ดาวโจนส์ปิดทรุด 422 จุด เงินเฟ้อพุ่งสูงเกินคาด วิตกเฟดตรึงดอกเบี้ยสูงนาน

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐ 3 ดัชนีหลักปิดร่วง ดัชนีดาวโจนส์ทรุด 422 จุด -1.09% , S&P500 -0.95% ,Nasdaq -0.84% หลังรายงานเงินเฟ้อเดือนมี.ค.ร้อนแรงเกินคาด เพิ่มขึ้น 3.5% นักลงทุนวิตกเฟดเลื่อนปรับลดดอกเบี้ยออกไปจากที่คาดการณ์ไว้ ด้าน “ราคาน้ำมันดิบ” WTI เพิ่มขึ้น 98 เซนต์ ปิดที่ 86.21 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน Brent แตะ 90.48 ดอลลาร์/บาร์เรล ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดบวก

      
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 10เมษายน 2567 ปิดที่ 38,461.51 จุด ลดลง 422.16 จุด หรือ -1.09% หลังจากการรายงานข้อมูลเงินเฟ้อในเดือนมีนาคมที่ร้อนแรงเกินคาด ซึ่งอาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)เลื่อนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยออกไปจากที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้
      
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,160.64 จุด ลดลง 49.27 จุด, -0.95%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,170.36 จุด ลดลง 136.28 จุด, -0.84%
      
กระทรวงแรงงานรายงาน ดัชนีดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 3.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เร่งตัวขึ้นจาก 3.2% ในเดือนกุมภาพันธ์ และสูงกว่า 3.4% ที่นักวิเคราะห์คาด ส่วนเมื่อเทียบรายเดือนเพิ่มขึ้น 0.3%
      
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 3.8% เมื่อเทียบรายปี แต่สูงกว่า 3.7% ที่นักวิเคราะห์คาด และเมื่อเทียบรายเดือน
เพิ่มขึ้น 0.4%
      
ข้อมูลเงินเฟ้อที่ร้อนแรงทำให้นักลงทุนคาดว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยน้อยลงในปีนี้ โดยเครื่องมือ CME FedWatch ล่าสุดให้น้ำหนักประมาณ 80% ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับปัจจุบันในเดือนมิถุนายน นักลงทุนมากกว่าครึ่งยังคาดหวังว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมในเดือนกรกฎาคม ส่งผลให้เดือนกันยายนเป็นจุดที่มีแนวโน้มมากที่สุดที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรก
      
ความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลงอีก หลังจากการเปิดเผยรายงานการประชุมเดือนมีนาคมของเฟด ซึ่งสะท้อนถึงความกังวลของเจ้าหน้าที่เฟดว่า อัตราเงินเฟ้อไม่ลดลงเร็วพอที่จะไปสู่เป้าหมาย 2% ของเฟด และเจ้าหน้าที่เกือบทั้งหมดเชื่อว่าจะเป็นเหมาะสมที่จะลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงใดช่วงหนึ่ง
      
หลังการรายงานข้อมูล CPI อัตราผลตอบแทนพันธบัตรก็เพิ่มสูงขึ้น โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นมากถึง 20 จุดในบ่ายวันพุธ แตะระดับเกือบ 4.57% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปี เพิ่มขึ้นมาที่ใกล้ 5%
      
คริส ซัคคาเรลลี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนที่ปรึกษาอิสระ Alliance กล่าวว่า
จากรายงานเงินเฟ้อหลายครั้งที่สูงกว่าที่คาดติดต่อกัน ทำให้เป็นเรื่องยากมากขึ้นสำหรับเฟดในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเร็ว
      
เอริก ไดทัน ประธานและกรรมการผู้จัดการของ The Wealth Alliance กล่าวว่า แม้ว่าตลาดจะสามารถมองข้ามข้อมูลเงินเฟ้อที่ร้อนแรงในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ได้ แต่สัญญาณของราคาที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ชะลอการลงทุนในวันพุธ อย่างไรก็ตามภาวะกระทิงยังไม่หมดรอบ เพียงแต่เป็นการขายทำกำไรของนักลงทุนที่ราคาหุ้นปรับขึ้นไปมาก
      
หุ้นกลุ่มธนาคารและหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมปรับตัวลง โดยหุ้นเจพีมอร์แกนเชสลดลงประมาณ 0.9% และหุ้นฮันนี่เวลล์ ลดลง 1.4% จากความกังวลว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะกระทบเศรษฐกิจ ในกลุ่มเทคโนโลยีหุ้นไมโครซอฟต์ และหุ้นแอปเปิ้ลลดลง 0.7% และ 1.1% ตามลำดับ
      
กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เป็นกลุ่มใน S&P 500 ที่ปรับลงมากที่สุด โดยลดลงกว่า 4%
      
หุ้นกลุ่มพลังงานเป็นกลุ่มเดียวที่อยู่ในแดนบวก เพิ่มขึ้น 0.4% หลังราคาน้ำมันดิบสูงขึ้นไปใกล้ระดับสูงสุดรอบ 5 เดือน โดยหุ้นมาราธอนออยล์ หุ้นไพโอเนียร์ รีซอร์สเซส และหุ้นโคเทอร์รา เอ็นเนอร์จี้ ต่างเพิ่มขึ้น 1% ขึ้นไป .
      
หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์บวกกว่า 2% จากผลการดำเนินงานที่สูงกว่าคาด

      
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก จากที่ร่วงลงไประหว่างชั่วโมงซื้อขายหลังการรายงานข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนหันไปจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหภาพยุโรป(ECB)ในวันพฤหัสบดีนี้
      
ดัชนี STOXX 600 ฟื้นตัวหลังลดลงไปแตะระดับต่ำสุดรอบ 1 เดือนในระหว่างวัน นำโดยกลุ่มธนาคารและกลุ่มพลังงานที่เพิ่มขึ้น 0.9% และ 0.6% ตามลำดับ
      
ในช่วงแรกตลาดช็อคกับเงินเฟ้อสหรัฐที่สูงเกินคาด ซึ่งทำให้คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเลื่อนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปจนถึงเดือนกันยายน แต่กลับมาฟื้นตัวจากมุมมองทางบวกอีกครั้ง และหันไปจับตาการประชุมนโยบายการเงินของ ECB ในวัน นี้ซึ่งคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ และการประชุมน่าจะเน้นไปที่ความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นของECB ว่าสถานการณ์เหมาะสมที่ลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน
      
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีฟื้นตัวขึ้นด้วย หลังจาก TSMC บริษัทชิปของไต้หวันแจ้งรายรายได้รายไตรมาสดีกว่าคาด
      
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ลดลง 1.5%
      
หุ้นเทสโก้ บริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของอังกฤษ เพิ่มขึ้น 3.3% หลังคาดการณ์ผลกำไรเพิ่มขึ้น
      
ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ 506.59 จุด เพิ่มขึ้น 0.77 จุด, +0.15%
    
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,961.21 จุด เพิ่มขึ้น 26.42 จุด, +0.33%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,045.38 จุด ลดลง 3.79 จุด, -0.05%,
     
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,097.30 จุด เพิ่มขึ้น 20.61 จุด, +0.11%
      
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 98 เซนต์ หรือ 1.15% ปิดที่ 86.21 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 1.06 ดอลลาร์ หรือ 1.19% ปิดที่ 90.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล