บลจ.กสิกรไทยมอง Q2 หุ้นสหรัฐฯ อาจปรับฐาน จังหวะทยอยสะสม

HoonSmart.com>> บลจ.กสิกรไทย มองเงินเฟ้อสหรัฐฯ ลดลงช้า เฟดอาจหั่นดอกเบี้ยน้อยกว่าตลาดคาดการณ์ไว้ต้นปี กดตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีโอกาสปรับฐานในไตรมาส 2 นี้ จับตาผลประกอบการไตรมาส 1/67 ด้านกลุ่มเทคเริ่มเห็นการเติบโต ได้ประโยชน์หากเฟดลดดอกเบี้ยปีนี้ คงคำแนะนำ ทยอยสะสมหุ้นสหรัฐฯ เพิ่ม ช่วงตลาดปรับตัวลง

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด (KAsset) เผย Investment Weekly (29 เม.ย.-3 พ.ค.67) สัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐฯประกาศตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัวซึ่งออกมาผสมผสาน อาทิ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของเดือนเม.ย.ชะลอตัว ยอดขายบ้านใหม่เดือนมี.ค.พุ่งขึ้นดีกว่าคาด แต่สิ่งที่ตลาดให้ความสนใจคือ GDP ไตรมาส 1/2567 (ประมาณการครั้งที่ 1) ที่ออกมาต่ำกว่าตลาดคาดค่อนข้างมาก โดยอยู่ที่ 1.6% (เทียบรายไตรมาส) ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 2.4% และชะลอจากไตรมาสก่อนหน้าที่ 3.4% แต่หากมาดูในรายละเอียดของ GDP จะเห็นว่าการบริโภคและการลงทุนยังคงเติบโตเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่แล้ว ขณะที่ส่วนที่ชะลอตัวคือการใช้จ่ายของรัฐบาลและการส่งออก เราจึงยังคงมุมมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯเป็นภาพของ Soft Landing ไม่ได้ชะลอลงอย่างมีนัยยะ

อีกตัวเลขที่นักลงทุนจับตา คือ ดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ Fed ให้ความสำคัญ ปรับตัวขึ้น 2.8% ในเดือนมี.ค. (เทียบรายปี) สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ระดับ 2.6% จากระดับ 2.8% ในเดือนก.พ. ส่วนดัชนี PCE ทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.7% ในเดือนมี.ค. (เทียบรายปี) สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ระดับ 2.6% จากระดับ 2.5% ในเดือนก.พ. ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความกังวลว่าอัตราเงินเฟ้ออาจชะลอตัวช้าลง และทำให้ Fed จะต้องคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับสูงนานขึ้น ล่าสุดตลาด (CME FedWatch Tool) สะท้อนว่าการปรับลดดอกเบี้ยของ Fed ในปีนี้จะลดลงเหลือเพียง 1 ครั้ง

สำหรับมุมมองการลงทุน จากเงินเฟ้อที่ไม่ได้ปรับตัวลงเร็ว และ Fed ที่อาจจะไม่ได้ลดดอกเบี้ยมากเท่าที่ตลาดเคยคาดไว้ช่วงต้นปี ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯอาจจะปรับฐานได้ในช่วงไตรมาสสองนี้ นอกจากนี้ ตลาดกำลังอยู่ในช่วงทยอยประกาศงบการเงินของบริษัทจดทะเบียนประจำไตรมาส 1 ซึ่งหากออกมาน่าผิดหวังจะเพิ่มแรงกดดันต่อตลาดในช่วงสั้นนี้ อย่างไรก็ดี กำไรของบริษัทจดทะเบียนในอุตสาหกรรมอื่นๆ นอกจากเทคโนโลยีเริ่มเห็นการเติบโตมากขึ้น และจะได้ประโยชน์หาก Fed ปรับลดดอกเบี้ยในปีนี้ เราจึงคงคำแนะนำให้นักลงทุนสามารถเข้าทยอยสะสมหุ้นสหรัฐฯ เพิ่มได้ในช่วงที่ตลาดปรับตัวลง

สำหรับ Fund of the Week หุ้นต่างประเทศ หลังจากนักลงทุนคลายความกังวลประเด็นความไม่สงบในตะวันออกกลางและกลับมาให้น้ำหนักกับงบการเงินที่กำลังทยอยประกาศออกมา โดยเฉพาะกลุ่มเทคฯ ของสหรัฐฯ ฝั่งญี่ปุ่น BOJ คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0-0.1% ในการประชุม 26 เม.ย. ตามคาด ส่งผลให้ค่าเงินเยนร่วงต่ำสุดในรอบ 34 ปี หนุนตลาดหุ้นญี่ปุ่น

ส่วนหุ้นไทย ได้รับปัจจัยหนุนจากผลประกอบการของกลุ่มธนาคารในไตรมาส 1/2567 ออกมาดีกว่าคาด

ด้านตราสารหนี้ต่างประเทศ นักลงทุนลดความหวังที่ Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ลง โดยล่าสุดตลาด (CME FedWatch Tool) สะท้อนการปรับลดดอกเบี้ยของ Fed ในปีนี้จะลดลงเหลือเพียง 1 ครั้ง ส่งผลให้ Bond Yield 10 ปี ของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นทะลุระดับ 4.7% สูงที่สุดในรอบ 6 เดือน

ตราสารหนี้ไทย แนะนำลงทุนในทั้งพันธบัตรและตราสารหนี้ภาคเอกชน จากอัตราผลตอบแทนที่อยู่ในระดับน่าสนใจและวัฎจักรดอกเบี้ยขาขึ้นที่สิ้นสุดลง แม้มีความเสี่ยงที่จะผันผวนในช่วงเวลาที่การลดดอกเบี้ยอาจล่าช้าออกไป

ส่วนทองคำ คาดการณ์การลดดอกเบี้ยของ Fed ถูกเลื่อนออกไป จำกัดผลตอบแทนจากการเข้าซื้อทองคำในตอนนี้

ขณะที่ราคาสัญญาน้ำมันดิบ WTI ได้อานิสงส์จากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ขณะที่ความไม่สงบในตะวันออกกลางจะยังคงมีอยู่ แต่นักลงทุนคาดว่าจะไม่ลุกลามเป็นวงกว้าง และกลับมาให้น้ำหนักกับปัจจพื้นฐานอย่างอุปสงค์และอุปทานในตลาดน้ำมัน

ทั้งนี้ ข้อมูลจัดทำ ณ วันที่ 29 เม.ย.67