HoonSmart.com>>ททท.ผุดกลยุทธ์สั้น-ยาว ดึงนทท.จีนให้ได้กว่า 4 ล้านคน หลังสตอรี่ความปลอดภัยว่อนโซเชียลทำยอดหด สู้ศึกการแข่งขันจากประเทศเพื่อนบ้าน โหมโรงแคมเปญ “Sawasdee Nihao” ดึงกรุ๊ปทัวร์-กลุ่ม FIT ที่มีคุณภาพสูง พร้อมรุกไทยเที่ยวไทย
ในงาน “โครงการตลาดทุนพบภาครัฐ ททท.พบนักวิเคราะห์และนักลงทุนสถาบัน”ดำเนินรายการโดย ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO)
นายธีระศิลป์ เทเพนทร์ รองผู้ว่าการททท.ด้านนโยบายและแผน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กล่าวว่า ปีนี้ททท.ตั้งเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยว 37 ล้านคน จากปี 2567 ที่มี 35.5 ล้านคน แต่อาจจะเท่ากับปีที่ผ่านมาหลังจากที่นักท่องเที่ยวจีนลดลง อย่างไรก็ตามยังไม่ได้ปรับเป้ารายได้จากการท่องเที่ยวที่ 1.81 ล้านล้านบาท
สำหรับ 3 เดือนแรก ตลาดนักท่องเที่ยวยุโรป ตะวันออกกลาง อินเดีย ออสเตรเลีย ยังดีมีการใช้จ่ายต่อหัวสูง พักนาน ซึ่งกำลังจัดแคมเปญให้ตรงกับช่วงท่องเที่ยวของแต่ละประเทศ
ตลาดที่น่ากังวลคือ จีน และกำลังจับตาตลาดญี่ปุ่น และเกาหลี อย่างใกล้ชิด เพราะนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ กับนโยบายการดึงนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นและเกาหลีของจีนกำลังเริ่มต้น
3 เดือนแรกของปี 2568 จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่มาไทยลดลงเป็นอันดับ 3 จากปี 2567 ที่ไทยครองแชมป์เอเชีย รับนักท่องเที่ยวจีนสูงสุดถึง 6.73 ล้านคน แซงหน้าญี่ปุ่น 5.83 ล้านคน และเกาหลีใต้ 4.4 ล้านคน
อย่างไรก็ตาม 3 เดือนแรกของปี 2568 (ม.ค. – มี.ค.) จำนวนการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทย ลดลง โดยไทยรั้งอันดับ 3 เหลือ 1.3 ล้านคนโดยนักท่องเที่ยวจีนเดินทางไปญี่ปุ่น มากสุด 1.7 ล้านคน และเวียดนาม 1.6 ล้านคน
สาเหตุของการลดลง มาจากหลายปัจจัย ประกอบด้วย ความกังวลด้านความปลอดภัย ที่เกิดจากกรณีซิงซิง การแข่งขันด้านการตลาดและโปรโมชั่นจากประเทศเพื่อนบ้าน นโยบายสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศของจีน
และต้นทุนการเดินทางที่สูงขึ้น
นายธีระศิลป์ กล่าวว่า แม้จะเผชิญกับความท้าทาย แต่ไทยยังคงเดินหน้าส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านมาตรการเชิงรุก เช่น เสริมความมั่นใจด้านความปลอดภัย การทำตลาดแบบตรงจุด การอำนวยความสะดวกด้านวีซ่าและการเดินทาง เพิ่มคุณภาพบริการให้ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพ
ภาครัฐและภาคเอกชนไทยยังคงมีเป้าหมายที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนให้กลับมาฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งตลอดปีนี้ เพื่อรักษาความเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางอันดับต้น ๆ ของเอเชีย
