แห่เพิ่มเป้ากำไร “ADVANC” วัฏจักรขาขึ้น-ราคาถูก

HoonSmart.com>> โบรกเกอร์เห็นพ้องแนะนำ”ซื้อ”หุ้น ADVANC กำไรไตรมาส 1/67 ดีเกินคาด  ปรับเพิ่มเป้ากำไร ราคาหุ้น เล็งเข้าสู่วัฏจักรขาขึ้นรอบใหม่ และราคาถูก  ADVANC พุ่งฉิ่ว ลากแม่ INTUCH ผู้ถือหุ้นใหญ่ GULF และคู่แข่ง TRUE  วิ่งตามคาดผลงานโดดเด่นด้วย บล.หยวนต้าแนะจับตาเงินเฟ้อหากติดลบต่อเนื่องเดือนที่ 7 บวกต่อกลุ่ม Yield Play  อาทิ GULF, BGRIM, SAWAD, ADVANC, 3BBIF  

วันที่ 2 พ.ค.2567 หุ้นบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) วิ่งนำตลาด หลังประกาศกำไร 1/2567 สูงกว่าตลาดคาดการณ์และเติบโตแข็งแกร่ง จากรายได้หลีกทะยานขึ้นและประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุน ดึงดูดให้นักลงทุนกระโดดเข้าซื้อหุ้น ดันราคาขึ้นสูงสุด 209 บาท ก่อนปิดที่  207 บาท เพิ่มขึ้น 9.50 บาทหรือ 4.812% มูลค่าซื้อขาย 3,430 ล้านบาท ส่งผลต่อเนื่องถึงผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH)  ราคาปิดที่ 68.75  บาทบวก 1.75 บาทหรือ+2.61%และบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) ที่ถือหุ้น INTUCH สัดส่วน 47% ด้วยราคาหุ้นปิดที่ 41 บาท เพิ่มขึ้น 0.75บาทหรือ+1.86% ขณะเดียวกันยังมีผลบวกต่อหุ้น TRUE  ปิดที่ 8.05 บาท เพิ่มขึ้น 0.35 บาทหรือ +4.55% ด้วยมูลค่าซื้อขายมากถึง 2,043.02  ล้านบาท คู่แข่งที่มีโอกาสเห็นกำไรเติบโตโดดเด่นตามด้วยการขยายตัวของเศรษฐกิจและนักท่องเที่ยว ขณะที่ตลาดหุ้นโดยรวมลดลง 4.70 จุดหรือ -0.34% ปิดที่ 1,363.25  จุดด้วยมูลค่าซื้อขาย 48,921.31 ล้านบาท

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) แนะนำ”ซื้อ”หุ้นADVANC จากกำไรเติบโตแข็งแกร่ง และหุ้นราคาถูก ยังคงเป็น Top Pick เนื่องจากคาดกำไรหลักปี 2567 เติบโต 14% และ Valuation น่าสนใจ โดย เทรดบน P/E ปี 67 ที่ 18 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของผู้ให้บริการโทรคมนาคมในอาเซียนที่ 22 เท่าถึง 19% และ ROE ที่สูงกว่า ( 34% เทียบกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมในอาเซียนที่ 14%) ซึ่งน่าจะช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับการขาดทุนของ 3BB ได้ พร้อมเพิ่มราคาเป้าหมายตาม DCF เป็น 257 บาท จาก 251 บาท หลังจากที่เพิ่มประมาณการกำไรปี 2567-2568 ขึ้นอีก 2-3% ปัจจัยบวกที่จะหนุนราคาหุ้นคือผู้บริหารเพิ่มเป้า EBITDA ในไตรมาส 3/2567

สาเหตุที่เพิ่มเป้ากำไร เนื่องจากมีการเพิ่มประมาณการรายได้ 1% (รายได้มือถือและลูกค้าองค์กรที่สูงขึ้น) และลด SG&A ลง2% ซึ่งประมาณการการเติบโต EBITDA ใหม่สำหรับปี 2567 ที่ 17% สูงกว่าเป้าหมายของบริษัทที่ 14-16% โดยเชื่อว่า ADVANC จะปรับเพิ่มเป้าหมาย EBITDA ในไตรมาส 3 เนื่องจากการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐที่เพิ่มขึ้นน่าจะส่งผลให้ GDP เติบโตแข็งแกร่งขึ้นในครึ่งหลังปี 67 ซึ่ง EBITDA ไตรมาส 1 คิดเป็น 25% ของประมาณการทั้งปีใหม่

