กสิกรไทย รุกธุรกิจใน สปป.ลาว ต่อเนื่อง หลังผลงานดีสินเชื่อโตปีละ 73% ผ่านมา 4 ปี ไม่มี NPL ตั้งเป้าในปี 2562 ขยายยอดสินเชื่อ 3,000 ล้านบาท เงินฝากเพิ่มเป็น 2,000 ล้านบาท และธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศเป็น 18,000 ล้านบาท เล็งให้บริการ Mobile Banking
นายพัฒนพงศ์ ตัณฑ์สมบุญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยถึงผลดำเนินงานของบริษัท ธนาคารกสิกรไทย จำกัด สปป.ลาว ว่า ในช่วง 4 ปีที่ธนาคารกสิกรไทยดำเนินธุรกิจใน สาธารณะรัฐประชาธปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) สินเชื่อมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 73% เงินฝากเติบโตเฉลี่ยปีละ 29% และธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศที่ผ่านธนาคารกสิกรไทยเติบโตเฉลี่ยปีละ 17%
“ที่น่าสนใจก็คือ จากการควบคุมและจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพทำให้ยังไม่มีลูกค้าเป็น NPL แม้แต่รายเดียว” นายพัฒนพงศ์
ในปี 2561 มีเป้าหมายสินเชื่อ 2,400 ล้านบาท เงินฝาก 1,600 ล้านบาท มีธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศ (Trade Finance) ประมาณ 13,000 ล้านบาทต่อปี
สำหรับเป้าหมายในปี 2562 ธนาคารตั้งเป้าเงินให้สินเชื่อ 3,000 ล้านบาท เงินฝากเติบโตเป็น 2,000 ล้านบาท และธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศเป็น 18,000 ล้านบาท โดยโครงสร้างการปล่อยกู้ของธนาคารกสิกรไทย สปป.ลาว แบ่งเป็นการปล่อยกู้ให้กับกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ประกอบไปด้วย ภาครัฐของสปป.ลาว 33% ภาคเกษตร 19% ภาคก่อสร้าง 15% ภาคการพาณิชย์ 10% ภาคการขนส่ง 10% ภาคสินเชื่อเช่าซื้อ 8% ภาคอาหารและเครื่องดื่ม 6% ทั้งนี้เป็นการปล่อยกู้ให้กับกลุ่มลูกค้าท้องถิ่น สปป.ลาว (Local) 38% กลุ่มรัฐบาล สปป.ลาว (Government) 33% กลุ่มลูกค้าคนไทยที่มาลงทุนใน สปป.ลาว (TDI) 29%
“จากการที่รัฐบาลของสปป.ลาว ได้เปิดกว้างให้ภาคเอกชนทั้งของลาวและต่างประเทศเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการลงทุนสำคัญๆ หลายโครงการ ได้ส่งผลดีให้ภาคเศรษฐกิจของลาวมีการขยายตัวและกระจายตัวมากขึ้น โดยปัจจุบันมีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงถึง 7% และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง เพราะมีการก่อสร้าง โครงสร้างพื้นฐานเกิดขึ้นหลายอย่าง เช่น โครงการของรถไฟจากชายแดนลาวจากบ่อเต็ง” นายพัฒนพงศ์ กล่าว
นอกจากนี้ ธนาคารกสิกรไทยยังได้ขยายการให้บริการสำหรับกลุ่มลูกค้าวิสดอม (Wisdom) มีเงินฝากประจำประเภท 6 เดือนขึ้นไปกับธนาคารตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไปในสปป.ลาว ซึ่งก็ได้รับการตอบรับอย่างดี เนื่องจากเป็นธนาคารแรกและธนาคารเดียวที่ให้บริการ โดยมีลูกค้ากลุ่มบุคลลสำคัญในสปป.ลาว ให้ความไว้วางใจใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ธนาคารกสิกรไทย ยังเตรียมให้บริการ Mobile Banking เนื่องจากประชากร สปป.ลาว เข้าถึงบริการทางการเงิน มีเพียง 26% แต่มีอัตราการใช้โทรศัพท์มือถือสูงถึง 91% ซึ่งจะทำให้ลูกค้าธุรกิจของ สปป.ลาว เข้าถึงบริการทางการเงินได้ง่ายขึ้น และช่วยลดภาระการบริหารจัดการธนบัตร โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างยื่นขออนุญาตจากทางการลาว
“ธนาคารกสิกรไทยให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจในสปป.ลาว เนื่องจากเป็นประเทศที่มีโอกาสทางธุรกิจทั้งภาคการเงินและภาคอื่นๆ อีกมาก และเป็นประเทศที่ใกล้ชิดและคุ้นเคยกับประเทศไทยมากที่สุด นอกจากนั้นธนาคารกสิกรไทยยังมีนโยบายที่จะชักชวนลูกค้าในประเทศไทยให้เข้ามาลงทุนใน สปป.ลาว โดยการจัดบริการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) เพื่อการค้าการลงทุนระหว่างกัน และจะช่วยให้ธนาคารกสิกรไทย สปป.ลาว ได้ขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นเนื่องจากกลุ่มลูกค้าคนไทยที่มาลงทุนใน สปป.ลาว เป็นฐานลูกค้าที่สำคัญของธนาคารอีกกลุ่มหนึ่ง” นายพัฒนพงศ์ กล่าว
ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทยใน สปป.ลาว จดทะเบียนมีสถานะเป็นธนาคารท้องถิ่นของลาว ดำเนินธุรกิจมาแล้ว 4 ปี โดยเปิดสาขาแรกคือ สาขาโพนสีนวนในปี 2557 ด้วยพนักงาน 13 คน และสำนักงานใหญ่ที่ถนนล้านช้าง ในปี 2560 ปัจจุบันมีพนักงานกว่า 60 คน
ธนาคารกสิกรไทยมีแผนจะขยายและต่อยอดธุรกิจในภูมิภาค AEC+3 โดยมีแผนยุทธศาสตร์ 3 ด้านหลัก ๆ คือ การเปิดสาขาหรือสำนักงานที่เป็น Physical Footprint ในภูมิภาค AEC+3 โดยมีรูปแบบธนาคารท้องถิ่นจดทะเบียน (LII – Locally Incorporated Institution) สาขาธนาคารต่างประเทศ (FBB- Foreign Bank Branch) สำนักงานผู้แทนต่างประเทศ (Representative Office) ซึ่งขณะนี้ธนาคารกสิกรไทยมีสาขา ลาว กัมพูชา จีน และมีการลงทุนในธนาคารแมสเปี้ยน (Maspian) ในอินโดนีเซีย รวมถึงมีสำนักงานผู้แทนในเมียนมา เวียดนาม อินโดนีเซีย และญี่ปุ่น การขยายบริการด้านดิจิตอล (Digital Platform) มุ่งให้บริการทางการเงินโดยผ่าน Digital Channel และการเป็นพันธมิตรกับสถาบันการเงินท้องถิ่น (Partnership) ดำเนินธุรกิจร่วมกับพันธมิตรในภูมิภาค