ดาวโจนส์ปิดบวก 22 จุด วิตกดอกเบี้ย

HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 22 จุด ด้านดัชนี S&P500 , Nasdaq ลดลง แรงขายหุ้นเทคโนโลยี ตลาดกลับมากังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มเงินเฟ้อ นโยบายการเงินเฟดตรึงดอกเบี้ยสูงนาน ด้าน “ราคาน้ำมันดิบ WTI” ขยับขึ้น 4 เซนต์ ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดบวก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 18 เมษายน 2567 ปิดที่ 37,775.38 จุด เพิ่มขึ้น 22.07 จุด หรือ +0.06%

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,011.12 จุด ลดลง 11.09 จุด, -0.22%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,601.50 จุด ลดลง 81.87 จุด, -0.52%

ทั้งดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ต่างก็ลดลงเป็นวันที่ห้าติดต่อกัน สำหรับดัชนี S&P 500 ถือเป็นการลดลงติดต่อกันครั้งแรกนับตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม และเป็นการลดลงที่นานที่สุดสำหรับดัชนี Nasdaq นับตั้งแต่เดือนมกราคม

ดัชนีหลักๆ ก็มีแนวโน้มปิดสัปดาห์นี้ด้วยการปรับลงเช่นกัน ดัชนี S&P 500 ร่วงลงกว่า 2% แล้ว ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 0.6% และดัชนี Nasdaq ลดลงกว่า 3% จากการปรับตัวลงของหุ้นเทคโนโลยี ซึ่งก็ส่งผลให้ดัชนีมีแนวโน้มปิดลบเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน ซึ่งจะเป็นการลดลงที่นานที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2022

ควินซี ครอสบี หัวหน้านักกลยุทธ์ระดับโลกของ LPL Financial กล่าวว่า นี่เป็นหนึ่ง ในการปรับตัวลงในวงกว้างที่สุดที่เคยมี ตอนนี้สิ่งที่ให้ความสนใจคือจะเห็นจุดต่ำสุดที่ต่ำลงหรือไม่

การปรับตัวลงมาจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อและนโยบายการเงินจากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)

MRB Partners คาดการณ์ว่า เงินเฟ้อจะอยู่ที่ระดับ 3% to 4% และดัชนีการใช้จ่ายส่วนบุคคล(Personal Consumptions Expenditures:PCE) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ จะกลับมาเร่งตัวขึ้นในปลายปี

เจ้าหน้าที่เฟดยิ่งทำให้มีความกังวลมากขึ้นในวันพฤหัสบดี โดยนายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดแห่งแอตแลนตาย้ำว่า เขาไม่คาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงสิ้นปี

นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดนิวยอร์กกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า เขาไม่เห็นถึง ความเร่งด่วนในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และดอกเบี้ยจะต้องลดลงในบางจุด แต่ต้องขับเคลื่อนโดยเศรษฐกิจ

นักลงทุนได้ลดความคาดหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น โดยมองว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนกันยายน และมีโอกาสที่จะลดอัตราดอกเบี้ยครั้งที่สองในปีนี้

ขณะนี้เดียวกันข้อมูลเศรษฐกิจที่เผยแพร่บ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานยังแข็งแกร่ง โดยจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว อยู่ที่ระดับ 212,000 ราย ไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า แต่ต่ำกว่า 215,000 ราย ที่นักวิเคราะห์คาด

ด้านเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียรายงานว่า ดัชนีภาคการผลิตในภูมิภาคมิด-แอตแลนติกเดือนเมษายนเพิ่มขึ้น 12.3 จุด มาที่ +15.5 และสูงกว่า +2.5ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์

นักลงทุนจึงจับตาผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนอย่างใกล้ชิดว่าสอดคล้องกับคาดการณ์หรือไม่

หุ้นเทสลาลดลงราว 3% แตะระดับต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์

หุ้นเมตา แลพตฟอร์มสบวก กว่า 3% หลังบริษัทให้ข้อมูลล่าสุดเรื่อง Meta AI

นอกจากนี้นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 30 เมษายน – 1 พฤษภาคมนี้

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก ท่ามกลางการรายงานผลประกอบการที่เริ่มมากขึ้น ด้วยแรงหนุนจากกลุ่มอุตสาหกรรมหลัง หุ้น ABB บริษัทด้านวิศวกรรมของสวิตเซอร์แลนด์พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากผลประกอบการที่แข็งแกร่ง

หุ้น ABB บวก 6.3% หลังรายงานกำไรไตรมาสแรกดีกว่าคาดและส่งสัญญานการเติบโตที่เร็วขึ้นในอีกหลายเดือนข้างหน้า ซึ่งเป็นแรงหนุนให้กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมและบริการบวก 0.7%

กลุ่มโทรคมนาคมเพิ่มขึ้น 1% โดยได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้น 6.7% ของหุ้น Tele2 ของสวีเดนหลังจากรายได้จากบริการในไตรมาสแรกและผลประกอบการพุ่งสูงขึ้น

กลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้น 1.9% นำโดย Bankinter ที่เพิ่มขึ้น 5.3% และหุ้น Millennium bcp ธนาคารในโปรตุเกสเพิ่มขึ้น 6% เนื่องจากจะกลับมาจ่ายเงินปันผลอีกครั้งหลังจากหายไปหนึ่งปี

หุ้น Sartorius ที่จดทะเบียนในเยอรมนีดิ่ง15.9% และราคาหุ้นที่จดทะเบียนในฝรั่งเศสลดลง 15.7% หลังจากที่ปริมาณการสั่งซื้อและรายได้ไตรมาสแรกต่ำกว่าคาด

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 499.70 จุด เพิ่มขึ้น 1.18 จุด, +0.24%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,877.05 จุด เพิ่มขึ้น 29.06 จุด, +0.37%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,023.26 จุด เพิ่มขึ้น 41.75 จุด, +0.52%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 17,837.40 จุด เพิ่มขึ้น 67.38 จุด, +0.38%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 4 เซนต์ หรือ 0.05% ปิดที่ 82.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายนลดลง 18 เซนต์ หรือ 0.21% ปิดที่ 87.11 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล