DELTA กำไรโค้งแรก 4,307 ลบ. โต 19.2% ยอดขายเพิ่มขึ้น 17.6%

HoonSmart.com>> “เดลต้า อีเลคโทรนิคส์” (DELTA) อวดกำไรไตรมาส 1/67 ที่ 4,307 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.2% จากงวดปีก่อน กวาดยอดขายสินค้าและบริการ 37,989 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.6% รายได้กลุ่มกลุ่มธุรกิจพาวเวอร์อิเล็คทรอนิกส์และกลุ่มโซลูชั่นสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าเติบโต

บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) หรือ DELTA เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2567 มีกำไรสุทธิ 4,307.51 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.35 บาท เพิ่มขึ้น 19.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 3,614.46 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.29 บาท

บริษัทฯ มียอดขายสินค้าและบริการจำนวน 37,989 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.6% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จากการเติบโตที่ฟื้นตัวของรายได้กลุ่มโซลูชั่นสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle Solutions)ควบคู่กับความต้องการที่เร่งตัวขึ้นในระบบไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง สำหรับโครงสร้างพื้นฐานคอมพิวเตอร์เพื่อการประมวลผลสมรรถนะสูง ซึ่งรองรับแอพพลิเคชั่นที่มีการใช้งานข้อมูลเป็นจำนวนมาก อาทิ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มียอดขายชะลอตัวจากฐานสูงในปีที่แล้วสำหรับสินค้ากลุ่มเซิร์ฟเวอร์เพาเวอร์ทั่วไป และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับดาต้าเซ็นเตอร์อื่นๆ รวมถึงกลุ่มพัดลมและระบบจัดการความร้อน (Fan & Thermal Management)กลุ่มผลิตภัณฑ์ระบบอัตโนมัติสำหรับภาคอุตสาหกรรม (Industrial Automation) และกลุ่มผลิตภัณฑ์โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ยังคงได้รับผลกระทบจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อทยอยผ่อนคลายโดยปัจจัยอุปสงค์อ่อนตัวจากไตรมาสก่อนได้ส่งผลต่อเนื่องถึงต้นปี 2567 นี้ ร่วมกับความผันผวนที่มากขึ้นในตลาดยังเป็นแรงกดดันต่อภาถธุรกิจเทคโนโลยี

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีมุมมองระมัดระวังสำหรับอุปสรรคในระยะส้ันที่มีผลต่อการดำเนินงาน แต่ยังคงมุมมองเชิงบวกสำหรับแนวโน้มธุรกิจในระยะยาว จากฐานลูกค้าที่กระจายตัวดีในภูมิภาคหลัก และกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายครอบคลุม ส่งผลให้เดลต้ามีศักยภาพการเติบโตสูงในธุรกิจที่สอดคล้องกับแนวโน้มการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีแห่งอนาคต

กำไรข้ันต้นในไตรมาสนี้มีจำนวน 7,972ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.7% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ขับเคลื่อนโดยการเติบโตของยอดขายที่เพิ่มขึ้นภายใต้กลุ่มธุรกิจพาวเวอร์อิเล็คทรอนิกส์และกลุ่มโซลูชั่นสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อนหน้า แต่ลดลงจากไตรมาสที่แล้ว เนื่องจากการรับรู้ผลกระทบของการปรับลดมูลค่าสินค้าคงคลังเพื่อสะท้อนต้น ทุนวัตถุดิบที่มีราคาตลาดต่ำลงในปีนี้สอดคล้องกับสถานการณ์ห่วงโซ่อุปทานในตลาดโลกที่ทยอยผ่อนคลาย

ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (รวมการวิจัยและพัฒนา) มีจำนวน 4,252 ล้านบาทสูงขึ้น 31.4% จากปีก่อนหน้า เนื่องจากการบันทึกค่าบริการเทคนิคจ่าย เป็นส่วนหนึ่งของค่าใช้จ่ายในการขาย ที่สอดคล้องกับรายได้ส่วนเพิ่มจากกลุ่มสินค้า ซึ่งได้รับบริการด้านเทคนิคและการพัฒนาผลิตภัณฑ์สนับสนุนจากกลุ่มบริษัทแม่เดลต้า

กำไรจากการดำเนินงานในไตรมาสนี้มีจำนวน 3,720 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไร 9.8% ลดลงจาก 10.8% ของงวดเดียวกันในปีก่อน เนื่องจากการเติบโตของยอดขายในกลุ่มสินค้าที่แตกต่างกันและค่าใช้จ่ายในการขายที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้บริษทั ฯ ได้มีการบันทึกรายได้อื่น ๆ เพิ่มเติม ส่งผลให้กำไรสุทธิในไตรมาสนี้เติบโต 19.2% จากปีก่อนหน้า