กำไรหลักไตรมาส 1 อยู่ที่ 8.6 พันล้านบาท(+28% YoY, +22% QoQ) สูงกว่าที่คาด ค่าใช้จ่าย SG&A ไตรมาส 1/67 (+6% YoY, -20% QoQ) ต่ำกว่าประมาณการ 10% เนื่องจากการควบคุมต้นทุนที่ดี และการตั้งค่าเผื่อหนี้เสียที่ลดลงกำไรจากการขายโทรศัพท์มือถือ 497 ล้านบาทสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 200 ล้านบาทจากนโยบายลดหย่อนภาษีของรัฐบาล(Easy E-Receipt) ทำให้ ADVANC ไม่จำเป็นต้องลดราคาค่าเครื่องมากนัก ขณะที่รายได้จากบริการหลักไตรมาส 1/67 เติบโต +18% YoY, +6% QoQ สูงกว่าคาด 1% เนื่องจากรายได้จากลูกค้าองค์กรที่แข็งแกร่ง (+27% YoY, +1% QoQ)

บล.กรุงศรี แนะนำ”ซื้อ”หุ้น ADVANC ราคาเป้าหมายที่ 275 บาท ความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจาก 3BB ต่อกําไรของ ADVANC ทําให้ราคาหุ้นร่วงลงมา และ underperform ดัชนี SET ในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา แต่เนื่องจากผลประกอบการในไตรมาส 1/67 พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าผลกระทบจาก 3BB ไม่ได้มากมายอะไร จึงเชื่อว่าน่าจะมีการ re-rate ราคาหุ้น โดยมองว่าการเข้าสู่วัฏจักรขาขึ้นรอบใหม่ของกําไร และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่แข็งแกร่งจะเป็นธีมหลักของการเข้าลงทุนใน ADVANC

กำไรสุทธิในไตรมาส 1/67 อยู่ที่ 8.45 พันล้านบาท (+25% YoY และ 21% QoQ) ดีกว่าประมาณการ โดยสาเหตุสําคัญมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากบริการ FBB และ ยอดขายเครื่อง, margin จากการขายเครื่องเพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่าย SG&A ลดลง ทั้งนี้ รายได้จากบริการ FBB ในไตรมาสนี้ออกมาดี โดยโตถึง 163% YoY และ 41% QoQ ซึ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก YoY เป็นเพราะมีการรวม 3BB เข้ามาในงบรวมของบริษัท แต่หากเปรียบเทียบ QoQ พบว่ายอดผู้ใช้บริการใหม่พุ่งสูงขึ้น (+73k)เช่นเดียวกับ ARPU (+22% YoY, +1.2% QoQ)ในขณะที่รายได้จากการขายเครื่องเพิ่มขึ้น 5.7% YoY เป็น 1.05 หมื่นล้านบาท จากการใช้มาตรการภาษีเพื่อเพิ่มแรงจูงใจในการจับจ่าย (Easy E-receipt)โดยอัตรากําไรขั้นต้นของยอดขายเครื่องก็เพิ่มขึ้นเป็น 4.7% จากเพียง 1.8% ในไตรมาส 1/66 และ 2.3% ในไตรมาส 4/66 จากกลยุทธ์ลดเงินอุดหนุนค่าเครื่อง นอกจากนี้ แม้จะเข้าไปซื้อ 3BB แต่บริษัทยังสามารถคุมค่าใช้จ่าย SG&A ได้ดีมาก โดยสัดส่วน SG&A/รายได้ลดลงเหลือ 11% จาก 12% ในไตรมาส 1/66 และ 14% ในไตรมาส 4/66

บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ แนะนำ”ซื้อ”หุ้น ADVANC กำไรงวดไตรมาส 1/67 ที่เติบโตดีเกินคาด และเชื่อกําไรปีนี้จะเติบโตได้ราว 16% จากการควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้เป็นปีแรกที่ควบรวมกับ 3BB ที่ยังมีผลขาดทุน ขณะราคาหุ้นปรับตัวลงจากการคาดการณ์กําไรปีนี้อาจได้รับผลกระทบช่วงปีแรกของการควบรวมกิจการกับ 3BB จนราคาหุ้นปัจจุบันมี upside 26.6% อีกทั้งคาด Div. Yield ปี 67 ยังสูงถึง 5%

