GULF เซ็นซื้อขายหุ้น BWG, ETC ร่วมพัฒนาโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม

HoonSmart.com>>”กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์”(GULF) แจ้งบริษัทย่อย”กัลฟ์ เวสท์ ทู เอ็นเนอร์จี โฮลดิ้งส์” (GWTE) ลงนามสัญญาซื้อขายหุ้นบริษัท เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ (ETC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ”เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน”(BWG) และยังได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นกับ BWG เพื่อร่วมพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม ภายหลังจากการดำเนินธุรกรรม กลุ่มบริษัทฯ จะมีโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมในประเทศไทยที่ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟภ. ภายใต้รูปแบบ Feed-in-Tariff (FiT) เป็นจำนวนทั้งสิ้น 15 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญา 112.50 เมกะวัตต์

บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) แจ้งว่า เมื่อวันที่ 22 เม.ย.67 บริษัท กัลฟ์ เวสท์ ทู เอ็นเนอร์จี โฮลดิ้งส์ (GWTE)ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 100 ได้ลงนามสัญญาซื้อขายหุ้นกับบริษัท เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ (ETC) เพื่อร่วมพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม นอกจากนี้ GWTE ยังได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นกับ บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน (BWG) เพื่อร่วมพัฒนาโครงการโรงงานผลิตเชื้อเพลิงแข็งจากขยะ
อุตสาหกรรม โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1. สัญญาซื้อขายหุ้นระหว่าง GWTE กับ ETC
• GWTE ได้ร่วมลงนามสัญญาซื้อขายหุ้นกับ ETC เพื่อเข้าซื้อหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 50.00 ของบริษัท เก็ท กรีน พาวเวอร์ (GGP) ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมจำนวน 10 โครงการ ที่ได้ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เป็นระยะเวลา 20 ปี ไปเมื่อวันที่ 16 ต.ค.66 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้โครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมดังกล่าวเป็นโรงไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (VSPP) มีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญาจำนวน 8 เมกะวัตต์ต่อโครงการ รวมกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญาทั้งสิ้น จำนวน 80 เมกะวัตต์ และมีมูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้นประมาณ 15,000 ล้านบาท โดยมีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 69

• ETC ทำการซื้อหุ้นเพิ่มทุนในบริษัท ซันเทค อินโนเวชั่น พาวเวอร์ (SIP)ซึ่งเป็นการเข้ามาถือหุ้นร่วมกับ GWTE และ บริษัท เวสท์เทค เอ็กซ์โพเนนเชียล (WTX) เพื่อพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมจำนวน 2 โครงการ โดยภายหลังจากการเพิ่มทุนดังกล่าว ท าให้สัดส่วนการถือหุ้นใน SIP ของ GWTE WTX และ ETC อยู่ที่ร้อยละ 34.00 33.00 และ 33.00 ตามลำดับ ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมทั้ง 2 โครงการ ภายใต้ SIP มีขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวม 16 เมกะวัตต์ ซึ่งได้เข้าลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟภ. เป็นระยะเวลา 20 ปีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 16 ต.ค.66 ที่ผ่านมา

2. สัญญาซื้อขายหุ้นระหว่าง GWTE กับ BWG
• GWTE และ BWG ได้ลงนามสัญญาซื้อขายหุ้นเพื่อเข้าซื้อหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 50.00 ของบริษัท เซอร์คูลาร์แคมป์ (CC)ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงการโรงงานผลิตเชื้อเพลิงแข็งจากขยะอุตสาหกรรม จำนวน 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้นประมาณ 2,600 ล้านบาท และมีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี
68 โดย CC จะเป็นผู้จัดหาเชื้อเพลิงขยะอุตสาหกรรม เพื่อส่งให้โรงไฟฟ้าในกลุ่ม GWTE ใช้ในการผลิตไฟฟ้าต่อไป

ทั้งนี้ ภายหลังจากการดำเนินธุรกรรมดังกล่าวข้างต้น กลุ่มบริษัทฯ จะมีโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมในประเทศไทยที่ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟภ. ภายใต้รูปแบบ Feed-in-Tariff (FiT) เป็นจำนวนทั้งสิ้น 12 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวม 96 เมกะวัตต์ซึ่งมีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 69 และมีโครงการโรงงานผลิตเชื้อเพลิงแข็งจากขยะอุตสาหกรรมจำนวน 3 โครงการซึ่งมีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 68 ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติมในการพัฒนาโครงการ บริษัทฯ จะแจ้งรายละเอียดให้ทราบต่อไป

ด้านบริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน (BWG) แจ้งว่า เมื่อวันที่ 22 เม.ย.67 บริษัทฯ ได้มีการลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นกับบริษัท กัลฟ์ เวสท์ ทู เอ็นเนอร์จี โฮลดิ้งส์ (GWTE) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) ถือหุ้นร้อยละ 100 เพื่อร่วมพัฒนาโครงการ โรงงานผลิตเชื้อเพลิงจากขยะอุตสาหกรรม นอกจากนี้ บริษัท เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ (ETC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ยังได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นกับ GWTE เพื่อร่วมพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรม โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1. การลงนามสัญญาซื้อขายหุ้นระหว่าง ETC กับ GWTE เพื่อเข้าร่วมลงทุนในสัดส่วนร้อยละ 50.00 ของ GGP ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมจำนวน 10 โครงการ ตามที่ได้ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (“กฟภ.”) เมื่อวันที่ 16 ต.ค.66 เป็นระยะเวลา
20 ปีเพื่อพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม ขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญา จำนวน 8 เมกะวัตต์ต่อโครงการ รวมทั้งสิ้น 80 เมกะวัตต์ (1 บริษัทย่อย : 1 โครงการ : 8 เมกะวัตต์)

2. การลงนามสัญญาซื้อขายหุ้นระหว่าง BWG กับ GWTE เพื่อเข้าร่วมลงทุนในสัดส่วนร้อยละ 50.00 ของบริษัท เซอร์คูลาร์ แคมป์ (CC) ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงการโรงงานผลิตเชื้อเพลิงจากขยะอุตสาหกรรม จำนวน 3 โครงการ โดย CC จะเป็นผู้ผลิตเชื้อเพลิงขยะอุตสาหกรรม เพื่อส่งให้โรงไฟฟ้าต่อไป

3. การลงนามสัญญาซื้อขายหุ้นระหว่าง ETC กับ GWTE และบริษัท เวสท์เทค เอ็กซ์โพเนนเชียล (WTX) เพื่อให้ ETC เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นในโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมจำนวน 2 โครงการ ภายใต้บริษัท ซันเทค อินโนเวชั่น พาวเวอร์ (SIP) ด้วยการซื้อหุ้นเพิ่มทุน โดยภายหลังจากการเพิ่มทุนดังกล่าวแล้ว ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นใน SIP ของ ETC GWTE และ WTX อยู่ที่ร้อยละ 33.00 34.00 และ 33.00 ตามลำดับ โรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมทั้ง 2 โครงการ ภายใต้ SIP มีขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญา รวม 16 เมกะวัตต์ ซึ่งได้เข้าลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟภ. เป็นระยะเวลา 20 ปี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา