HoonSmart.com>> “บล.คิงส์ฟอร์ด” มองแนวโน้มหุ้นปรับฐานลงรับปัจจัยเสี่ยงตะวันออกกลาง ก่อนทรงตัวรอประเมินสถานการณ์ วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,370 – 1,380 จุด แนวต้าน 1,390 – 1,395 จุด แนะนำซื้อเก็งกำไร PTTEP,PTT,TOP ทยอยซื้อ TU,AAI,ITC,ICHI,SAPPE เป็นกลุ่มปลอดภัยและสินค้าจำเป็น
บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,370 – 1,380 จุด แนวต้าน 1,390 – 1,395 จุด คาดปรับฐานลงรับปัจจัยเสี่ยงตะวันออกกลาง ก่อนทรงตัวรอประเมินสถานการณ์ แนะนำซื้อเก็งกำไร PTTEP,PTT,TOP ทยอยซื้อ TU,AAI,ITC,ICHI,SAPPE เป็นกลุ่มปลอดภัยและสินค้าจำเป็น
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ DJIA +0.17%, S&P500 -0.21%, Nasdaq -0.12% โดย DJIA ได้แรงหนุนจากกำไร Q1/67 ของยูไนเต็ดเฮลธ์ดีกว่าคาด ขณะที่กลุ่มอสังหา -1.53%, สาธารณูปโภค -1.36% หลังประธานเฟดเผยในงานเสวนาที่นิวยอร์ก ชี้ตลาดแรงงานสหรัฐแข็งแรงดี และเงินเฟ้อสหรัฐยังลดลงช้า ดังนั้นเฟดอาจจำเป็นต้องตรึงดอกเบี้ยสูงนานกว่าคาด ส่งผลให้ US Bond Yield 10 ปีปรับขึ้นอยู่ที่ 4.679% ค่ำวันนี้ติดตามภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคจาก Beige Book, ความเห็นเจ้าหน้าที่เฟด
ราคาน้ำมันดิบ WTI พ.ค. ลดลง 0.05 ดอลลาร์ อยู่ที่ 85.36 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน Brent มิ.ย. ลดลง 0.08 ดอลลาร์ อยู่ที่ 90.02 ดอลลาร์/บาร์เรล ช่วงแรกปรับขึ้นรับข่าวอิสราเอลเตรียมตอบโต้กลับ แต่ราคาปรับลดลง หลังประธานเฟดเผยอาจตรึงดอกเบี้ยสูงนานกว่าคาด ซึ่งอาจกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน ขณะที่ API เผยสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ทีผ่านมาเพิ่มขึ้น 4.1 ล้านบาร์เรล
ด้านทองคำ Comex Gold มิ.ย. ปรับขึ้น 24.80 ดอลลาร์ อยู่ที่ 2,407.80 /ออนซ์ เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงปัจจัยเสี่ยงในตะวันออกกลางสูงขึ้น
BitCoin เช้านี้ +0.61% อยู่ที่ 63,797 ดอลลาร์สหรัฐ
หุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ PTTEP (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย 175.00 บาท) ระยะสั้นได้รับ sentiment บวกจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น หนุนจากความกังวลสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกลางระหว่างอิสราเอลและอิหร่านจะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน
นอกจากนี้ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยบวกจากอุปทานที่ตึงตัวจากการควบคุมกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกจนถึงสิ้น 2Q67 ส่วนแนวโน้มผลประกอบการ 1Q67 ลดลงตามราคาน้ำมันและก๊าซฯ แต่จะเห็นการฟื้นตัวใน 2Q67 จากปริมาณขายของโครงการ G1 ที่เพิ่มเป็น 800 MMSCFD และราคาขายเฉลี่ยที่ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ
หุ้น ITC (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 23.70 บาท) กำไรสุทธิ 4Q66 อยู่ที่ 767 ลบ. +19%QoQ, +14%YoY เห็นการฟื้นตัวได้ดีชัดเจนต่อจาก 3Q66 จากการที่คู่ค้ากลับมาสต็อกสินค้าอีกครั้ง ส่วนการดำเนินงาน 1Q67 เบื้องต้นคาดว่า YoY ในแง่ยอดขายจะเห็นการเติบโตได้จาก ตัวเลขส่งออกอาหารสุนัขและแมวของไทย ก.พ.67 อยูที่ 7.26 พันล้านบาท, +41%YoY +12%MoM/ ตัวเลข ม.ค.-ก.พ.67 +28%YoY นอกจากนี้ ในแง่ของมาร์จิ้น เราคาดว่าจะยังทำได้ดีจากต้นทุนราคาปลาทูน่าและไก่ที่อยู่ในระดับไม่สูง
ทั้งนี้ ตลาดคาดว่าในปี67 และ68 กำไรสุทธิของ ITC จะอยู่ที่ระดับ 2,867 ล้านบาท (+26%YoY) และ 3,231 ล้านบาท (+13%YoY)