“คิงส์ฟอร์ด”ลุ้นดัชนีทะลุ 1,200 จุด แนะ OR-KCG

HoonSmart.com>>บล.คิงส์ฟอร์ด คาดแนวโน้มดัชนีมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อแรงหนุนจากกนง.ลดดอกเบี้ย เปิดขายกองทุน Thai ESGX ดึงดูดเม็ดเงินเข้าสู่ตลาด แนวต้าน 1,205-1,215 จุด ส่วนแนวรับ 1,185-1,195 จุด คืนนี้ติดตามตัวเลขจ้างงานอกภาคเกษตรสหรัฐ เม.ย. พร้อมเสิร์ฟหุ้นเด่นแนะ OR, KCG

บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด ประเมินแนวรับดัชนี SET Index ที่ 1,185-1,195 จุด แนวต้าน 1,205-1,215 จุด คาดดัชนีมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อหนุนจาก กนง. ปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% รวมถึงความคาดหวังนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ และการเปิดขายกองทุน Thai ESGX ดึงดูดเม็ดเงินเข้าสู่ตลาด แนะนำทยอยซื้อหุ้นที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง SAWAD, MTC, KTC, GULF และกลุ่มที่มี ESG rating สูง ADVANC, SCC ,BDMS

นักลงทุนยังรอรายงานกำไร บจ.Q1/68 ซึ่ง Bloomberg คาด +24% QoQ, +1.9% YoY

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ DJIA +0.21%, S&P500 +0.63%, Nasdaq +1.5% ได้แรงหนุนจากรายงานกำไรกลุ่มเทคโนโลยี เช่น Microsoft +7.6% และ Meta Platform +4.2% หลังรายงานกำไรไตรมาสที่ผ่านมาดีกว่าคาด สาเหตุมาจากรายได้ของธุรกิจที่เกี่ยวกับ AI ขยายตัวได้ดี ซึ่งส่งผลบวไปยังกลุ่มผู้ผลิตชิป เช่น Nvidia +2.4% ขณะที่รายงานกำไร Q1/68 ของ Amazon หลังปิดตลาดนั้น ออกมาดีกว่าคาด จากรายได้ด้านบริการคลาวด์ในตลาดอเมริกาเหนือขยายตัวดี แต่ผู้บริหารให้มุมมองรายได้ใน Q2/68 มีแนวโน้มชะลอตัวลง

ทางด้านข้อมูลเศรษฐกิจวานนี้ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 18,000 อยู่ที่ 241,000 สูงกว่าคาดที่ 224,000 ราย

ส่วนค่ำวันนี้ติดตาม ตัวเลขจ้างงานอกภาคเกษตรสหรัฐ เม.ย.คาด 129,000 และ มี.ค. 228,000 ราย และอัตราว่างงานสหรัฐ เม.ย. คาดทรงตัวที่ 4.2%

ด้านตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 วานนี้ปิดทำการในวันแรงงาน ขณะที่ Euro Stat รายงาน GDP Q1/68 ยูโรโซน +0.4% และ Q4/67 +0.2% ดีกว่าคาด +0.2% QoQ ส่วนค่ำวันนี้ติดตาม CPI ยูโรโซน เม.ย. คาด 2.5% & มี.ค. 2.4% YoY

ส่วนผลการประชุม BOJ มีมติคงดอกเบี้ยไว้ที่ 0.5% ตามคาด โดย BOJ ได้ปรับลดคาดการณ์ GDP ญี่ปุ่นปีนี้ลงอยู่ที่ 0.5% และเดิมคาด 1.1% YoY เป็นผลจาก ม.กัดกันการค้าของสหรัฐ และคาด Core CPI ญี่ปุ่นปีนี้ลดลงอยู่ที่ 2.2% และเดิมคาด 2.4% YoY

หุ้นเด่นแนะนำ OR (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 14.80 บาท) บริษัทมีแผนกลยุทธ์เพื่อแย่งชิง market share กลับคืนมา ด้วยการเปิดสถานีบริการใหม่ 100 แห่ง เน้นพื้นที่มีศักยภาพ ปรับปรุงสถานีบริการเก่าและจัดแคมเปญการตลาดเพื่อดึงดูดลูกค้า โดยธุรกิจ Mobility คาดปริมาณขายเพิ่มขึ้นขณะที่อัตรากำไรต่อหน่วยฟื้นตัวจากแรงกดดันของรัฐลดลงหลังสถานะกองทุนน้ำมันดีขึ้น ส่วนธุรกิจ Lifestyle เพิ่มขึ้นตามยอดขายกาแฟและไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษจากการปิด Texas Chicken 442 ล้านบาท

ทั้งนี้ในปี 68 ตั้งงบลงทุนที่ 1.89 หมื่นล้านบาท รองรับแผนกลยุทธ์ข้างต้นซึ่งรวม M&A และ innovation & new business อ้างอิงจาก consensus ตลาดคาดกำไรปี 68-69 ที่ 9.7 พันล้านบาท +27%YoY และ 1.09 หมื่นล้านบาท +12%YoY

หุ้น KCG* (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 11.34 บาท) แนวโน้มการดำเนินงาน 1Q68 แม้จะดูอ่อนตัว QoQ ตามฤดูกาล แต่ YoY มีโอกาสที่จะโตได้หนุนจากสินค้ากลุ่ม Food and Bakery Ingredient

ด้าน KCG* เอง วางเป้ารายได้ปี68นี้ +6 ถึง 9%YoY ปัจจัยขับเคลื่อนหลักจะมาจากสินค้าใหม่ๆ การหาตัวแทนกระจายสินค้าเพิ่มเติม และการให้ความสำคัญกับช่องทางออนไลน์ ขณะที่ในส่วนของต้นทุนค่าใช้จ่ายคาดว่าจะได้ประโยชน์จาก Solar Roof รวมถึงการเปิดใช้งาน KCG Logistic Park ทั้งนี้ ตลาดคาดว่าในปี68 และ69 กำไรสุทธิของ KCG* จะอยู่ที่ระดับ 441 ล้านบาท (+9%YoY) และ 496 ล้านบาท (+12%YoY)

 
 
 
 
 
 
———————————————————————————————————————————————————–