BBIK ดิ่ง12% กังวลกำไร Q1 ชะลอ หยวนต้าฯ ยันทั้งปี 67 ออลไทม์ไฮ

HoonSmart.com>>วิกฤตมองเป็นโอกาสหุ้น BBIK นักลงทุนกระหน่ำทิ้งในช่วงบ่าย ทุบราคาปิดร่วง 12.14% บล.กรุงศรีมองกังวลกำไรไตรมาส 1/67 ชะลอตัวลง 19% QoQ หวั่นถูกปรับลดประมาณการปี 67 หลังไตรมาส 1 โตไม่มากอย่างที่คิด ส่วนบล.หยวนต้าคาดผลกระทบระยะสั้นจากฐานปีก่อนสูง ไตรมาส 2 ฟื้นต่อเนื่อง ทั้งปีโกยกำไร 367 ล้านบาท โต 31.5% และปีหน้าโต 45.5% เป๋าตุง 534 ล้านบาท


วันที่ 7 พ.ค.2567 ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นตามตลาดต่างประเทศ แต่มีแรงขายหุ้นบริษัทบลูบิค กรุ๊ป (BBIK) ออกมาแรงผิดปกติในช่วงบ่าย  ทำให้ราคาไหลพรวดลงไปต่ำสุดแตะ 44.50 บาท ก่อนฟื้นเล็กน้อยปิดที่ 45 บาท ร่วง 6.50 บาทหรือ-12.62% ด้วยมูลค่าการซื้อขายรวม 70.88 ล้านบาท นับว่าผิดปกติสำหรับบริษัทที่สร้างกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (ออลไทม์ไฮ)ทุกปี หนุนราคาขึ้นมากกว่า  100 บาท หลังจากขึ้น XD วันที่ 30 เม.ย.2567ให้สิทธิปันผลเป็นหุ้นสัดส่วน 1 ต่อ 0.837 หุ้น=0.4185 บาทและปันผลเงินสด 0.3815 บาท กดราคาไหลลงอย่างต่อเนื่อง

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.กรุงศรี กล่าวว่า ราคาหุ้น BBIK ปรับตัวลงแรง เป็นผลจากความกังวลผลดำเนินงานไตรมาส 1/2567 ที่คาดว่าจะมีกำไรที่ 64 ล้านบาท ชะลอตัวลง 19% Q0Q แต่จะเติบโต 9% YoY ซึ่งเป็นการเติบโตที่ต่ำลง ทำให้ผลดำเนินงานปี 2567 ที่อาจมี Downside โดยฝ่ายวิจัยอยู่ระหว่างการปรับประมาณการใหม่ หลังจากที่ไตรมาส 1 เติบโตไม่มากอย่างที่คิด

สวนทางกับ บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) ออกบทวิเคราะห์วันที่ 25 เม.ย. และปรับปรุงเมื่อวันที่ 3 พ.ค.2567 ปรับเพิ่มประมาณการปี2567 ขึ้น 3% เป็นกำไรปกติ 367 ล้านบาท (+33% YoY)  คาดกำไรปกติแข็งแกร่งในปี 2567 แม้ฐานสูงในปี 2566 หลังเติบโตเด่นมาอย่างต่อเนื่อง กำไรปกติจะไปเด่นในครึ่งปีหลังมีแรงส่งของการประหยัดภาษีช่วยและรับรู้สัดส่วนของ Innoviz เพิ่มขึ้น

“เชิงพื้นฐานคงคำแนะนำเทรดดิ้ง รอปัจจัยใหม่ที่จะทำให้หุ้นปรับขึ้นได้รอบใหม่”

บล.หยวนต้าฯมีการปรับปรุงโมเดลเล็กน้อย 1) ปรับเพิ่มประมาณการปี 2567 ขึ้น 3% เป็น 367ล้านบาท และ 2) ปรับเพิ่ม P/E Multiple ขึ้นเป็น 32 เท่าให้สอดคล้องกับการเติบโตที่ดีกว่ากลุ่ม มองว่า BBIK แสดงให้เห็นแล้วถึงคุณภาพการเติบโตที่สูงและมีศักยภาพมากกว่ากลุ่มในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีราคาหุ้นปรับฐานน้อยกว่ากลุ่มทำให้ Upside ไม่ได้เด่นมากนักหุ้นยังน่าสนใจลงทุนสำหรับภาพการลงทุนในระยะยาวโดยต้องให้เวลาผู้บริหารในการปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อให้บริษัทฯ เติบโตได้อย่างก้าวกระโดดในระยะถัดไป