“ปีนี้คาดว่านักท่องเที่ยวจีนจะเข้ามาไทยกว่า 4 ล้านคน จากปีที่ผ่านมาก็ว่า 6 ล้านคน โดยจะดึงกลุ่มเข้ามาเที่ยวเอง(FIT) ที่มีคุณภาพ มีการใช้จ่ายต่อหัวสูงกว่าที่มาเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์เข้ามาเพิ่มขึ้น เพื่อชดเชยรายได้จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่หายไปแม้ไม่ได้ทั้งหมดก็ตาม”นายธีระศิลป์ กล่าว
นายธีระศิลป์ กล่าวว่า ททท.ได้ทำกลยุทธ์กระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพื่อรองรับโอกาสสำคัญในการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ครบรอบ 50 ปี ภายใต้แคมเปญ “Sawasdee Nihao”
แนวทางระยะสั้น มุ่งเน้นใน 3 ด้านหลัก ได้แก่
1.การปรับภาพลักษณ์ด้านความปลอดภัย เพิ่มการสื่อสารข้อมูลเชิงบวก และจัดการข้อมูลด้านลบบนโซเชียลมีเดีย
การกระตุ้นการเดินทางแบบ Group Tour สนับสนุนการเดินทางผ่าน Charter Flight และ Incentive Group จากเมืองรองในจีน
2. กระตุ้นการเดินทางกลุ่ม FIT ร่วมมือกับ OTA (Online Travel Agency) และบริษัทนำเที่ยว เจาะกลุ่มครอบครัวและคนรุ่นมิลเลนเนียล
3.แนวทางระยะยาว มุ่งเน้น “สร้างสมดุลระหว่างกลุ่ม Group Tour และ FIT” เพื่อให้การเดินทางมีความยั่งยืนและหลากหลายมากยิ่งขึ้น
ในโอกาสครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ททท. ยังเตรียมจัดกิจกรรมภายใต้โครงการ “Sawasdee Nihao” อาทิ Tourism Forum ระดับ G2G, Table Top Sales ระหว่างผู้ประกอบการไทย-จีน,Welcome Reception สำหรับนักท่องเที่ยวและผู้แทน ,Agent & Media Mega Fam Trip เพื่อสร้างการรับรู้เชิงบวกในวงกว้าง
พร้อมกันนี้ ยังใช้กลยุทธ์ Celebrities Marketing ผ่านการปรับภาพลักษณ์ประเทศไทย โดยดึงศิลปินและคนดังชาวจีนร่วมประชาสัมพันธ์ เช่น “Jackson Wang” ภายใต้แคมเปญ Thailand is Jackson’s Safe Zone…Let’s Go! เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กลุ่มเป้าหมายตัดสินใจเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังเดินหน้าส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ ปี 2568 ภายใต้แนวคิด “Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025” มุ่งกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศผ่านแคมเปญ “สุขทันที…ที่เที่ยวไทย” โดยเน้นการสร้างแรงจูงใจผ่านการนำเสนอเสน่ห์เฉพาะถิ่นของแต่ละพื้นที่ พร้อมผลักดันให้เกิดการกระจายการเดินทางจากเมืองหลักไปยังเมืองรอง
จับกลุ่มเป้าหมายที่เป็น กลุ่มผู้หญิง กลุ่มครอบครัว Millennial กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้มีรายได้สูง กลุ่ม Gen-Y
กลุ่มครอบครัวหลายเจเนอเรชัน
ทั้งนี้ จะใช้กิจกรรมขนาดใหญ่ (Big Events) ร่วมกับประสบการณ์เทศกาลท้องถิ่น (Local Festival Experience) เป็นกลไกหลักในการดึงดูดนักท่องเที่ยว
นอกจากนี้ ยังผลักดันสินค้าท่องเที่ยวและบริการที่ผ่านความยั่งยืน โดยใช้ Thailand Tourism Awards (TTA) และแนวทาง Sustainable Tourism Goal (STGs) รวมถึงการส่งเสริมโรงแรมที่ผ่านเกณฑ์ CF Hotels เพื่อให้ทุกกลุ่มนักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงประสบการณ์การท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและยั่งยืนตลอดเส้นทาง
