CGSI ปรับลดประมาณการกำไรปี 68-70 กลุ่มโรงแรม แนวโน้มท่องเที่ยวอึมครึม

HoonSmart.com>>บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิในปี 2568-2570 กลุ่มโรงแรม ท่องเที่ยวมีแนวโน้มอึมครึมจากปัจจัยลบทั้งใน-นอกประเทศ แต่ยังแนะ”เพิ่มน้ำหนักลงทุน”กลุ่มโรงแรม ให้ ERW และ SHR เป็นหุ้น Top pick หลังราคาลงลึก

บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ก่อนที่สหรัฐฯจะมีมาตรการภาษีตอบโต้ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยเผชิญกับแรงกดดันจากความกังวลด้าน ความปลอดภัยในการท่องเที่ยวและเหตุแผ่นดินไหวอยู่แล้ว จึงเชื่อว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาไทยในครึ่งหลังของปี 68 นี้ น่าจะได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งเป็นผลพวงจากมาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ จึงคาดการณ์สถิตินักท่องเที่ยวชาวต่างชาติของไทยปีนี้น่าจะลดลง 3% yoy เป็น 34.5 ล้านคน ก่อนจะเพิ่มเป็น 36.3 ล้านคนในปี 2569 เทียบกับ 35.5 ล้านคนในปี 2567 ทั้งนี้ไทยเคยต้อนรับนักท่องเที่ยว 40 ล้านคนในปี 2562

ในไตรมาส 1/2568 ไทยต้อนรับนักท่องเที่ยว 9.5 ล้านคน เพิ่มขึ้น 2% yoy แต่พบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจากจีนและเกาหลีลดลง 24% และ 11% yoy ตามลำดับ ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวจากยุโรป, สหรัฐฯและอินเดียยังเติบโตดี

ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI มองว่า การที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีแนวโน้มอ่อนตัวลง อาจทำให้โรงแรมลดราคาหรือจัดแคมเปญโปรโมชั่นเชิงรุกมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้รายได้และมาร์จินของผู้ประกอบการลดลง จึงเชื่อว่ากำไรสุทธิของโรงแรมน่าจะลดลงมากกว่ารายได้ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัว ซึ่งเป็นกรณีเดียวกันกับช่วงที่เกิดวิกฤตทางการเงินโลกในปี 2551-2552

จึงปรับลดประมาณการกำไรสุทธิในปี 2568-2570 ของ MINT 12-30%, CENTEL 9-12%, ERW 11-18%, และ SHR 8-31% เนื่องจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีแนวโน้มอึมครึมจากปัจจัยลบทั้งในและนอกประเทศ โดยหลังปรับลดประมาณการกำไรดังกล่าวแล้ว คาดว่าผู้ประกอบการโรงแรมทุกบริษัทยกเว้น SHR จะมีกำไรลดลงในปี 68 ก่อนจะกลับมาฟื้นตัวในปี 69

อย่างไรก็ตาม ยังแนะนำเพิ่มน้ำหนักการลงทุน (Overweight) กลุ่มโรงแรม โดยมี ERW และ SHR เป็นหุ้น Top pick แม้ว่าผลกำไรของกลุ่มโรงแรมจะได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก แต่เชื่อว่าราคาหุ้นน่าจะสะท้อนแนวโน้มการอ่อนตัวของอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ไปแล้ว โดยเฉพาะ ERW และ SHR ที่มีราคา underperform คู่แข่งอย่างมีนัยสำคัญ โดย YTD ราคา ERW -41% และ SHR -28% เทียบกลุ่ม -9%

ดังนั้น ERW และ SHR จึงมีการประเมินมูลค่าน่าสนใจกว่าคู่แข่ง โดยราคาหุ้นทั้งสองบริษัทซื้อขายอยู่ที่ P/E ประมาณ 13 เท่าในปี 69 เทียบกับ P/E เฉลี่ยของคู่แข่งที่ 15 เท่า ขณะที่เชื่อว่าการกลับมาของนักท่องเที่ยวชาวจีนจะส่งผลดีต่อ ERW และความตึงเครียดทางการค้าที่ลดลงน่าจะส่งผลดีต่อ SHR ทั้งนี้คำแนะนำจะมี downside risk หากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวรุนแรง, ความเสี่ยงทางด้านภูมิรัฐศาสตร์เพิ่มขึ้น และเกิดความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศ ส่วนความตึงเครียดทางการค้าที่ลดลงและสถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นจะช่วยหนุนกลุ่มนี้