือ 0.49% ปิดที่ 60.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล  และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคมลดลง  0.25 ดอลลาร์ หรือ 0.39% ที่ 63.9 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล