“หุ้นโตเกียว-เอเชีย”เช้านี้บวก แรงซื้อกลับหลังร่วงแรง

HoonSmart.com>> “ตลาดหุ้นโตเกียว” เช้านี้บวกแรงซื้อกลับ ด้าน “ตลาดหุ้นเอเชีย” ฟื้นตัวทั้งภูมิภาคจากถูกเทขายหนักในวันศุกร์กังวลสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ทวีความรุนแรง นักลงทุนจับตารายงานข้อมูลเศรษฐกิจ เพื่อประเมินทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลาง

ตลาดหุ้นโตเกียวเช้านี้ปรับตัวขึ้น ด้วยแรงช้อนซื้อ จากที่ร่วงลงแรงในปลายสัปดาห์ก่อนด้วยความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่รุนแรงขึ้น
      
ในกลุ่ม Prime Market กลุ่มที่นำการปรับขึ้น คือ กลุ่มพลังงานไฟฟ้าและก๊าซ กลุ่มธนาคาร และกลุ่มขนส่งทางอากาศ
      
เช้านี้เวลา 9.00 น. ตามเวลาในญี่ปุ่น เงินดอลลาร์อยู่ที่ 154.61-64 เยน จาก 154.57-67 เยน ในตลาดนิวยอร์ก และจาก 154.47-49 เยน ในตลาดโตเกียว เวลา 17.00 วันศุกร์
      
ณ เวลา 9.12 น. ในประเทศไทย
      
ดัชนี Nikkei 225 อยู่ที่ 37,264.13 จุด เพิ่มขึ้น 195.78 จุด, +0.53%

      
ตลาดหุ้นเอเชียปรับขึ้นทั้งภูมิภาค ฟื้นตัวจากที่เทขายหนักในวันศุกร์จากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ทวีความรุนแรง ขณะที่ในสัปดาห์นี้นักลงทุนจับตาการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจเพื่อประเมินทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลาง
      
ดัชนี MSCI Asia ไม่รวมญี่ปุ่นลดลง 3.7% ไปที่ระดับต่ำสุดรอบ 2 เดือนในสัปดาห์ที่แล้ว เป็นการลดลงรายสัปดาห์ที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม
      
จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้กำหนดเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้ธนาคารกลางจีน(People’s Bank of China ) คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ชั้นดี(Loan Prime Rates:LPR) อายุ 1 ปีและ 5 ปีไว้ที่ 3.45% และ3.95% ตามลำดับ สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาด
      
นอกจากนี้นักลงทุนจับตาความเคลื่อนไหวของตลาดจีน หลังเมื่อวันศุกร์ทางการประกาศมาตรการใหม่ เพื่อเสริมการเชื่อมโยงระหว่างแผ่นดินใหญ่และตลาดทุนฮ่องกง ซึ่งถือเป็นก้าวล่าสุดของประเทศในการขยายการเปิดกว้างทางการเงิน และเสริมความแข็งแกร่งให้ฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางทางการเงินระหว่างประเทศ
      
คณะกรรมการกำกับดูแลหลักทรัพย์ของจีน(China Securities Regulatory Commission) กล่าวว่า ด้วยความร่วมมือกับคู่ค้าในฮ่องกง จะขยายขอบเขตของกองทุน ETF ที่มีสิทธิ์ภายใต้โครงการเชื่อมโยงหุ้น และลดข้อกำหนดเกี่ยวกับขนาดของสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ และการถ่วงน้ำหนักดัชนี
      
มาตรการอื่น ๆ ได้แก่ การจัดตั้งทรัสต์เพื่อการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์หรือ REIT ไว้ในโปรแกรม และการทำให้มีการซื้อขายหุ้นจีนในสกุลเงินหยวนมากขึ้น รวมทั้งจะเปิดเสรีการขายกองทุนหุ้นที่จัดตั้งในฮ่องกงในจีนแผ่นดินใหญ่ และยกระดับการสนับสนุนบริษัทชั้นนำในแผ่นดินใหญ่ให้การจดทะเบียนในฮ่องกง
      
นอกจากนี้ยังมีมาตรการที่เอื้อต่อการการจัดหาเงินทุนของบริษัทเทคโนโลยี ที่รวมถึงการจดทะเบียนในต่างประเทศ และลดอัตราค่าคอมมิชชั่นที่เรียกเก็บจากกองทุนหุ้นที่เสนอขายต่อประชาชนทั่วไป
      
ส่วนประเทศอื่นๆ ในสัปดาห์นี้ ออสเตรเลียและมาเลเซียกำหนดรายงานเงินเฟ้อ ขณะที่ ธนาคารอินโดนีเซียจะมีการตัดสินใจเชิงนโยบาย ในขณะที่ค่าเงินรูเปียะฮ์ตกอยู่ภายใต้แรงกดดัน
      
ด้านธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)เข้าสู่ช่วงงดให้ความเห็นก่อนการประชุมในวันที่ 30 เมษายน-1 พฤษภาคมนี้
      
ดัชนี SSE ตลาดหุ้นจีนอยู่ที่ 3,066.81 จุด เพิ่มขึ้น 1.54 จุด, +0.05%
      
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงอยู่ที่ 16,577.99 จุด เพิ่มขึ้น 353.85 จุด, +2.18%   
      
ดัชนี Kospi ตลาดหุ้นเกาหลีอยู่ที่ 2,620.15 จุด เพิ่มขึ้น 28.29 จุด, +1.09%
      
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันอยู่ที่ 19,604.13 จุด เพิ่มขึ้น 77.01 จุด, +0.39%
      
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมลดลง 0.22 ดอลลาร์หรือ 0.26% ซื้อขายที่ 82.92 ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายนลดลง 0.82 ดอลลาร์ หรือ 0.94% ปิดที่ 86.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล