บล.กสิกรฯ มองหุ้น 1,300 เอาอยู่ ค่าเงินจ่อ 37 บาทสัปดาห์หน้า

HoonSmart.com>>บล.กสิกรไทย ให้แนวรับที่ 1,315 และ 1,300 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,340 และ 1,350 จุด หลังจากดิ่งแตะจุดต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี 5 เดือนที่ 1,330.24 จุด สอดคล้องตลาดต่างประเทศ จากสถานการณ์อิสราเอลและอิหร่านที่กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง ด้านค่าเงินบาท ธนาคารกสิกรไทยคาดแกว่งในกรอบ 36.70-37.20 บาท หลังทำสถิติอ่อนค่าสุดในรอบ 6 เดือนครั้งใหม่ 36.90 บาทสัปดาห์ที่ผ่านมา

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยมองหุ้นสัปดาห์ถัดไป (22-26 เม.ย.) ว่าดัชนีหุ้นมีแนวรับที่ 1,315 และ 1,300 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,340 และ 1,350 จุด ตามลำดับ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขส่งออกเดือนมี.ค.ของไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ และผลประกอบการไตรมาส 1/2567 ของบจ.ไทย

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคล ดัชนี PCE/Core PCE Price Index เดือนมี.ค. ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนเม.ย. (เบื้องต้น) ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/2567 รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ การประชุม BOJ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนเม.ย. (เบื้องต้น) ของญี่ปุ่น ยูโรโซน และอังกฤษ ตลอดจนการกำหนดอัตราดอกเบี้ย LPR เดือนเม.ย. ของจีน

หุ้นไทยร่วงลงแรงตั้งแต่วันทำการแรกของสัปดาห์หลังวันหยุดสงกรานต์ โดยเผชิญแรงขายหลักๆ จากกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ ท่ามกลางปัจจัยลบ อาทิ ประเด็นความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ความกังวลเกี่ยวกับการตรึงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับสูงเป็นเวลานานของเฟด หลังเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายส่งสัญญาณว่าไม่จำเป็นต้องรีบลดดอกเบี้ย รวมถึงแรงขายหุ้นกลุ่มการเงิน อาทิ แบงก์และไฟแนนซ์ หลังจากที่มีการทยอยรายงานผลประกอบการไตรมาส 1/2567

ทั้งนี้หุ้นไทยดิ่งลงต่อเนื่องจนถึงช่วงปลายสัปดาห์และแตะจุดต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี 5 เดือนที่ 1,330.24 จุด สอดคล้องกับทิศทางหุ้นต่างประเทศที่ปรับตัวลง หลังมีรายงานข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างอิสราเอลและอิหร่านที่กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง ซึ่งกระตุ้นให้เกิดแรงเทขายสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก

ในวันศุกร์ที่ 19 เม.ย. 2567 ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,332.08 จุด ลดลง 4.60% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 58,009.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.17% ส่วนดัชนี mai ลดลง 4.38% มาปิดที่ระดับ 382.54 จุด

ส่วนค่าเงินบาทสัปดาห์ถัดไป (22-26 เม.ย.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวที่ระดับ 36.70-37.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ

เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบอ่อนค่าตามภาพรวมของสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค และแรงขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ มีแรงหนุนในฐานะสกุลเงินปลอดภัยท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน ประกอบกับมีปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าที่คาด และท่าทีจากประธานเฟดและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟด ซึ่งหนุนการคาดการณ์ว่า เฟดอาจยืนอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับสูงไปอีกระยะ โดยจะยังไม่รีบปรับลดดอกเบี้ยในรอบการประชุมใกล้ๆ นี้

เงินบาทยังคงอ่อนค่าจนถึงช่วงปลายสัปดาห์ แต่กรอบการอ่อนค่าชะลอลงบางส่วนเพราะมีแรงประคองกลับจากการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลก ประกอบกับตลาดในฝั่งเอเชียระมัดระวังมากขึ้น หลังจากที่ทางการสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ตกลงที่จะหารือร่วมกันเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนอย่างใกล้ชิด

ในวันศุกร์ที่ 19 เม.ย. 2567 เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ระดับ 36.88 บาทต่อดอลลาร์ฯ หลังแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 6 เดือนครั้งใหม่ที่ 36.90 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 36.61 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันพฤหัสบดีก่อนหน้า (11 เม.ย. 67)

สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 17-19 เม.ย. 2567 นั้นกลับมาขายสุทธิหุ้นไทยถึง 10,504 ล้านบาท และมีสถานะเป็น Net Outflows ออกจากตลาดพันธบัตรไทย 3,742 ล้านบาท (ขายสุทธิพันธบัตรไทย 2,942 ล้านบาท และตราสารหนี้หมดอายุ 800 ล้านบาท)