กำไรไตรมาส 2/67 มีลุ้นใกล้เคียงหรือลดลงเล็กน้อยจากไตรมาส 1/67 โดยได้รับผลบวกจากงานเทศกาลมหาสงกรานต์ตลอดเดือนเม.ย.ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติคึกคักในช่วงดังกล่าว หนุนให้รายได้บริการมือถือมีโอกาสทรงตัวจากไตรมาส 1/67 แม้ตั้งแต่กลาง พ.ค.67 เป็นช่วง low season จากผลกระทบของฤดูฝน บวกกับการ Synergy เชิงรายได้ และลดค่าใช้จ่ายธุรกิจ 3BB ทยอยเริ่มเห็นผลมากขึ้นคาดจะช่วยให้ 3BB มีผลขาดทุนที่ลดลงได้

แม้ผู้บริหารยังคงเป้ารายได้บริหารหลักปีนี้เติบโต 13-15% และ EBITDA ปีนี้เติบโตราว 14-16% จากการมุ่งเน้นที่ความสามารถในการทำกำไร โดยตั้งเป้างบลงทุนปีนี้ที่ 2.5-2.6 หมื่นล้านบาท เพื่อรักษาคุณภาพภายใต้ความเหมาะสม โดยงบลงทุนลดลงจากปีก่อน เป็นผลจากการเร่งลงทุนโครงข่าย 5G บนคลึ่นความถี่ 700 MHz ในปีก่อนครอบคลุมทั่วประเทศแล้ว ขณะที่กำไรสุทธิงวดไตรมาส 1/67 ที่ดีเกินคาด เติบโต 25% YoY และคิดเป็น 28.8% ของประมาณการกำไรทั้งปี 67 เป็นผลให้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปีนี้และปีหน้าเฉลี่ยปีละ 14% โดยกำไรสุทธิปีนี้ภายใต้ประมาณการใหม่อยู่ที่ 33,641 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้าถึง 15.7% และคาดจะเติบโตต่อเนื่องในปีหน้าอีก 11.5% จากผลบวก Synergy กับธุรกิจ 3BB มีความชัดเจนมากขึ้น และคาดธุรกิจ 3BB จะพลิกกลับมามีกำไรได้ในปีหน้า

บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) แนะนำ”ซื้อ”หุ้น ADVANC กำไรในงวดไตรมาส 1/67 ดีกว่าที่คาดจะโตเพียง YoY แต่กลับเติบโตอย่างโดดเด่นทั้ง QoQ และ YoY ผลจากการรับรู้รายได้ TTTBB เต็มไตรมาสครั้งแรก ซึ่งรายได้ Fixed Broadband เติบโต +41% QoQ คิดเป็น 13.3% เทียบรายได้รวม ซึ่งเป็นหนึ่งในการพยายามหารายได้จากหลายช่องทางของบริษัท นอกเหนือไปจากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อน คาดปี 67 รายได้อาจแตะ 2.1 แสนล้านบาท สำหรับกำไรปี 67 คาดไว้ที่ 31,433 ล้านบาท (+8.1% YoY) คิดเป็น EPS 10.57 บาทต่อหุ้น คาดปีนี้จ่ายเงินปันผลรวม 9.62 บาทต่อหุ้น จึงขยับราคาเป้าหมายปี 67 จากเดิม 252 บาทต่อหุ้น เป็น 259 บาทต่อหุ้น

อย่างไรก็ตาม บล.ทิสโก้ คงคำแนะนำ “ถือ” มูลค่าที่เหมาะสม 239 บาท และชอบ TRUE มากกว่า เนื่องจากเห็นโอกาสในการปรับปรุงผลประกอบการได้มากขึ้นจากการบรรลุผลประโยชน์ที่ใหญ่ขึ้นจากการรวมกิจการ ในขณะที่อุตสาหกรรมต้องเผชิญกับการเติบโตของกำไรที่ชะลอตัวลง ซึ่งมีปัจจัยเสี่ยง ภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ยืดเยื้อและรุนแรง และการแข่งขันด้านราคาระหว่างผู้ให้บริการมือถือรอบใหม

ด้านบล.หยวนต้า(ประเทศไทย) คาดวันพรุ่งนี้(3 พ.ค.)กระทรวงพาณิชย์จะประกาศเงินเฟ้อเดือน เม.ย. หากติดลบแบบ YoY ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ซึ่งมีความเป็นไปได้ เพราะฐานดัชนีราคาผู้บริโภคปีก่อนค่อนข้างสูง จะเป็น Sentiment เชิงบวกให้กับกลุ่ม Yield Play เช่น  GULF,BGRIM, SAWAD,ADVANC,3BBIF เป็นต้น