สำหรับบริษัท BBIK คงเป้าหมายเติบโต50%จากปีก่อน(สูงกว่าคาดการณ์ของเราที่ระดับ 30%-35%)ที่บริษัทฯ ตั้งไว้ตั้งแต่ต้นปี 2567 โดยบริษัทคงมุมมองครึ่งปีหลังเด่นกว่าในช่วง 6 เดือนแรกตามผลของฤดูกาล อย่างไรก็ดีบริษัทฯ มองว่าเป้าหมายเริ่มมีความท้าทายมากขึ้นในปี 2567 จากลูกค้าเลือกที่ชะลอการตัดสินใจในโครงการขนาดใหญ่เพราะความกังวลในภาวะเศรษฐกิจ

ขณะเดียวกัน BBIK มี Backlogs ณสิ้นปี2566 ที่ 863 ล้านบาทแบ่งเป็นที่บริษัทฯราว 709 ล้านบาทและอยู่ที่ระดับร่วมทุที่ 154 ล้านบาท โดย Backlogs ส่วนใหญ่จะถูกรับรู้ภายในปี 2567 ขณะที่การประมูลงานเพิ่มเติมในไตรมาสแรก ยังอยู่ในระดับปกติแต่งานขนาดใหญ่ที่บริษัทฯ คาดหวังยังต้องใช้เวลา

สำหรับการขอ BOI เพิ่มเติมของหน่วยธุรกิจ Innoviz เกิดขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 2/2567 ส่วน Bluebik Vulcan ได้รับ BOI แล้วก่อนหน้านี้ ความคืบหน้าของการขอ BOI จะช่วยลดอัตราภาษีของกลุ่มในครึ่งปีหลังเป็นแรงหนุนสำคัญให้กำไรเด่นกว่าครึ่งปีแรก จากปัจจุบัน BBIK จ่ายภาษีในไตรมาส 4 ที่ผ่านมาที่อัตราราว 15% BBIK ได้ใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มเติมใน Innoviz อีก 30% ในเดือนก.พ.2567 เรียบร้อยแล้ว ทำให้บริษัทฯ ถือเพิ่มขึ้นเป็น 85% จะหนุนให้กำไรที่รับเพิ่มขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป เนื่องจากรายได้ของ Innoviz บางส่วนเป็นงานภาครัฐ การกลับมาเดินหน้างบประมาณภาครัฐจึงส่งผลบวกต่อ BBIK ด้วยเช่นกัน

การสร้าง Synergy ระหว่างกลุ่ม 1)BBIK พยายามเพิ่ม Utilization ของพนักงานVulcan ให้ได้ใกล้เคียงกับ BBIK ที่ 70% จาก 55% อย่างไรก็ดีการปรับเพิ่มขึ้นต้องใช้เวลา 2) การทำCross selling มีการตั้งทีมขายมาเพิ่มและปรับปรุง Incentive scheme เพื่อสร้างระบบการขายงานให้กับทั้งกลุ่มและ 3) การปรับโครงสร้างองค์กร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและเพิ่มตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงเพื่อมาผลักดันงานด้าน Synergy โดยเฉพาะการเติบโตในต่างประเทศ BBIK อยู่ระหว่างรุกงานในตลาดเวียดนามและตลาดอื่นๆ โดยเน้นไปที่การเจาะงานขนาดใหญ่ที่เฉพาะเจาะจงเพื่อลดความเสี่ยงแนวโน้มไตรมาส 1 เบื้องต้น คาดกำไรปกติเติบโต YoY จากฐานต่ำ แต่ QoQ มีโอกาสชะลอตัวลง เนื่องจาก Orbit มีการรับรู้งานขนาดใหญ่ในไตรมาส 4/2566 ทำให้ฐานสูงกว่าปกติ